31 May เที่ยวอินส์บรุค (Innsbruck) ออสเตรีย เมืองเล็กๆ ในอ้อมกอดของเทือกเขาแอลป์
เที่ยวอินส์บรุค (Innsbruck) เป็นเหมือนกำไรมากกว่า เพราะจริงๆ แล้วเราตั้งใจมาหาเพื่อนชาวออสเตรีย ที่รู้จักกันตอนที่เธอมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในไทยเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นพวกเราไปเที่ยวด้วยกันบ่อยมาก พอเราได้มีโอกาสมาเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองทั้งที ก็เลยพยายามหาเวลาไปหาถึงที่ แล้วก็เที่ยวอินส์บรุค (Innsbruck) ไปในตัวด้วยซะเลย ตอนนี้เธอทำงานด้านการตลาดอยู่ที่นี่หลังจากเรียนจบโทจากมหาวิทยาลัยของเมืองนี้ เค้าน่ารักมาก ทั้งขี่จักรยานมารับ สละห้องตัวเองให้เราเข้าพัก แล้วไปนอนห้องของเพื่อนแทน พาทัวร์เมือง แฮงค์เอาท์ตอนกลางคืน นั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปดูวิวของเมืองอินส์บรุคบนเทือกเขาแอลป์ กินอาหารในร้านอร่อย ทำให้เรามีช่วงเวลาดีๆ ในเมืองเล็กๆ ที่อบอุ่นแห่งนี้.. เมืองอินส์บรุค ประเทศออสเตรีย
จากฟุสเซน (Fussen) ไป อินส์บรุค (Innsbruck)
จากมิวนิค (Munich) ไป อินส์บรุค (Innsbruck) พวกเราเดินทางจากมิวนิคมาที่เมืองการ์มิช-พาร์เทินเคียร์เชิน (Garmisch-Partenkirchen) ด้วยรถไฟกันก่อน จากนั้นก็ขึ้นรถบัส Flixbus มาที่อินส์บรุคอีกทีในช่วงกลางคืน ซึ่งใช้เวลาแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยที่ป้ายรอรถบัส Flixbus นั้นติดอยู่กับสถานีรถไฟเมืองการ์มิช-พาร์เทินเคียร์เชิน (Garmisch-Partenkirchen) เลย สะดวกมากๆ พวกเราไปเที่ยวปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) ที่ใกล้กับเมืองฟุสเซน (Fussen) ประเทศเยอรมันกันมาก่อนหน้านี้ จากนั้นก็นั่งรถไฟสองชั่วโมงกลับไปที่มิวนิค แล้วก็ข้ามประเทศมาเที่ยวที่ออสเตรียกันต่อซะเลย
สถานีรถไฟเมืองการ์มิช-พาร์เทินเคียร์เชิน (Garmisch-Partenkirchen)
ป้ายรอรถบัส Flixbus ติดอยู่กับสถานีรถไฟเมืองการ์มิช-พาร์เทินเคียร์เชิน (Garmisch-Partenkirchen)
พวกเรามาถึงที่อินส์บรุคปุ๊ป ซักพักเพื่อนก็ขี่จักรยานมารับแล้วก็พาเดินไปที่ที่พักของเธอ เมืองไม่ได้ใหญ่มากจนสามารถเดินไปไหนมาไหนได้อย่างสบายเลย ที่พักของเธอเป็นแบบแชร์แฟลต พวกเราเลยได้รู้จักเพื่อนใหม่อีกสองคน คนแรกเป็นชาวเยอรมันที่ทำงานในค่ายอพยพของผู้ลี้ภัยที่นี่ และอีกคนเป็นชาวอิสราเอลที่มาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน เช้าวันต่อมา เพื่อนชาวออสเตรียก็เตรียมอาหารเช้าให้พวกเราซะเรียบร้อยเลย ฮือออ ดูแลดีมาก ออกไปดูวิวตรงระเบียงที่พักก็อดอิจฉาพวกเขาไม่ได้ เพราะได้เห็นวิวของเทือกเขาแอลป์จากระเบียงแบบนี้กันทุกวัน อินส์บรุค ออสเตรีย อากาศในช่วงซัมเมอร์เดือนกันยายนที่เราไปแอบร้อนนิดหน่อยในช่วงกลางวัน แต่พอแดดร่มปุ๊ปก็เริ่มหนาวขึ้นมาทันทีในช่วงเย็นจนถึงตอนกลางคืน
รีวิวเที่ยวอินส์บรุค (Innsbruck) ออสเตรียด้วยตัวเอง
ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวอินส์บรุค ก็คงหนีไม่พ้นขึ้นไปดูวิวบนเทือกเขาแอลป์ด้วยเคเบิ้ลคาร์ แล้วก็เดินเล่นรอบๆ เมืองดูบ้านสีพาสเทลและตึกเก่าที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงามของที่นี่ พวกเรามีเวลาเที่ยวอินส์บรุค (Innsbruck) 2 วันเต็มในช่วงสุดสัปดาห์ เพราะเพื่อนไม่ต้องทำงานแล้วก็มาเที่ยวกับเราได้ โดยวันแรกเราไปเดินรอบเมืองแบบชิวๆ กันก่อน
ประตูชัยในอินส์บรุค (Triumphal Arch, Innsbruck)
ประตูชัยอินส์บรุค (Triumphal Arch, Innsbruck) คือประตูชัยสไตล์โรมันที่ถูกสร้างโดยคำสั่งของพระนางมาเรีย เทเร
พวกเราไปเที่ยวอินส์บรุค (Innsbruck) ในช่วงวันที่ 14 – 15 กันยายน 2019 ไม่ไกลจากประตูชัยอินส์บรุคมีบรรยากาศของชาวออสเตรียกำลังเตรียมงาน Friday Future ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 27 กันยายนพอดี มาค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมในภายหลังก็พบว่าน่าสนใจมาก Friday Future คือการที่ผู้คนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่างลุกฮือขึ้นมาเคลื่อนไหว เพื่อเรียกร้องให้คนอื่น โดยเฉพาะรัฐบาลที่มีอำนาจ หันมาใส่ใจกับปัญหาโลกร้อน หรือ Climate change มากขึ้น
หลังจากเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2018 เกรต้า ทุนเบิร์ก (Greta Thunberg) เด็กผู้หญิงวัย 15 ปี ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลสวีเดนลงมือแก้ไขปัญหาเรื่องโลกร้อนให้จริงจังกว่านี้ ด้วยการถือป้ายประท้วงหน้ารัฐสภาเป็นเวลา 3 อาทิตย์ จนมีคนสนใจเข้าร่วม และกลายเป็นไวรัลที่พูดถึงกันในโลกโซเชียลอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะประเทศในฝั่งยุโรปอย่างเช่นเยอรมัน เบลเยียม อังกฤษ และตามด้วยอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลกในทุกทวีป วันที่ 27 กันยายน 2019 มีคนออกมาเดินประท้วงเพื่อเรียกร้องรัฐบาลให้แก้ปัญหาโลกร้อนทั่วโลกมากถึง 2 ล้านคน! หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นวิดีโอ speech ของเธอบนโลกออนไลน์บ้างแล้ว เพราะเธอได้รับเชิญให้ไปกล่าวสุนทรพจน์ในหลายๆ เวทีสำคัญระดับโลก
เที่ยวอินส์บรุค (Innsbruck) ออสเตรีย รีวิว
ตอนที่เดินออกมาจากที่พัก แล้วได้เห็นวิวของเทือกเขาแอลป์ขนาดใหญ่ระหว่างอาคารเก่าภายในเมืองอินส์บรุคครั้งแรก เราอดที่จะร้องโหออกมาไม่ได้ เพราะมันเป็นวิวที่สวยมาก และเชื่อว่าหาไม่ได้จากที่ไหน เพราะเทือกเขาแอลป์นั้นล้อมรอบเมืองอินส์บรุคอยู่ทุกทิศทาง ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอ เป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม แถมยังได้รับอ้อมกอดของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่เข้าไปอีก กลายเป็นส่วนผสมของความงดงามจากธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นได้อย่างลงตัวจริงๆ
