Baimai Craft Camp “10th Anniversary” December 22-23, 2018

Baimai Craft Camp “10th Anniversary” December 22-23, 2018

“กลุ่มใบไม้” จนถึงวันนี้มีอายุครบ 10 ปีแล้วกับการรวมตัวกันทำงานเพื่อธรรมชาติ ผืนป่า สัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อม เริ่มจากกลุ่มนักศึกษาที่รักในงานอนุรักษ์ได้ชวนเพื่อนๆมาจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกๆคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่สนใจได้เข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าเขาใหญ่ เพื่อตระหนักถึงคุณค่าและช่วยกันอนุรักษ์ให้มากขึ้นด้วยการ “ทำในสิ่งที่เราทำได้ ณ จุดที่เราอยู่ ด้วยสิ่งที่เรามี” วันเวลาผ่านไป.. กิจกรรมต่างๆทำให้คนรู้จักกับกลุ่มใบไม้มากขึ้น ในขณะเดียวกันกลุ่มใบไม้เองก็ได้รู้จักกับกลุ่มคนที่สนใจในเรื่องเดียวกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนมารวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ให้มีพลังเยอะขึ้น เพื่อช่วยกันสร้างสรรค์และทำกิจกรรมดีๆเพื่อธรรมชาติกันต่อไป..

กลุ่มใบไม้ใด้ใช้เวลาเกือบ 2 เดือนในการเนรมิตสวนมะยงชิดของคุณพ่อพี่เก่ง หัวหน้าของกลุ่มใบไม้ที่อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ให้กลายมาเป็น Baimai Activity Space พื้นที่ในการจัดงานครั้งนี้ออกมาได้อย่างน่ารัก ทุกๆมุมของที่นี่แสดงให้เห็นว่าถูกคิดค้นมาอย่างดีและทำออกมาอย่างตั้งใจ ส่วนใหญ่จะเน้นทำจากวัสดุธรรมชาติ.. พี่ชอบเวทีมากๆเลย โคตรเท่ !

ทางเดินดาว สวยเนอะ ขอบคุณที่ทำให้มีค่ำคืนที่ดี

Looksorn – Hope family

บทเพลงที่มีความหมายดีๆเกี่ยวกับเรื่องราวของความรัก ความฝัน เพื่อน และการดำเนินชีวิตของเหล่าศิลปินอิสระมากมายถูกแวะเวียนเข้ามาถ่ายทอดเสียงเพลงให้ฟังเพลินๆภายในงานกัน เราชอบเสียงของพี่ลูกศรจากวง Hope Family จัง พี่เค้าร้องเพลงโปรดของเรา “Imagine” ของ John Lennon ออกมาได้เพราะมากๆ

Imagine there’s no heaven
It’s easy if you try
No hell below us
Above us only sky
Imagine all the people living for today
Imagine there’s no countries
It isn’t hard to do
Nothing to kill or die for
And no religion too
Imagine all the people living life in peace
You may say I’m a dreamer
But I’m not the only one
I hope some day you’ll join us
And the world will be as one
Imagine no possessions
I wonder if you can
No need for greed or hunger
A brotherhood of man
Imagine all the people sharing all the world

ภายในงานจะมีกิจกรรมเกี่ยวกับงานศิลปะทำมือต่างๆที่สอดแทรกการเชื่อมโยงตัวเรากับธรรมชาติให้ได้ร่วมสนุกกัน เราลงทะเบียนเรียนการเพ้นท์สีครามเอาไว้ ซึ่งเป็นพี่นะโมจาก ( FB : Namo Satu ) ร้านขายงานครามจากจังหวัดสิงห์บุรีมาสอนการเพ้นท์ครามและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสีครามจากธรรมชาติว่ากว่าจะได้มานั้นไม่ง่ายเลย  แถมยังให้เราลองชิมครามดูอีกต่างหากว่ารสชาติมันเป็นยังไง พิสูจน์ว่าครามของเค้านั้นของจริงไม่ใช่ครามเคมีที่มีขายกันนะจ๊ะ

สีครามทำมาจากต้นครามซึ่งเป็นไม้พุ่มตระกูลถั่ว โดยนำมาแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 1-3 วันจนน้ำเปลี่ยนสีแล้วจึงแยกกากออก จากนั้นใส่ปูนขาวลงไปเพื่อให้สีมาจับที่ปูนขาวนี้และทำการตีครามที่ต้องใช้แรงกวนให้เกิดฟองจนน้ำครามค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่โหดเพราะต้องใช้แรงและความอดทนค่อนข้างมาก เสร็จแล้วพักให้เนื้อครามนั้นตกตะกอนแล้วค่อยเทน้ำออกก็จะได้เป็นเนื้อครามออกมา..

