Art & Event

"จ่ายตลาด JaiTalad" เป็นชื่อของตลาดที่ได้รวบรวมเหล่าร้านค้ามากมายที่มีอุดมการณ์ในการส่งต่อสินค้าที่เป็นมิตรต่อคนและสิ่งแวดล้อมให้ลูกค้าเข้าไว้ด้วยกัน ให้เราสามารถซื้อสินค้าเหล่านี้แบบออนไลน์ส่งตรงถึงบ้านได้ พร้อมคอยเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจของแต่ละสินค้า ให้เบื้องหลังการผลิตของครัวเรือนออกสู่สายตาผู้บริโภคได้เห็นความเป็นมาของอาหารปลอดภัยเหล่านี้และเห็นถึงคุณค่าที่ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค นอกจากขายออนไลน์แล้วก็ยังร่วมกันออกอีเว้นท์เพื่อจำหน่ายสินค้าออร์แกนิคให้ถึงมือผู้บริโภคในเมืองกรุงอย่างเราๆได้เข้าถึงง่ายขึ้นอีกด้วย อย่างครั้งนี้จัดกันกลางเมืองย่านธุรกิจอย่างทองหล่อที่ทองหล่อซอย 3 บนพื้นที่สวนเล็กๆย่านทองหล่ออย่าง "สวนครูองุ่น" บรรยากาศภายในตลาดเป็นไปอย่างอบอุ่น เด็กๆเล่นกันในมุมของเล่นสาธารณะ ภายในมีคาเฟ่ให้เราได้ซื้อเครื่องดื่มเย็นๆดับร้อน ร้านค้าตั้งอยู่ในซุ้มของตัวเองใต้ร่มไม้ในสวน ส่วนตัวตลาดเองก็มาพร้อมกับคอนเซ็ปน่ารักๆที่อยากจะช่วยกันลดขยะภายในงาน พร้อมรณรงค์การใช้ลดถุงพลาสติก มีการงดให้/รับถุงพลาสติกทั้งร้านค้าและลูกค้า ลูกค้าจะพกถุงผ้ามาจากบ้านหรือใส่ของลงในกระเป๋าใบโตของตัวเองก็ได้ ทางเข้ามีตะกร้าหลายใบให้เรายืมไปช้อปปิ้งภายในงานก่อนได้ น้ำเปล่าเย็นๆถูกเสิร์ฟให้ผู้คนภายในด้วยแก้วกระดาษทั้งตรงทางเข้าและด้านหลังของตลาด ตะกร้าให้ยืมไปจ่ายตลาดซื้อของจากในงานได้ :) พร้อมรายล้อมไปด้วยร้านค้าที่มีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจมากมายภายในงาน มีผลผลิตอินทรีย์จากเกษตรกรโดยตรงที่นำมาขายด้วยตัวเอง ปลูกแบบไร้สารเคมีให้ได้มากที่สุดและแปรรูปบนสวนและฟาร์มของตัวเอง มีผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตและเจ้าของธุรกิจที่สนใจในผลผลิตอินทรีย์แล้วนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายอาหารปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคและยังเป็นการสนับสนุนเหล่าเกษตกรของไทยอีกด้วย น้ำอ้อยคั้นสดแท้ 100% ตรา CAN น้ำอ้อยสดผสมน้ำผึ้งมะนาวจากอ้อยในไร่อ้อยเกษตรอินทรีย์ "ไร่โชคอำนวย หนองหญ้าไซ" เจ้าของไร่เค้ามาขายด้วยตัวเองเลยค่ะ ราคาแค่แก้วละ 40 บาท เสิร์ฟพร้อมหลอดไม้ไผ่และที่ถือแก้วที่คนขายนั่งทำเองทีละอันอยู่ที่บูท ลองแล้วรสชาติอร่อยมาก ดื่มแล้วสดชื่น หวานเปรี้ยวนิดๆ ฟินจนพี่เดินเล่นจากดองกี้ทองหล่อ ซอย 10 ที่อยู่ไม่ไกลกันเสร็จกลับมาต้องแวะซ้ำอีกรอบกับน้ำอ้อยธรรมดาบ้าง ไม่ผิดหวังเพราะก็อร่อยไม่ทิ้งกัน ! เราใช้แก้วเดิมเค้าลดให้อีก 5 บาท...

