เที่ยวเบอร์ลิน (Berlin) ตอนที่ 2: นั่งชิวในลานเบียร์เก่าแก่ (Prater garden) ย่านเพรนซเลาเออร์ แบร์ค (Prenzlauer Berg) และเล่าวัฒนธรรมการรีไซเคิลแบบสุดโต่งของเยอรมัน

19 Oct เที่ยวเบอร์ลิน (Berlin) ตอนที่ 2: นั่งชิวในลานเบียร์เก่าแก่ (Prater garden) ย่านเพรนซเลาเออร์ แบร์ค (Prenzlauer Berg) และเล่าวัฒนธรรมการรีไซเคิลแบบสุดโต่งของเยอรมัน

รีวิวเที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเอง: นั่งชิวในลานเบียร์เก่าแก่ (Prater garden) ย่านเพรนซเลาเออร์ แบร์ค (Prenzlauer Berg)

หลังจากเดินเล่นในตลาดนัดอินดี้วันเสาร์ที่ Mauer park วนไปมาหลายรอบแล้ว ก็ยังมีเวลาเหลือเฟือให้เดินเล่นในเบอร์ลินกันต่อ เดินมาอีกแค่ 10 นาทีก็มาถึงย่านเพรนซเลาเออร์ แบร์ค (Prenzlauer Berg) กันแล้วค่ะ รู้ตัวว่าถึงย่านนี้แล้วก็ตอนที่เดินผ่านตึกสวยๆสีพาสเทลเหล่านี้นั่นเอง รอบๆเป็นโซนของร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ ตอนเดินผ่านอาคารบ้านเรือนในเบอร์ลิน เพื่อนๆอาจสังเกตเห็นเหมือนกันกับเราได้ว่าตามทางเดินจะมีกล่องใส่ของและหนังสือต่างๆว่างอยู่เป็น Give away box ที่เจ้าของบ้านเค้าตั้งใจแจกให้ฟรี ใครอยากได้ก็สามารถหยิบไปใช้ได้เลย

อาคารสีพาสเทลในย่านเพรนซเลาเออร์ แบร์ค (Prenzlauer Berg)

ภาพสตรีทอาร์ต (street art) ย่านเพรนซเลาเออร์ แบร์ค (Prenzlauer Berg)

สามารถเห็นเจ้ากล่องแบบนี้ได้ตามทางเดินบนท้องถนน หน้าบ้าน หรือในอพาร์ทเม้นท์ เราชอบไอเดียนี้มากเลยเพราะเจ้าของเองก็ได้โละของที่ตัวเองไม่ต้องการแล้วและส่งต่อให้คนอื่นแทนการทิ้งลงถังขยะอย่างน่าเสียดาย เพราะของเหล่านั้นอาจเป็นที่ต้องการของคนอื่นต่อ เป็นการ Reuse ใช้ซ้ำอีกทางหนึ่ง น่าเอาไอเดียนี้ไปใช้ในไทยบ้างเนอะ

Prater Beer Garden since 1837

ภาพบรรยากาศภายใน Prater Beer Garden

เดินมาเรื่อยๆก็ถึงแล้วลานเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดในเบอร์ลินที่มีชื่อว่า “Prater Beer Garden” ป้ายตรงทางเข้าบอกปีที่เริ่มมีเบียร์การ์เด้นท์แห่งนี้ตั้งแต่ปีค.ศ. 1837 ก่อนเราเกิดซะอีก แต่ก่อนนอกจากเป็นลานเบียร์แล้วยังมีการจัดอีเว้นท์ต่างๆอย่างการฉายหนัง เป็นลานมวย หรือแม้แต่เป็นสถานที่ประชุมกันของเหล่านักการเมือง ลานเบียร์ไม่ได้ใหญ่มากแต่รองรับคนได้มากถึง 600 คน ตอนเราไปก็เห็นโซนของลานฉายหนังยังอยู่

เมนูใน Prater Beer Garden

หน้าหนาวที่เบอร์ลินหนาวมากให้ออกมานั่งกินเบียร์ข้างนอกแบบชิวๆไม่น่าจะไหวกัน ที่นี่เลยเปิดให้บริการแค่ในช่วงซัมเมอร์เท่านั้นตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงเดือนกันยายนตั้งแต่เวลาเที่ยงตรงถึงเที่ยงคืน เดินเข้าไปด้านในสุดจะมีเคาน์เตอร์สำหรับสั่งเบียร์อยู่ ขวามือเป็นทางไปห้องน้ำที่ต้องเสียเงินน่าจะ 0.5 ยูโรถ้าจำไม่ผิด แม้ที่นี่จะเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเบอร์ลินที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวแต่เครื่องดื่มกลับราคาไม่แพงเวอร์อย่างที่คิด มาถึงที่นี่ทั้งทีก็เลยจัดไปคนละแก้ว สองแก้ว เอาบรรยากาศ นั่งคุยไปเพลินๆ