ต่อไปเป็นการก่อหม้อโดยผสมเนื้อครามกับน้ำขี้เถ้าและมะขามเปียก เนื้อครามแท้ๆนั้นจึงมีราคาค่อนข้างแพงเพราะมะขามเปียกและน้ำขี้เถ้าที่เผาได้จากเปลือกทุเรียนนั้นมีต้นทุนสูง หม้อครามนั้นต้องดูแลให้ดี หมั่นคอยสังเกตุสีและให้อาหารพวกน้ำขี้เถ้าและมะขามเปียกเพื่อให้สีในหม้อนั้นใช้ได้นานๆ หากไม่ดูแล สีในหม้อนั้นอาจจะเสียไป ย้อมผ้าไม่ติดและไม่สามารถกู้กลับมาใช้ใหม่อีกได้ ต้องก่อหม้อใหม่ขึ้นมา ถ้าต้องการย้อมสีครามให้มีสีเข้มขึ้นก็ต้องย้อมผ่านหลายหม้อด้วยกัน

ลองดมกลิ่นเหมือนอาหารทะเลอ่ะ ฮ่าๆ ชิมไปก็ฝาดๆ แถมหวานด้วยเพราะมีการใส่น้ำตาลเข้าไปด้วยเพื่อสร้างเม็ดสีให้คงอยู่นานและทำให้สีครามนั้นเข้มขึ้น

อุปกรณ์ในการเพ้นท์คือหลอดหยด dropper ซึ่งไม่สามารถใช้พู่กันได้เพราะสีครามไม่ควรโดนอากาศโดยตรงก่อนถึงตัวผ้า จะทำให้สีไม่ติด

ผลงานของพี่เอง ฮ่าๆ สนุกดี

ตากไว้จนแห้งเสร็จแล้วก็นำไปล้างน้ำสะอาดเพื่อทำให้หน้าสีครามที่เป็นก้อนหลุดออกแล้วนำมาตากแดดให้แห้งอีกครั้งหนึ่ง

คุณแม่ที่นั่งข้างๆวาดเป็นครอบครัวของเค้าน่ารักดี มาเพ้นท์กันเป็นครอบครัวเลย พ่อ แม่ ลูก

ของใครนะ สวยจัง

ข้างๆกันก็มีการเรียนรู้การทำสีจากวัสดุที่หาได้ในธรรมชาติโดยครูแซน 

สอนทำสมุดทำมือโดยพี่น้ำ กลุ่มใบไม้

ภายในงานมีการรณรงค์ลดการใช้พลาสติกโดยมีน้ำดื่มฟรีไว้ให้บริการตลอดงาน ชวนทุกคนพกกล่องข้าว ช้อนส้อม และขวดน้ำมากันเองเพื่อลดการใช้พลาสติกอีกทาง ส่วน Food Truck และซุ้มอาหารต่างๆก็จะใช้ภาชนะจากวัสดุธรรมชาติทั้งใบตอง จานกระดาษ กระบอกไม้ไผ่ หลอดไม้ไผ่ หลอดต้นอ้อ หรือมีภาชนะและช้อนส้อมให้ยืม กินเสร็จก็ล้างคืนให้เรียบร้อย  นอกจากนี้ยังมีการลดราคาให้หากนำแก้วน้ำมาเองอีกด้วย

พั๊ฟทอดหลบไป พั๊ฟย่างแป้งบางๆไส้เต็มๆ แป้งทำจากข้าวกล้องของ “มะลิ สวนดินคานาอัน” พี่ลองกินรสมันม่วงไป อร่อยมากกก อยากให้ทุกคนได้ลอง พี่เค้าเดินทางมาจากกรุงเทพ ปกติออก food truck ตามตลาดอาหารคลีนต่างๆอย่างงานของ Greenery  market ที่สยาม สามารถติดตามเพจพี่เค้าได้ที่นี่เลยน้า มะลิ สวนดินคานาอัน   

