ที่เที่ยวอาร์บอท (Arbot) Tag

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเองวันที่สาม เราออกเดินทางจากเมืองอาร์บอท (Arbot) ไปยังเมืองเอกิลสตาเดียร์ (Egilsstadir) ตื่นมาก็กินคอนเฟลกตอนเช้าให้พออิ่มท้อง แพ็คกระเป๋ากันอีกวันจนเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางได้ วันนี้เราจะไปที่เที่ยวไอซ์แลนด์อีกแห่งที่ไม่ควรพลาดนั่นก็คือน้ำตกเดตตี้ฟอสส์ (Dettifoss waterfall) แม้ในไอซ์แลนด์จะมีน้ำตกมากมายหลายแห่งแต่น้ำตก Dettifoss ควรถูกเพิ่มไว้ในรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์ที่น่าไป เพราะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกที่เป็นทรงพลังมากที่สุดในยุโรป! เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง: อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull National Park) แต่ก่อนจะไปถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้ ระหว่างทางเราเจอป้ายบอกทางไปยังอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull National Park) พอดี เราก็เลยตัดสินใจแวะเข้าไปดูภายในอุทยานกันเพราะยังไงวันนี้ก็มีเวลาเหลือเฟือ แม้เราแพลนไว้ว่าจะมาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ในอีกสองวันข้างหน้าก็ตาม เคยดูในแผนที่แล้วเห็นว่าอุทยานวัทนาโจกุลมีขนาดใหญ่มาก เกือบ 1 ใน 4 ของประเทศเลยก็ว่าได้ มาเจอทางเข้าแบบบังเอิญทั้งทีก็เลยหยุดแวะกันซะหน่อย ขับรถกันเข้ามาจนถึงจุดต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้านหน้ามีป้ายแนะนำเส้นทางเดินป่าภายในอุทยาน Vatnajökull ให้ดูซึ่งมีอยู่หลายเส้นทางด้วยกัน ใช้เวลาตั้งแต่ 1.5 - 2 ชั่วโมงไปจนถึง 6 - 7 ชั่วโมง เราสายขี้เกียจเลยบอกแฟนว่าเลือกเดินเส้นทางที่สั้นที่สุดกัน!...

จุดหมายในเที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเองวันที่สองของเราคือเมืองอาร์บอท (Arbot) ซึ่งห่างจากเมืองอาคูเรย์รี่ (Akureyri) แค่ประมาณ 60 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น ใกล้กว่าเส้นทางในวันแรกหลายเท่า! วันนี้คนที่ขับรถก็เลยขับได้แบบสบายๆ ถึงระยะทางจะใกล้แต่ระหว่างทางมีสถานที่ท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์ให้แวะเยอะมาก และที่เที่ยวไอซ์แลนด์ที่เราแวะกันที่แรกก็คือน้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss waterfall) ขับไปตามถนนเส้นหลักออกจากโรงแรม Akureyri H.I. Hostel แค่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง สังเกตได้เลยว่าเป็นจุดแวะเที่ยวเพราะเห็นรถจอดอยู่เต็มไปหมด เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง: น้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss waterfall) น้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss waterfall) แปลเป็นไทยได้ว่า "น้ำตกของพระเจ้า" ชื่อนี้มีที่มาที่น่าสนใจ สมัยก่อนคนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวนอร์วีเจียนที่นับถือศาสนานอร์ส (Norse religion) บูชาเทพอย่าง Thor, Odin, Loki และ Freya จนกระทั่งในปี ค.ศ. 930 ที่ไอซ์แลนด์มีการจัดตั้งเป็นเครือรัฐขึ้นมา ก็เกิดแรงกดดันให้ผู้คนที่นี่ต้องหันมานับถือศาสนาคริสต์แทน เพราะไม่อย่างนั้นอาจถูกรุกรานจากคนในฝั่งยุโรปได้ ซิงเควลลิร์ (Þingvellir) เป็นที่ที่มีการพบปะกันของตัวแทนในสภาปีละครั้ง โดยผู้ที่เป็นผู้รักษากฎในตอนนั้นจะต้องทำหน้าที่ในการตัดสินใจ...