สวนครูองุ่น สวนเล็กๆที่ถูกสงวนไว้เพื่อทุกคนใจกลางทองหล่อ เป็นพื้นที่สาธารณะขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในทองหล่อซอย 3 ท่ามกลางย่านธุรกิจที่มีตึกสูงมากมาย ร้านอาหารมีชื่อที่ราคาอาหารไม่ค่อยเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าเราซักเท่าไหร่ บาร์คลับต่างๆเรียงราย มองขึ้นไปก็จะเห็นคอนโดที่กำลังสร้างใหม่อีกมากมาย แต่สวนแห่งนี้ยังถูกสงวนไว้ให้เป็นสวนสาธารณะให้กับคนเมือง หากทุกคนได้มีโอกาสมาเดินเล่นแถวทองหล่อ เราอยากแนะนำให้แวะมานั่งเล่นพักใจที่สวนเล็กๆแห่งนี้กันซักพักดูค่ะ หากท่านมีลูกหลานก็พามาเล่นของเล่นกันที่นี่ได้ หรือใครมีของเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้วอยากนำมาแบ่งปันเพื่อให้เป็นประโยชน์กับคนอื่น ก็สามารถพกมาบริจาคให้แก่มูลนิธิกระจกเงาได้ที่นี่เช่นกัน ทางสวนจะมีกิจกรรมต่างๆจัดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้อยู่บ่อยครั้ง คราวที่แล้วเป็นงาน ร้านงานคราฟท์และสินค้าออร์แกนิคน่าอุดหนุนจาก NooJo Art & Farm เราก็ชอบไปเดินเล่น เดินดูนู่นดูนี่ ได้งานคราฟท์น่ารักๆติดไม้ติดมือกลับมา ได้ของกินออร์แกนิคอร่อยๆจากพี่ๆเจ้าของไร่และฟาร์มโดยตรง ครั้งนี้ก็จัดอีกแต่เป็นในชื่อของ Charity Yard Sales กับพี่ๆเจ้าของผลงานและสินค้าที่น่าสนใจมากมาย เราเองก็เลยไม่พลาด ขอเข้าไปทำความรู้จักกับพี่ๆจากร้านงานคราฟท์และร้านอาหารออร์แกนิคต่างๆภายในงาน ขอถ่ายรูป และช่องทางการติดต่อเก็บไว้ พร้อมชวนคุย แล้วนำเรื่องราวของสินค้าน่ารักต่างๆเหล่านี้มาบอกต่อให้กับทุกคนที่ชื่นชอบในงานคราฟท์และอาหารออร์แกนิคเหมือนกันกับเรา บอกเลยว่ามีแต่ร้านเจ๋งๆทั้งนั้น ! ไปดูภาพบรรยากาศในงานกันค่ะ ชอบร้านไหนเป็นพิเศษก็จับจองไว้ในใจกันได้เลย :) ร้านขายสบู่ทำมือ "เฌอม" สบู่จากน้ำมันมะกอกธรรมชาติและเชียบัตเตอร์ ไม่มีน้ำหอม 50 กรัม...

เสาร์อาทิตย์นี้มีแพลนไปเที่ยวไหนกันรึยังคะ? ถ้ายังไม่มีแพลนไปทำอะไรหรือมีแพลนที่ยังสามารถเลื่อนออกไปก่อนได้ล่ะก็ เราอยากจะชวนเพื่อนๆใช้เวลาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้มาช้อปคลายเครียดกันดีกว่าค่ะที่งาน สหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 23 ในวันเสาร์อาทิตย์ที่ 29 – 30 มิถุนายน 2562 นี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 จนถึง 22.00 น. ณ ไบเทคบางนา Takemeaway ได้ไปแวะสำรวจเหล่าร้านค้าทั้งหลายภายในงานมาพร้อมเก็บข้อมูลและรูปภาพบรรยากาศภายในงานโดยรอบมาฝากเพียบ ต้องบอกเลยว่าของลดราคาเยอะมากจนคุณอาจจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยหล่ะ พกกระเป๋าหรือรถเข็นส่วนตัวมาให้พร้อมแล้วลุยช้อปได้ทุกอย่างที่คุณต้องการได้เลยที่งานนี้ Saha Group Fair งานเดียวคุ้ม ! เพราะเป็นอีเว้นท์ที่ได้รวบรวมสินค้าจากร้านค้ามากมายถึง 1000 กว่าแบรนด์ดังจากเครือสหพัฒน์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกิน เครื่องแต่งกาย ของใช้ เครื่องสำอาง และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ พร้อมกิจกรรมสนุกภายในงาน ทั้งแจกของฟรี มีคอนเสิร์ตจากนักร้องชื่อดัง และเหล่าโปรโมชันของร้านค้าต่างๆ ต่างคนต่างขายของหนักมาก ให้ชิมฟรีแล้วชิมฟรีอีกเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าของเค้าอร่อยจริงก่อนซื้อ เหล่าแบรนด์เนมต่างๆก็พากันลดราคากระหน่ำ summer sales...