น้ำตะไคร้ใบเตยหอมหวานเย็นชื่นใจ พี่ชอบแก้วมากจนพกกลับบ้านด้วยเลยละ ฮ่า

ข้าวหมูย่างอร่อยมากทุกคน

ผัดไทแล้วแต่บริจาค รายได้สนับสนุนให้กับกลุ่มใบไม้ เพื่อนเราไปขอเค้าผัด เค้าก็ใจดีให้พวกเราลองผัดแล้วสอนวิธีทำให้อีก ฮ่าๆ ทำเองกินเองเด้อ

ตื่นมาพี่ก็กินต่อ

ข้าวต้มข้าวกล้องคืออร่อยมาก เต้าหู้ดำผัดหมูสับเอย กุนเชียงทอดเอย ไข่เค็มเอย อิ่มละ 30 บาทเอง คุณป้าคนขายบอกเติมได้อีกนะถ้ายังไม่อิ่ม ใจดีสุด ตอนซื้อเราลืมจ่ายตังค์ เค้ายังไม่ทวงเลย ฮ่าๆ พอนึกขึ้นได้ไปจ่าย ป้าบอกว่ากินเสร็จค่อยเอามาให้ก็ได้ หนูจะลืมเอานะสิป้า เขียนบล็อกไปก็อยากกินอีก ฮืออ

เอาแก้วมา reuse ลด 5 บาท

ร้านขายน้ำมะพร้าวดื่มด้วยหลอดต้นอ้อที่เคยเจอที่งาน Noo Jo Art and Farm คราวที่แล้ว ก็มางานนี้ด้วย ไปซื้อน้ำมะพร้าวกินตอนค่ำๆ คนขายใจดีลดให้ 20 บาทอีกต่างหาก (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับร้านงานคราฟท์และสินค้าออร์แกนิคน่าอุดหนุนจาก NooJo Art & Farm ได้ที่นี่: Noo Jo Art & Farm Market)

ร้านขายสินค้าต่างๆภายในงาน

ของใช้ต่างๆที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

FB Page: Green Style Social Enterprise FB Page

ร้านขายกระถางต้นไม้แนวๆ ราคาไม่แพง

FB Page: Parimat FB Page

ร้านขายเครื่องดนตรี handmade ต่างๆเพื่อให้จังหวะ

FB Page: Deaw Maeklong FB Page

เสื้อยืดลวดลายต่างๆ ออกแบบโดยกลุ่มใบไม้ รายได้นำมาสนับสนุนในการจัดกิจกรรมต่างๆของกลุ่ม ใครสนใจติดตามได้ที่เพจของกลุ่มเลยน้า

FB Page: Bamai Group FB Page

“กลุ่มใบไม้” เราได้รู้จักกับกลุ่มนี้เป็นครั้งแรกเมื่อช่วงวันหยุด 9-11 ธันวาคมปีที่แล้วกับค่าย “ตะวันขึ้นดูนก ตะวันตกดูดาวครั้งที่ 5” ที่ทางกลุ่มรับสมัครทาง facebook ค่ายนี้มีคนมาสมัครเยอะมาก โชคดีที่เราได้รับโอกาสนั้น พวกเรากางเต็นท์นอนกันที่เขาใหญ่ ตื่นเช้ามาก็ทำตามชื่อค่ายเลยคือไปเดินดูนกและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดและส่งต่อพลังงานดีๆกันยามค่ำคืนที่ดาวสว่างไสวกันที่เขาใหญ่

ครั้งนั้นเป็นการส่องกล้องดูนกครั้งแรกของเราก็ชอบมันมาก นกที่เกาะบนกิ่งไม้หรือบินไปมาอยู่นั้น ถ้าเอากล้องไปส่องดูแล้วจะเห็นนกตัวนั้นชัดขึ้นว่ามีลักษณะอย่างไร สีสันแบบไหน จนสามารถบอกได้ว่าเป็นนกชนิดไหน ชื่อว่าอะไร มีเสียงร้องยังไง สำหรับคนที่ดูนกอย่างจริงจรังอย่างพี่ปู วิทยากรของเรา เค้าจะมีคู่มือดูนกในไทยแล้วจดไว้เลยว่าวันที่เท่าไหร่ ที่ไหน เคยเจอนกตัวไหนบ้าง