หลังคาทอง อินส์บรุค (Gloden roof, Innsbruck)
เดินเข้ามายังใจกลางเมืองขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเจอกับอีกหนึ่งแลนมาร์กของเมืองอินส์บรุคที่ต้องสะดุดตาหลายคนเหมือนกับเราแน่ๆ นั่นก็คือหลังคาทอง อินส์บรุค (Golden roof, Innsbruck) ซึ่งทำมาจากกระเบื้องทองแดงแล้วประดับด้วยการปิดทอง! อลังการสุด ระเบียงนี้เป็นส่วนของอาคารที่มีอายุมากกว่า 500 ปี นับตั้งแต่ช่วงยุคกลางของยุโรป ซึ่ง Golden roof ถูกสร้างโดยคำสั่งของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียน (Emperor Maximilian) ที่ชอบยืนบนระเบียงแห่งนี้เพื่อชมวิวของเมือง ดูการแข่งขัน และรับการสรรเสริญจากชาวเมือง
อาคารสีพาสเทลในอินส์บรุค (Pastel Color Building Innsbruck)
พอเดินผ่านโซนใจกลางเมืองที่มีนักท่องเที่ยวอยู่เยอะมากมาทางด้านซ้าย แล้วเดินตรงมาเรื่อยๆ ซักพักก็จะได้เจอกับสะพาน Innbrücke ที่ทอดผ่านแม่น้ำอิน (Inn river) แม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านกลางเมืองอินส์บรุค ใกล้ๆ กันมีอาคารสีพาสเทลหลายหลังเรียงกันอยู่ พร้อมกับมีเทือกเขาแอลป์เป็นแบ็คกราวด์อยู่ด้านหลัง มุมนี้เป็นอีกมุมนึงที่สวยมากของอินส์บรุค จนเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์กของที่นี่ไปแล้ว เป็นมุมโปรดของเราในอินส์บรุคเลย พวกเราแวะถ่ายรูปเล่นตรงกันซักพักก่อนไปหาอะไรกินกัน..
พิกัดอาคารสีพาสเทลในอินส์บรุค (Pastel Color Building Innsbruck): แผนที่สะพาน Innbrücke ในอินส์บรุค (Innsbruck)
วันนั้นมีงานวิ่งมาราธอนจัดขึ้นพอดี ใกล้ๆ กันก็มีซุ้มอาหารจากหลายเชื้อชาติขายอยู่ด้วย เราเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองมาเดือนครึ่งแล้ว คิดถึงอาหารไทยสุด พอเห็นว่ามีซุ้มอาหารไทยอยู่ด้วยคือดีใจมาก รีบวิ่งเข้าใส่เลย พี่คนขายเป็นคนไทย 🙂 คนอิสราเอลก็ลองสั่งแกงเขียวหวานราดข้าวมากินเหมือนเราด้วย ส่วนคนเยอรมันสั่งพะแนงราดข้าวมาลองกิน บอกว่าอร่อยกันใหญ่ คนไทยอย่างเราได้ยินก็ยิ้มแก้มปริด้วยความภูมิใจ ถึงแม้รสชาติจะไม่เข้มข้นเพราะเค้าคงทำให้ถูกปากคนยุโรป ขอน้ำปลาเค้าเหยาะเพิ่มหน่อยก็อร่อยแล้ว พี่ฟิน จานนี้โดนไป 8 ยูโร (280 บาท) ได้ ยอมจ่ายเพราะความคิดถึงล้วนๆ
กินเสร็จพวกเราก็ไปนั่งเล่นในสวนสาธารณะ Innsbrucker Hofgarten ที่อยู่ใกล้ๆ กันต่อ คนเยอรมันที่เป็นรูมเมทกับเพื่อนออสเตรียเป็นคนรักสุขภาพมาก ไม่ค่อยกินเนื้อสัตว์ งดน้ำตาล แล้วก็ชอบมาออกกำลังกายที่สวนนี้บ่อยๆ มาถึงก็เอาผ้าที่พกใส่เป้มาจากบ้านมาปูให้พวกเรานั่งเล่นกัน แล้วก็ยกอุปกรณ์ออกกำลังกายของตัวเองออกมาเป็นลูกเทนนิสกับจานบิน ไว้สำหรับโยนแล้วให้คนอื่นวิ่งไปรับสลับกันไป เป็นเพียงแค่อุปกรณ์ง่ายๆ ที่เรียกเหงื่อได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ระหว่างนั้นเราก็เห็นเครื่องบินลำนึงบินผ่าน นึกว่ามีการขอแต่งงานรึเปล่า แต่เพื่อนชาวออสเตรียบอกว่านี่คือวิธีการโฆษณาอย่างหนึ่งของที่นี่!
