นั่งรถไฟผ่านไร่ชา Tag

กระท่อมริมทะเลที่กอลล์   หนีความหนาวบนเขามาชิวๆ ที่ชายหาดทางใต้ของประเทศศรีลังกาอย่างกอลล์ (Galle) กันบ้าง เราจองที่พักเป็นกระท่อมเล็กๆ ริมทะเลของชาวบ้านที่นี่ชื่อว่า Rosa Shashi Cabanas Hut in Galle ราคาแค่ประมาณ 300 บาทต่อคืน นั่งตุ๊กๆ มาจากสถานีรถบัสแค่ 40 บาทก็ถึงแล้ว กระท่อมถูกสร้างขึ้นที่หลังบ้านของเจ้าของที่พักเอง มีทั้งหมด 2 หลังถ้วน คือหลังที่เราจอง ส่วนอีกหลังเขากำลังปรับปรุงอยู่ ฮ่าๆ มีวิวเป็นชายหาดส่วนตัวหน้าที่พัก ที่นี่เงียบสงบมาก แทบไม่มีคนเลย แม้ใกล้ๆ กันจะมีโรงแรมหรูขนาดใหญ่ตั้งอยู่ก็ตาม ส่วนบ้านข้างๆ มีเรือประมงจอดอยู่ด้วย ตอนเย็นๆ ก็เห็นเขาออกมาจับปลา วิวจากห้องพักที่กอลล์   Beach Trash Collector   คลื่นทะเลที่นี่ค่อนข้างสูง มีธงสีแดงปักอยู่เพื่อเป็นการเตือนว่าไม่ควรออกไปว่ายน้ำเล่นไกลๆ เราออกไปยืนเล่นที่ริมหาดสู้กับคลื่นสักพัก แรกๆ ก็สนุกดี หลังๆ คลื่นเริ่มจะพาไปไกล ต้องถอยไปเล่นหลังโขดหินแทน บนชายหาดมีสารพัดเปลือกหอยที่ถูกพัดเข้าฝั่ง มีปูดำแอบอยู่ตามโขดหินเยอะมาก...

 This is my mother land   รถไฟกำลังมุ่งหน้าไปสู่ปลายทาง บาดุลลา (Badulla) เมืองที่ถูกมองข้ามจากนักท่องเที่ยวไปเสียสนิท พอคนบนรถไฟไม่ค่อยมี พวกเราเลยป่วนกันได้เต็มที่ ฉันเดินไปตรงรอยต่อของแต่ละโบกี้ที่สามารถโหนราวยืนดูข้างนอกได้ กล้ากลัวๆ แต่ให้ใบหน้าได้ปะทะลมระหว่างที่รถไฟกำลังเคลื่อนไปนี่เป็นอะไรที่ดีจริงๆ อีกฝั่งก็มีชายคนหนึ่งพาคุณลุงท่านหนึ่งมาจับราวแล้วมองออกนอกรถไฟรับลมอยู่เหมือนกันจนคุณลุงหัวเราะออกมาเสียงดัง ดูสนุกและตื่นเต้นมาก ฉันยืนดูจนอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ คุณลุงกับชายคนนั้นหันกลับมาพอดี เขายิ้มให้แล้วก็ชวนพวกเราคุย.. ถามว่าพวกเรามาจากไหน ที่บ้านเมืองคุณมีแบบนี้ไหม แล้วชอบอะไรในศรีลังกาบ้าง? เป็นคำถามที่เขาอยากรู้ว่าคนต่างชาติอย่างเราคิดอย่างไรกับประเทศเขาบ้าง ฉันตอบกลับไปว่ารถไฟสายนี้สวยมาก คนที่นี่ใจดี ธรรมชาติที่นี่ก็อุดมสมบูรณ์สุดๆ ที่ไทยเราไม่ได้มีรถไฟขับผ่านไร่ชาและป่าเขาที่สวยงามขนาดนี้ เขาตั้งใจฟังสิ่งที่เรากำลังบอกและตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มและแววตาแห่งความภาคภูมิใจว่า “This is my mother land” ที่นี่เป็นแผ่นดินบ้านเกิดของเขา!   ปลายทาง.. บาดุลลา (Badulla)   ในที่สุดเราก็มาถึงที่บาดุลลา (Badulla) อย่างที่พอจะเดากันได้ว่าที่นี่แทบไม่มีนักท่องเที่ยวให้เห็นเลย เราไม่ได้จองที่พักไว้ก่อนล่วงหน้าสำหรับคืนนี้ มีแค่ดู Agoda ไว้คร่าวๆ กะว่าพอออกจากสถานีรถไฟแล้วค่อยเดินตามหาที่พักแถวนั้นกัน พอเดินออกมาก็มีคนขับตุ๊กๆ คนหนึ่งรีบตรงดิ่งเข้ามาคุยกับเรา บอกว่ามีที่พักแนะนำ พาขับไปส่งให้ได้ แต่เราไม่ได้อยากเสียเงินค่าตุ๊กๆ อยากเดินหาเองมากกว่า เลยบอกกับเขาไปว่าเราดูที่พักเอาไว้แล้ว พอโชว์ให้ดู...

แคนดี้ (Kandy) เมืองหลวงเก่าของศรีลังกา    สังเกตได้ว่ามีธงศาสนาพุทธประดับอยู่สองข้างทางบนถนนในแคนดี้ ฉันนั่งหลับแทบจะตลอดทางบนรถเมล์ตั้งแต่ออกจากดัมบุลลา (Dambulla) มาจนถึงแคนดี้ (Kandy) เมืองหลวงเก่าของประเทศศรีลังกา แคนดี้ต้อนรับการมาถึงของพวกเราด้วยสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย เราใส่เสื้อกันฝนที่พกมา เดินลุยตามแผนที่ไปยังที่พักที่จองไว้ล่วงหน้าใกล้กับสถานีรถไฟแคนดี้ (Kandy Railway Station) แคนดี้ในวันที่ฝนตก แพลนของเราในวันพรุ่งนี้คือนั่งรถไฟจากแคนดี้ไปบาดุลลา (Badulla) สถานีปลายทางของรถไฟสายแคนดี้ - เอลล่า (Kandy to Ella train) เส้นทางรถไฟอันขึ้นชื่อลือชาของศรีลังกาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมเยือนที่นี่   วัดพระเขี้ยวแก้ว (Temple of Tooth Relic) เมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกา   ทางเข้าวัดพระเขี้ยวแก้ว (Temple of Tooth Relic) หลังจากเช็คอินที่พักเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็เดินจากที่พักไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองแคนดี้ทันทีนั่นก็คือวัดพระเขี้ยวแก้วของศรีลังกา (Temple of Tooth Relic) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในศรีลังกาที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมรดกโลก วัดแห่งนี้เป็นที่เก็บพระเขี้ยวซ้ายของพระพุทธเจ้าที่เจ้าชายของศรีลังกาในอดีตเป็นผู้อัญเชิญมาจากอินเดีย พื้นที่ของวัดพระเขี้ยวแก้วแห่งนี้ก็เคยเป็นพระราชวังเก่ามาก่อน ศิลปะบนฝาผนังของวัดพระเขี้ยวแก้ว (Temple of Tooth Relic) พวกเราต้องถอดรองเท้ากันตั้งแต่เดินเข้าประตูวัด ตามธรรมเนียมของวัดพุทธในศรีลังกา...