เบียร์ผสมสไปรท์ (Radler beer) 3.5 ยูโร 0.4 L (120 บาท) และ เบียร์ต้นตำรับ (Prater Pils) 0.4 L 3.5 ยูโร (120 บาท)

หากใครที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์แต่แค่อยากไปดูบรรยากาศเฉยๆ เค้าก็มีเครื่องดื่มอื่นๆพวกโค้ก แฟนต้า น้ำแอปเปิ้ล 0.4 L แต่ทั้งหมดราคาเท่าเบียร์เลย 3.5 ยูโร (120 บาท) หรือแม้กระทั่งเบียร์ปราศจากแอลกอฮอล์ก็มีขายเช่นกัน สีและลักษณะภายนอกเหมือนเบียร์แต่รสชาติคล้ายน้ำอัดลม หวาน ไม่ขม เด็กๆสามารถดื่มได้ ในลานเบียร์เราก็เห็นมีเด็กๆก็มากับครอบครัวด้วย อีกอย่างที่สังเกตได้ก็คือ คนที่มานั่งที่ลานเบียร์นี้ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวกันทั้งนั้น เพราะเราเห็นพวกเค้าคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ

ขนมปังเพรทเซล (Prezel) เป็นสิ่งที่คนเยอรมันเค้ากินคู่กับเบียร์ มีห้อยขายอยู่ที่เคาน์เตอร์ด้วย เกล็ดขาวๆบนเพรทเซลนั้นคือเกลือ แฟนเราชอบกินเจ้าขนมปังนี้มากเลย เห็นนางซื้อกินตลอดเพราะราคาถูกด้วย แต่เราลองกินดูก็เฉยๆ อยากให้เกล็ดขาวๆนั่นเป็นน้ำตาลซะมากกว่า ขนมปังกินคู่เกลือสำหรับเราว่ามันแปลก แต่เราเคยลองกินเพรทเซลที่ร้านเบเกอร์รีตามสถานีรถไฟ บางร้านที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ กำลังร้อนๆ อร่อยกว่ามาก หอมกลิ่นขนมปังที่เพิ่งอบใหม่ๆ กรอบนอกนุ่มใน แถมไม่รู้สึกว่าเค็มมาก หากเพื่อนๆอยากลองกินเราแนะนำให้ซื้อตามร้านเบเกอร์รีที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆดีกว่าค่ะ

Hefeweißbier non-alcoholic 4.5 Euro (150 บาท)

คนเยอรมันจริงๆเค้าซื้อเบียร์ไว้เป็นลังเก็บไว้กินที่บ้าน ถูกกว่าเยอะด้วย อย่างพี่ชายของแฟนเรานางมีตู้สำหรับเก็บเครื่องดื่มสำรองไว้ในบ้านสำหรับพวกน้ำอัดลม นม น้ำผลไม้ พี่เห็นเบียร์เป็นลังเลย พอดื่มเสร็จก็ใส่ขวดแก้วกลับในลังพวกนั้น เต็มเมื่อไหร่ก็เอาไปคืนที่ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน แถมได้เงินคืนด้วย ขวดแก้วได้เงินคืนประมาณ 0.08 ยูโร (3 บาท) ต่อขวด

รีวิวเที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเอง: เล่าวัฒนธรรมการรีไซเคิลแบบสุดโต่งของเยอรมัน

บนขวดพลาสติกของชาผลไม้ที่เราดื่มมีสัญลักษณ์รีไซเคิลอยู่ หมายความว่าเราสามารถเอาไปคืนที่ร้านค้าไหนก็ได้ที่มีเครื่องดื่มนี้ขายโดยไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ร้านที่เราซื้อเท่านั้นในเยอรมันก็จะได้เงินคืน