หากทุกคนยังไม่รู้ว่าจะใช้เวลาในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์อย่างไรให้คุ้มค่าหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาตลอดทั้งอาทิตย์ Takemeaway อยากจะชวนทุกคนพกท้องว่างๆ พร้อมถุงผ้าและขวดน้ำมาเดินเล่นที่ Greeney Market ณ สวนเล็กๆย่านสยามอย่าง "Park@Siam" ใกล้กับศูนย์หนังสือจุฬา เพื่อหาของอร่อยๆพร้อมทั้งดีต่อสุขภาพกินให้ฟินกันไปข้างนึง Jinta homemade ice-cream FB Page: Jinta homemade ice-cream FB Page ไอศกรีมออแกนิครสมะพร้าว หอมหวานนิดๆ เราเคยลองกินรสฟักทองก็เซอร์ไพร์สมากเพราะอร่อยจนไม่น่าเชื่อเลยหล่ะ คะน้าสะระแหน่ก็อร่อยจนพี่งงว่า เห้ย ผักมันเอามาทำไอติมได้อร่อยขนาดนี้เลยเรอะ เสาวรสก็อร่อย แพ็คเกจนางก็น่ารักมากจนพี่ทิ้งไม่ลงถึงขั้นต้องเก็บกลับบ้านเอามาใส่เหล่ากำไรและยางมัดผม ฮ่าๆ ถ้าอยากกินไอติมร้านนี้ต้องมาเร็วหน่อยนะ ขายดีมาก เคยไปครั้งนึงตอนตลาดใกล้จะเลิกเหลือตัวเลือกให้เลือกไม่เยอะ แต่รสอะไรก็อร่อยทั้งนั้นละพี่ว่า ไม่เชื่อก็ต้องมาลองดูแล้วละ โรยถั่วมากน้อยตามใจฉันเพิ่มสิ ฟินเฟ่อออ ภายใต้สโลแกนของ "eat good live green" ของ Greenery พวกเขามีความตั้งใจที่จะส่งต่อเจตนารมณ์ที่ดี อยากเห็นสังคมที่ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของอาหารปลอดภัย หันมาเปลี่ยนพฤติกรรมที่ส่งผลเชิงบวกต่อสุขภาพตัวเองและสุขภาพของโลกมากยิ่งขึ้น และร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะขับเคลื่อนโลกใบนี้ให้หมุนไปสู่วิถีที่เชื่อเรื่องการบริโภคอย่างยั่งยืน สร้างวัฒนธรรมสีเขียวให้แข็งแรงขึ้นมาในสังคมไทยของเรา ผัดไทยเส้นข้าวกล้อง อร่อยยย ถ้านำภาชนะมาเอง เอาส่วนลดไปเลย 5...

"Sundaekids" เพจที่เล่ามุมมองความรักผ่านรูปวาดแบบ story telling ออกมาได้โดนใจชวนให้คนกดไลค์กดแชร์ ภาพสีหวานๆที่มีลายเส้นชัดเจน ทั้งน่ารักทำให้อมยิ้มสำหรับคนอินเลิฟหรือดราม่าแบบที่สื่อสารออกมาอย่างเข้าอกเข้าใจคนอกหักได้เป็นอย่างดี ซึ่งเพจตอนนี้มีคนติดตามมากถึง 1.45 ล้านคนแล้ว ! Takemeaway ตามกดไลค์กดแชร์มานานจนเห็นว่า Sundaekids จะมี art exhibition ที่ Yelo house เลยรีบตรงดิ่งไปในวันหยุดทันที มีตัวการ์ตูนออกมาต้อนรับตั้งแต่ข้างนอกเลย ลง bts สนามกีฬาฝั่งหอศิลป์ เดินย้อนถนนมาเลี้ยวเข้าซอยเกษมสันต์ 1 เดินไปจนสุดซอย ถึงแล้ว.. ตามขึ้นไปดูด้านบนกันเลย.. Sundaekids เป็นผลงานร่วมกันของ โป๊ยเซียน-ปราชญา มหาเปารยะ และ กวิน เทียนวุฒิชัย เพื่อนสมัยที่เคยเรียนศิลปกรรมศาสตร์จุฬามาด้วยกัน กวินจะเป็นคนคิดโครงภาพ เรื่อง และฉากต่างๆ ส่วนโป๊ยเซียนจะเป็นคนวาดภาพ รวมกันออกมาเป็นการ์ตูนช่องหรือเรื่องยาวแบบที่ได้เห็นกัน ทั้งสองได้นำความรู้ที่ได้เรียนมาสร้างสรรค์งานในแบบที่ตัวเองชื่นชอบจนประสบความสำเร็จ เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ มีผลงานที่ทำให้กับแบรนด์ต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็น Siam Discovery, Baskin Robbins...