พอค่ำๆ หน่อย พวกเราก็ไปนั่งเล่นในบาร์ใกล้ๆ ดูการแข่งขันฟุตบอลกัน เราไม่ค่อยอินเท่าไหร่ แต่คนเยอรมันชอบดูบอลมาก แล้วก็ไม่ดื่มแอลกอฮอล์เลย กินน้ำเปล่าผสมไซรัปไป ดูบอลไปแทน แถมยังโชว์หนังสือใช้ชีวิตอย่างไรโดยปราศจากน้ำตาลที่นางพกใส่เป้ไว้ให้เราดูอีกต่างหาก ยอมใจนางจริงๆ
ซักพักพวกเราก็เดินกลับที่พักกัน วิวของเมืองหลังพระอาทิตย์ตกดินก็สวยไม่น้อย ระหว่างทางเราแวะซื้อไอศครีมโยเกิร์ตแบบโรยท้อปปิ้งตามใจฉันของร้าน Kurt มาลองกิน อร่อยดี พอกลับที่พัก งีบกันคนละตื่น ตกดึกก็ออกไปแฮงค์เอาท์ด้วยกัน คนเยอรมันก็เต้นมันส์แบบไม่รู้จักเหนื่อยอยู่คนเดียวทั้งคืน ชอบตรงที่เค้าสามารถเอ็นจอยกับสิ่งรอบๆ ตัวได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งแอลกอฮอล์เลย เราสังเกตว่าวัฒนธรรมการดื่มที่เห็นเหมือนกันตอนที่ไปแฮงค์เอาท์ในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่คนยุโรปเค้าทำกันเป็นปกติก็คือ แต่ละคนหรือแต่ละคู่จะคอยถามว่าคนอื่นอยากดื่มอะไรบ้าง แล้วก็จะออกไปสั่งซื้อพร้อมจ่ายเงินที่เค้าเตอร์พร้อมถือมาให้คนอื่นๆ จนครบ แล้วก็ผลัดกันทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ
พิกัดร้านไอศครีม Kurt อินส์บรุค (Innsbruck) ร้านขนมแนะนำในอินส์บรุค (Innsbruck): แผนที่ร้านไอศครีมโยเกิร์ต Kurt ในอิส์บรุค (Innsbruck)
ร้านคริสตัลเวิลด์ของสวารอฟสกี อินส์บรุค (Swarovski Kristallwelten Store Innsbruck)
เราถามเพื่อนชาวออสเตรียว่าไปเที่ยวไหนดีในอินส์บรุค เค้าแนะนำให้เรานั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปบนเทือกเขาแอลป์ เราถามว่าเค้าเคยขึ้นไปแล้วหรือยัง เค้าบอกยังไม่เคยเลย ทั้งๆ ที่ทำงานอยู่ที่นี่มาเป็นปีๆ แล้ว ส่วนคนเยอรมันอีกคนเคยเดินป่าขึ้นไป แต่ก็ไม่ได้ขึ้นไปถึงยอด พอดีเลย เราจะได้ไปทำอะไรใหม่ๆ ด้วยกัน แฟนเรากับพวกเพื่อนอยากเดินป่ากันขึ้นไปสไตล์คนยุโรป ลุยๆ แต่เรารู้สึกว่าเดินมาเยอะมากแล้วจากทริปก่อนๆ หน้านี้ เราเลยเชียร์ (เถียง) ให้นั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปแทน เพื่อนชาวออสเตรียก็เห็นด้วยเพราะพวกเราตื่นกันสาย แล้วแดดช่วงบ่ายก็ร้อน ถ้าอยากเดินขึ้นเขา น่าจะต้องตื่นกันแต่เช้ามากกว่า เราก็เลยรอดไป ฮ่าๆ โชคดีพวกนางมีบัตรส่วนลดด้วย พวกเราเลยได้ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ในราคาที่ถูกกว่า
จุดซื้อตั๋วเคเบิ้ลคาร์ในเมืองอินส์บรุค (Nordkette Cable Car)
ค่าใช้จ่ายขึ้นเคเบิ้ลคาร์ในอินส์บรุค
ค่าตั๋วขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไปดูวิวเมืองอินส์บรุคบนยอดของเทือกเขาแอลป์ราคา 32.90 ยูโร (1,160 บาท) ต่อคน