Image may contain: plant, tree, outdoor and nature

King Fisher photo by Ksarit Klubdee 

ครั้งนั้นเราเจอเจ้า King fisher กำลังจ้องจะกินปลาอยู่ ตัวสีฟ้าท้องสีแสดตัวเล็กๆน่ารักมากๆ

Hornbill photo by Ksarit Klubdee

เราได้รู้จากกลุ่มใบไม้ว่าที่เขาใหญ่มีนกเงือกอยู่ด้วยนะ เยอะมากด้วย ที่ค่ายนั้นเราก็โชคดีที่ได้เห็นนกแก๊ก นกเงือกชนิดหนึ่งเป็นครั้งแรก กำลังกินลูกไม้อยู่อย่างเอร็ดอร่อย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีคนหลงรักกิจกรรมการดูนกนี้เข้าอย่างจริงจัง สนใจและศึกษาจนมองปร๊าดเดียวก็รู้เลยว่าเป็นนกที่มีชื่อว่าอะไร การมองดูนกเค้าใช้ชีวิตอยู่ในธรรมชาติอย่างมีความสุข ก็เป็นความสุขอย่างนึงของคนที่ชอบดูนกเช่นกัน

นกเงือก เป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ จะอาศัยอยู่ในป่าหรือพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์เท่านั้น ธรรมชาติในการหากินต้องอาศัยพื้นที่ป่าที่กว้าง และเป็นตัวแพร่กระจายพันธุ์พืชชนิดต่าง ๆ ในป่าได้อย่างดีเนื่องจากเป็นนกที่กินผลไม้ชนิดต่าง ๆ ได้ถึง 300 ชนิด และทิ้งเมล็ดไว้ตามที่ต่าง ๆ จนถูกขนานนามไว้ว่าเป็น “นักปลูกป่า”

มีให้ภายเรือเล่นได้ด้วย เห็นเด็กๆกำลังเล่นสนุกกัน เราเลยถ่ายรูปไว้ พี่พีช กลุ่มใบไม้มาเห็นเข้าเลยชวนเราลงไปพายเล่นบ้าง เย้ ตูดเปียกกันไป ฮ่าๆ ก็สนุกดี

เสียงน้องผู้หญิงใสแจ๋วเลย ทำให้เพลงมีชีวิตชีวาขึ้นมา

กางเต็นท์นอนชิวๆที่ลานกางเต๊นท์ที่มีจัดเตรียมไว้ให้ภายในงาน

มีให้ลองทำยาดมฟรีง่ายๆจากสมุนไพรต่างๆด้วย แล้วเพิ่มน้ำมันยูคาลิปตัสเข้าไป

มีโซนให้เด็กๆได้เล่นกัน สนุกกันใหญ่ เราก็ไปแย่งเด็กเล่นกับเค้าด้วย ฮ่าๆ

พี่เก่งและพี่พลอย 2 แรงขับเคลื่อนหลักของกลุ่มใบไม้ได้บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มใบไม้ให้พวกเราได้ฟังกัน.. 

“สายน้ำย่อมมีทางไป” คือข้อความกำลังใจที่ถูกส่งมอบมาจากการทำงานในผืนป่าตะวันตกว่าความดีนั้นก็เหมือนสายน้ำ ย่อมไหลจากที่สูงลงจากที่ต่ำไปเรื่อยๆ หากเราปฏิบัติในความดีอย่างจริงแท้ ชีวิตก็ย่อมเหมือนสายน้ำ “สายน้ำย่อมมีทางไป” ชีวิตการทำงาน ย่อมไม่จนหนทาง.. ขอให้กลุ่มใบไม้มีแรงกายแรงใจที่ดีและทำงานดีๆแบบนี้ให้กับผืนแผ่นดินไปอีกนานแสนนาน มีผู้คนมากมายชื่นชมและยินดีให้กับกลุ่มใบไม้ในวันนี้ที่ทำงานเหนื่อยกันมาตลอด 10 ปี ขอให้ใบไม้เหล่านี้ปลิวไปกับสายลมของธรรมชาติให้ไกลแสนไกล เพื่อส่งต่อพลังดีๆให้กับผู้คนอีกมากมายต่อไป..

เรื่อง : ตรีสุคนธ์ จีระมะกร “ตรี”

เด็กค่ายตะวันขึ้นดูนก ตะวันตกดูดาวครั้งที่ 5

FB Page : Take me away FB Page

 

4 Comments