Takemeaway ได้ไปงานครบรอบวันเกิดของ Lush Thailand ที่ผ่านมา แบรนด์เครื่องสำอางค์และสินค้าออแกนิกที่มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นมาร์กหน้าผลไม้สด ที่สดจริงเพราะมีอายุแค่เดือนเดียวเท่านั้น ดูแลผิวให้นุ่มหอมง่ายๆได้เองที่บ้านพร้อมสนุกกับสีสันและลูกเล่นที่แตกต่างกันของ bath bomb แต่ละแบบ มีไอเดียออกมาใหม่เรื่อยๆต้อนรับเทศกาลต่างๆตลอดปี แป้ง glitter ที่ทำจากแป้งข้าวโพดไม่เป็นอันตรายต่อผิว ทาตัวให้วิ้งจากกากเพชรธรรมชาติ ทางร้านเน้นออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อผิวและสิ่งแวดล้อม ใช้ถุงกระดาษหรือห่อของขวัญด้วยผ้าสไตล์ญี่ปุ่น รายได้ส่วนหนึ่งที่ได้จากการขายสินค้าจะถูกบริจาคให้กับองค์กรต่างๆเช่น Chamaliin องค์กรที่ทำงานเพื่อผู้อพยพที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย Bath bomb rainbow ที่จะมอบรายได้ส่วนหนึ่งให้กับเด็กในประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิตั้งแต่ปี 2011 และระเบิดนิวเคลียร์ในประเทศญี่ปุ่นร่วมกับโปรเจค a FunD ทางร้านมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกกัน พวกเราเลยได้ลองเพ้นท์เฮนน่ากันเป็นครั้งแรกโดยฝีมือคนปากีสถาน สมาชิกจาก Chamaliin Project Facebook: Lush Thailand FB Instagram: Lush Thailand IG สมุดจากกระดาษ Recycle ที่วาดลวดลายเฮนน่าบนปก การเพ้นท์เฮนน่าถูกใช้ในพิธี "เมเฮนดี" เพื่อเพ้นท์ร่างกายของเจ้าสาวชาวอินเดียเป็นลายสัตว์ ใบไม้ ดอกไม้ พระอาทิตย์ หรือทิวทัศน์ เชื่อกันว่าสีน้ำตาลแดงที่ใช้เพ้นท์นั้นเป็นตัวแทนของความมั่งคั่งร่ำรวยที่เจ้าสาวจะนำมาสู่ครอบครัวของเจ้าบ่าว สื่อถึงความงดงามของเจ้าสาวและความรักที่ทั้งคู่มีให้กัน โดยมีการเขียนชื่อของเจ้าบ่าวซ่อนไว้ในลวดลายอันสลับซับซ้อนนั้นด้วย...