ก่อนหน้าที่เราจะขึ้นกันไปถึงยอดบนสุด เราแวะกันที่สถานี Hungerburgbahn ก่อน ซึ่งเป็นจุดชมวิวของเมืองอินส์บรุค (Innsbruck) จุดแรก และมีโซนของร้านอาหารและคาเฟ่ให้บริการอยู่ด้วย ซึ่งจะขึ้นมาถึงแค่จุดนี้จุดเดียวก็ได้ ค่าตั๋วคนละ 9.5 ยูโร (335บาท) ต่อคนเท่านั้น แต่เราแนะนำให้ขึ้นไปถึงยอดเลยจะดีกว่า เพราะวิวบนนั้นว้าวกว่ามาก
วิวของเมืองอินส์บรุค (Innsbruck) ที่สถานี Hungerburgbahn
ยอดเขาที่เรากำลังนั่งเคเบิ้ลคาร์ไต่ขึ้นไปอยู่นี้คือยอดเขาที่มีชื่อว่ายอดเขานอร์ดเคทเทอ (Nordkette) ที่เที่ยวอินส์บรุค (Innsbruck) ที่ได้รับความนิยม ซึ่งมีความสูงมากถึง 2,334 เมตร เราอยากดูวิวเวลาที่ตัวรถเคลื่อนขึ้นไป พอเข้ามาเลยเลือกที่ยืนติดกับกระจกด้านล่างของรถจะได้เห็นวิวชัดๆ ก็มีเสียวว๊าบเป็นระยะ เพราะจะเห็นเลยว่าเคเบิ้ลคาร์ค่อยๆ ไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ ผ่านบ้านคน เห็นคนเดินขึ้นเขา ผ่านต้นไม้ที่เป็นเหมือนป่าขนาดย่อม สูงขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาถึงส่วนของยอดเขาที่เป็นหญ้าและหิน ในช่วงหน้าหนาว ที่นี่เป็นลานสกีที่สวยมากเช่นกัน
วิวบนยอดเขานอร์ดเคทเทอ (Nordkette) สวยมาก! สามารถเห็นวิวของเมืองอินส์บรุคได้แทบจะทั้งหมดเลย ขึ้นมาบนนี้ก็จะเห็นได้เลยว่ามีเทือกเขามากมายกำลังรายล้อมเหมือนกำลังโอบกอดทั้งเมืองอยู่ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเมืองอินส์บรุคถึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งเทือกเขาแอลป์ (Capital of Alps)
ก่อนขึ้นเคเบิ้ลคาร์ พวกเราแวะซื้อเสบียงจากร้านสะดวกซื้อด้านล่างไว้ขึ้นมากินบนนี้ด้วย อาหารธรรมดารสชาติอร่อยขึ้นมาอีกเป็นเท่าตัว เพราะเรานั่งกินไปดูวิวไปบนนี้กันซะเพลินเลย เทือกเขาแอลป์นั้นทั้งสวยงามและยิ่งใหญ่มาก ได้พาตัวเองมาใกล้ชิดความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติอีกนิดแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้เราตกหลุมรักเขาและเมืองอินส์บรุค (Inssbruck) เข้าไปอีก ค่าตั๋วพันกว่าบาทที่ว่าแพง เราว่าคุ้มเกินคุ้มเลยล่ะ ยอดเขานอร์ดเคทเทอ (Nordkette) ในอินส์บรุค ออสเตรีย เป็นหนึ่งในที่เที่ยวอินส์บรุค (Innsbruck) และที่เที่ยวออสเตรีย (Austria) ที่เราอยากแนะนำให้ผู้อ่านได้รู้จักและมาที่นี่เวลามาเที่ยวออสเตรียด้วยตัวเองกันค่ะ
พิกัดจุดซื้อตั๋วเคเบิ้ลคาร์ในเมืองอินส์บรุค (Nordkette Cable Car): แผนที่จุดซื้อตั๋วเคเบิ้ลคาร์ในเมืองอินส์บรุค (Nordkette Cable Car)
สั่งซื้อตั๋ว Nordkette Cable Car ออนไลน์ได้ที่นี่: ซื้อตั๋วจุดชมวิวเมืองอินส์บรุคออนไลน์
เวลาที่เปิดให้บริการของเคเบิ้ลคาร์ในอินส์บรุค (Innsbruck): 8.30 – 17.30 น.