'Pianissimo' ในภาษาอิตาลีแปลว่า 'แผ่วเบา' ทางร้านใช้ชื่อนี้เพราะชอบในเสียงดนตรีที่เบาสบายน่าฟัง เสียงนั้นไพเราะและสามารถส่งต่อความเรียบง่ายอ่อนโยนไปยังผู้ฟัง แม้จะเพียงแผ่วเบา.. คนที่ตั้งใจฟังจริงๆก็จะได้ยินมันอย่างชัดเจน การ์ดภายในร้านส่วนใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ออกมาจากถ้อยคำในหนังสือ หนัง และศิลปินที่พี่เมย์ เจ้าของร้านนั้นชื่นชอบ หรือเป็นตัวการ์ตูนที่ถูกออกแบบขึ้นมาเองโดยไม่ซ้ำแบบใคร เป็นการส่งมอบถ้อยคำดีๆและรูปน่ารักๆที่ให้ความรู้สึกพิเศษแก่ผู้ได้รับการ์ดนั้นเป็นอย่างดี มาลองเดินๆดูที่ร้านอาจจะเจอการ์ดที่มาจากหนังสือหรือหนังที่คุณชื่นชอบก็ได้นะ การ์ดในโอกาสหรือเทศกาลต่างๆ Happy New year 2019  Merry X'Mas   Graduation Ceremony  Please grow birthday card Happy Anniversary  นอกจากการ์ดแล้ว ที่ร้านก็ยังมีถุงผ้า สติ๊กเกอร์ หนังสือทำมือ แก้วน้ำ กระดาษห่อของขวัญ ทั้งของพี่เมย์หรือเพื่อนศิลปินท่านอื่นๆให้ได้เลือกซื้อกันอีกด้วย ทุกอย่างเริ่มต้นจากการที่พี่เอกได้เจอเข้ากับเครื่อง letter press ‘Adana 8x5’ ที่เป็นเหมือนงานอดิเรกสำหรับชาวอังกฤษจากตลาดสินค้ามือสองออนไลน์ แล้วก็ตัดสินใจซื้อมาโดยที่ไม่รู้ว่าจะมันใช้งานยังไง จะประกอบมันได้ไหม หลังจากที่ได้มา พี่เอกและพี่เมย์ก็ได้ทำการลองผิดลองถูกกับการใช้งานเจ้าเครื่องนี้ด้วยตัวเองแต่ก็ยังไม่เวิร์ค เสียทั้งเงินและเวลา จนสุดท้ายก็ตัดสินใจพากันไปโรงพิมพ์เก่าตามสถานที่ต่างๆ จนได้ไปเจอกับคนที่รู้วิธีการใช้งานของเจ้าเครื่องนี้ ส่วนใหญ่ก็อายุเกิน 70 กันทัั้งนั้น แต่ก็ได้ให้ความช่วยเหลือพี่เอกและพี่เมย์เป็นอย่างดี ให้อุปกรณ์บางอย่างที่ไม่สามารถหาซื้อที่ไหนได้มาลองใช้ จนเป็นเวลาเกือบ...

"กลุ่มใบไม้" จนถึงวันนี้มีอายุครบ 10 ปีแล้วกับการรวมตัวกันทำงานเพื่อธรรมชาติ ผืนป่า สัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อม เริ่มจากกลุ่มนักศึกษาที่รักในงานอนุรักษ์ได้ชวนเพื่อนๆมาจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกๆคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่สนใจได้เข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าเขาใหญ่ เพื่อตระหนักถึงคุณค่าและช่วยกันอนุรักษ์ให้มากขึ้นด้วยการ "ทำในสิ่งที่เราทำได้ ณ จุดที่เราอยู่ ด้วยสิ่งที่เรามี" วันเวลาผ่านไป.. กิจกรรมต่างๆทำให้คนรู้จักกับกลุ่มใบไม้มากขึ้น ในขณะเดียวกันกลุ่มใบไม้เองก็ได้รู้จักกับกลุ่มคนที่สนใจในเรื่องเดียวกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนมารวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ให้มีพลังเยอะขึ้น เพื่อช่วยกันสร้างสรรค์และทำกิจกรรมดีๆเพื่อธรรมชาติกันต่อไป.. กลุ่มใบไม้ใด้ใช้เวลาเกือบ 2 เดือนในการเนรมิตสวนมะยงชิดของคุณพ่อพี่เก่ง หัวหน้าของกลุ่มใบไม้ที่อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ให้กลายมาเป็น Baimai Activity Space พื้นที่ในการจัดงานครั้งนี้ออกมาได้อย่างน่ารัก ทุกๆมุมของที่นี่แสดงให้เห็นว่าถูกคิดค้นมาอย่างดีและทำออกมาอย่างตั้งใจ ส่วนใหญ่จะเน้นทำจากวัสดุธรรมชาติ.. พี่ชอบเวทีมากๆเลย โคตรเท่ ! ทางเดินดาว สวยเนอะ ขอบคุณที่ทำให้มีค่ำคืนที่ดี Looksorn - Hope family บทเพลงที่มีความหมายดีๆเกี่ยวกับเรื่องราวของความรัก ความฝัน เพื่อน และการดำเนินชีวิตของเหล่าศิลปินอิสระมากมายถูกแวะเวียนเข้ามาถ่ายทอดเสียงเพลงให้ฟังเพลินๆภายในงานกัน เราชอบเสียงของพี่ลูกศรจากวง Hope Family จัง พี่เค้าร้องเพลงโปรดของเรา...

"NooJo Art & Farm" เป็นตลาดนัดที่จัดขึ้นโดยคุณหนู ภัทรพร และ คุณโจ วีรวุฒิ เจ้าของฟาร์มในอัมพวาที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ WWOOF เครือข่ายอาสาสมัครในฟาร์มออร์แกนิคในหลายประเทศ และเป็นพื้นที่สร้างสรรค์เปิดให้อาสาสมัครจากทั่วโลกได้มาเรียนรู้เกี่ยวกับการทำสวนภายในฟาร์มของพวกเค้า นอกจากนี้ยังเปิดให้บริการเป็นที่พัก Airbnb ให้กับผู้คนที่มาเที่ยวอัมพวากัน หากใครสนใจ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ NooJo Art & Farmstay น้ำมะพร้าวดื่มด้วยหลอดจากต้นอ้อ Take me away ได้ไปเดินเล่นที่ตลาดนัดแห่งนี้ที่จัดขึ้น ณ สวนครูองุ่น ทองหล่อซอย 3 พื้นที่สาธารณะที่สามารถเช่าสถานที่เพื่อจัดกิจกรรมต่างๆได้ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสวนครูองุ่นได้ที่นี่เลยค่ะ สวนครูองุ่น สวนเล็กๆที่ถูกสงวนไว้เพื่อทุกคนใจกลางทองหล่อ) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ประทับใจมากคือเค้ารณรงค์งดใช้พลาสติก แก้ไขปัญหาขยะเกลื่อนหลังเลิกงานจากประสบการณ์ที่ผ่านมา จึงเชิญชวนทุกคนที่มางานให้พกถุงผ้ามาด้วย ถ้าไม่มีแบบเราที่ลืมพกไปด้วย ชิ้นเล็กๆก็แค่หยิบใส่กระเป๋าซะ ส่วนชิ้นใหญ่หน่อยทางร้านก็จะใส่ถุงผ้าที่มีเตรียมไว้ให้หรือนำถุงพลาสติกที่ใช้แล้วมาใช้ซ้ำอีก เหล่าแม่ค้าพ่อค้าที่นี่ชวนเราคุยอย่างเป็นกันเอง เป็นมิตรมาก และมีแต่สินค้าน่ารักๆน่าอุดหนุนเต็มไปหมด Takemeaway จึงได้ขอถ่ายภาพและขอช่องทางติดต่อต่างๆเก็บไว้มาฝากทุกคนที่รักในงานคราฟท์และสินค้าออร์แกนิคเหมือนกัน เราได้ของน่ารักๆและมีประโยชน์ติดไม้ติดมือกลับบ้านมาเต็มเลย...

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปดูหนังที่โรงหนังทางเลือก House RCA เป็นครั้งแรก ปกติไม่ค่อยดูหนังในโรงเท่าไหร่นักเพราะราคาแพงและในโรงหนังก็หนาวซะเหลือเกิน ชอบย้อนหาดูหนังเก่าๆที่น่าสนใจซะมากกว่า หนังแนวโปรดของผู้หญิงเพ้อๆอย่างเราก็คือหนังรักโรแมนติกอย่าง One day, The Note Book, Love Rosie และ Me before you พอเราเห็นคนแชร์เกี่ยวกับหนังเรื่อง "Wildlife" หนังที่พูดถึงอีกแง่มุมนึงของความรักและครอบครัว ที่มีฉายที่ House RCA ด้วย พร้อมกับพระเอกสุดหล่อคนโปรดของเราอย่าง เจค จิลเลนฮาล (Jake Gyllenhaal) รับบทเล่นเป็นคุณพ่อเจอร์รี่ (Jerry Brinson) ในครั้งนี้ เลยเป็นโอกาสดีที่จะได้มาดูหนังที่โรงหนังอินดี้แห่งนี้ซักที เคยได้ยินแต่คนพูดถึง.. วิธีเดินทางไป House RCA คือลง MRT สถานีเพชรบุรีทางออกที่ 1 แล้วเดินย้อนไปจนถึงทางรถไฟจะมีรถมอเตอร์ไซด์จอดรออยู่ บอกไป House RCA ราคาจะอยู่ที่ 30 บาท...