พอลงมาจากเคเบิ้ลคาร์ พวกเราก็เดินเล่นรอบเมืองกันอีกนิดแล้วมาหยุดที่ร้านไอศครีมกลางเมืองอีกครั้ง ได้กินไอศครีมวานิลาซักโคน ก็แฮปปี้ได้แล้ว
ไอศครีมโคนละ 1.4 ยูโร (50 บาท)
พิกัดร้านไอศครีม Eisgrotte อินส์บรุค (Innsbruck) ร้านขนมแนะนำในอินส์บรุค (Innsbruck): แผนที่ร้านไอศครีม Eisgrotte ในเมืองอินส์บรุค (Innsbruck)
ร้านอาหารแนะนำในอินส์บรุค (Innsbruck) ออสเตรีย
Escalope from the pork
Variety of dumplings คนเยอรมันกินไปแล้วหนึ่ง ขอถ่ายรูปไม่ทัน ฮ่าๆ
เพื่อนชาวออสเตรียแนะนำร้านอาหารอร่อยในอินสบุคส์ (Innsbruck) ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้านขายไอศครีมที่เราซื้อกินก่อนหน้านี้ให้รู้จัก ร้านนี้มีชื่อว่า Stiftskeller เธอบอกว่าเป็นร้านประจำที่มานั่งกินกับเพื่อนอยู่บ่อยๆ พอค่ำหน่อยพวกเราเลยตกลงกันว่าจะมานั่งทานมื้อเย็นที่นี่ด้วยกัน เราสั่งเมนูอาหารกันคนละอย่าง แทบไม่เหมือนกันเลย แล้วก็แบ่งกันชิมรสชาติ อร่อยแทบทุกจาน เราสั่งเป็น Escalope from the pork เป็นสเต๊กหมูราดซอส กินคู่กับข้าวผัดเนย ราคา 11.90 ยูโร (630 บาท) แล้วก็มีเมนูนึงที่เราว่าน่าสนใจมากก็คือ Variety of dumplings ที่เป็นดัมปลิงแบบออสเตรียเค้า หน้าตาไม่เหมือนดัมปลิงหรือเกี๊ยวบ้านเราเลยซักนิด แต่ก็อร่อยดี มีทั้งไส้หอมหัวใหญ่ ชีส และผักขม ราคาอาหารไม่ได้ถูกเลย แต่รสชาติอาหารที่อร่อย บทสนทนาบนโต๊ะอาหาร แล้วก็บรรยากาศของร้าน ทำให้กลายเป็นค่ำคืนที่น่าประทับใจ
เมนูอาหารร้าน Stiftskeller ร้านอาหารแนะนำในเมืองอินส์บรุค (Innsbruck)
พวกเรากินกันจนอิ่มท้องก็พากันเดินกลับที่พัก พรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ที่เพื่อนชาวออสเตรียต้องกลับไปทำงานตามปกติ พวกเราโอบกอดกันอีกครั้งเป็นการบอกลา และบอกขอบคุณที่พาเราทัวร์เมืองแถมยังดูแลพวกเราเป็นอย่างดี เช้าวันรุ่งขึ้นก็เป็นเวลาที่เราต้องเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปนั่นก็คือเมืองบูดาเบส (Budapest) ประเทศฮังการี เพื่อนชาวออสเตรียบอกว่าอยากกลับมาเที่ยวที่ไทยอีกครั้ง เราเลยย้ำว่ามาเมื่อไหร่ต้องไม่ลืมบอก เพราะถึงตาของเราเป็นเจ้าบ้านที่ดีบ้างแล้ว
ที่แชร์แฟลตของเพื่อน มีกระดานดำตั้งอยู่กลางห้องอันนึง คนเยอรมันบอกว่าอยากจะเขียนอะไรบนนี้ก็เขียนได้เลยนะ คืนนั้นเราเลยเขียนข้อความจากหนังเรื่องโปรด วาดรูปการ์ตูนของพวกเราแต่ละคน แล้วก็ถ่ายรูปเก็บเอาไว้หลังจากเขียนเสร็จ หวังว่าเจ้าบ้านเค้าจะชอบ จนกว่าจะเจอกันใหม่..
เรื่อง: ตรีสุคนธ์ จีระมะกร (ตรี)
ฟรีแลนซ์นักแปลอังกฤษ <=> ไทยและนักเขียนคอนเทนต์
เที่ยวเวียนนา เมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามเหมือนหยุดเวลาไว้ - Take Me Away
Posted at 08:46h, 28 June[…] ก่อนหน้านี้ฉันเคยไปเที่ยวออสเตรียมาก่อนแล้ว แต่แค่แวะไปเยี่ยมเพื่อนคนออสเตรียที่รู้จักกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่เมืองอินส์บรุคเท่านั้น เที่ยวออสเตรียคราวนี้เลยกะว่าจะเที่ยวนานหน่อย จะได้ทำความรู้จักกับประเทศออสเตรียให้มากขึ้น […]