เขียนเกี่ยวกับลานเบียร์อยู่ดีๆ ดันมาโยงเข้าเรื่องรีไซเคิลเฉยเลย ฮ่าๆ เรื่องนี้ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆเพราะเป็นสิ่งหนึ่งที่เราชอบมากเกี่ยวกับประเทศนี้เลยก็คือวัฒนธรรมการแยกขยะ รีไซเคิล และใช้ซ้ำของที่นี่และอยากให้ในไทยมีแบบนี้บ้าง ขวดพลาสติกจากน้ำอัดลม น้ำเปล่า หรือชา หากเอาไปคืนที่ซูเปอร์มาร์เก็ตจะได้เงินคืนประมาณ 0.15 – 0.25 ยูโร (5 – 8.5 บาท) ซึ่งราคานี้ถูกรวมอยู่ในราคาของเครื่องดื่มตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ใครไม่เอามาคืนก็เหมือนจ่ายค่าขวดพวกนี้ไปฟรีๆ เอาไปคืนทีรวมกันหลายๆขวดรวมกันทีก็เป็นเงินหลายบาทเหมือนกัน

แฟนเล่าให้ฟังว่าตอนเป็นเด็กจะอาสาเอาขวดพลาสติกพวกนี้มาคืนเพราะจะได้เป็นค่าขนมกลับไปด้วย เราเคยช่วยเอาขวดไปคืนที่ซูเปอร์มาร์เก็ตพร้อมพี่ชายและพี่สาวของแฟนอยู่ 2 ครั้ง พวกขวดแก้วสามารถคืนพร้อมลังได้เลย พนักงานจะนับจำนวนแล้วคืนเงินให้เรา จากนั้นเราก็ยกไว้ไปรวมกับลังขวดแก้วอื่นๆ ส่วนขวดพลาสติกก็ให้พนักงานดูแล้วนับจำนวนเค้าจะคิดเงินให้ จากนั้นก็จะโยนลงใส่ถังสำหรับขวดพลาสติกที่เค้ามีไว้ในร้าน แต่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งก็มีเป็นเครื่องคืนขวดอัตโนมัติอยู่ โดยเราต้องใส่ขวดพลาสติกใส่เครื่องทีละขวด พอเสร็จเรียบร้อยแล้วเครื่องจะปริ้นใบออกมาว่าเราคืนไปทั้งหมดกี่ขวด รวมเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ จากนั้นเราก็เอาใบนี้ไปให้ที่เคาน์เตอร์จ่ายเงินดูแล้วเค้าจะก็คืนเงินจำนวนนั้นกลับมาให้เรา บางครั้งตามท้องถนนเราก็จะเห็นเหล่าขอทานค้นขยะหาขวดที่มีสัญลักษณ์นี้เพื่อเอาไปคืนที่ร้านแล้วเปลี่ยนเป็นเงินไว้ซื้ออาหารประทังชีวิต

ที่บ้านของคนเยอรมันเค้าจะแยกขยะอย่างเป็นระเบียบ ถังแรกสำหรับเศษอาหาร ถังที่สองสำหรับกระดาษ ถังที่สามสำหรับพลาสติก ถังที่สี่สำหรับขวดพลาสติก และถังที่ 5 สำหรับอื่นๆ ส่วนขวดแก้วจะถูกใส่ลังกลับคืน พี่ชายของแฟนเราจะนำเอาขยะพวกเศษอาหารไปให้กับเพื่อนบ้านที่เลี้ยงไก่เพื่อเป็นอาหารสำหรับไก่นั่นเอง ส่วนขยะอื่นๆพอเต็มแล้วก็เอาไปใส่ที่ถังขยะใหญ่สาธารณะแถวบ้านโดยแยกเป็นกระดาษ พลาสติก และอื่นๆ

พิกัดลานเบียร์เก่าแก่ในเบอร์ลิน Prater: Prater Beer Garden Google Map

เว็บไซต์ของ Prater Beer Garden: Prater Beer Garden Website

อ่านเที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเองตอนก่อนหน้าได้ที่นี่:

• รีวิวนั่งรถบัสราคาถูกจากอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) มาเบอร์ลิน (Berlin) โดย Flixbus
• เที่ยวเบอร์ลิน (Berlin) ตอนที่ 1: แนะนำวิธีซื้อตั๋วรถไฟในเบอร์ลินและพาเดินเล่นในตลาดนัดอินดี้วันเสาร์ (Flohmarkt im Mauerpark)

อ่านเที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเองตอนต่อไปได้ที่นี่: เที่ยวเบอร์ลิน (Berlin) ตอนที่ 3: ก้าวข้ามระหว่างฝั่งอดีตเยอรมันตะวันออกและเยอรมันตะวันตกที่เช็คพอยท์ ชาร์ลี (Checkpoint Charlie) จุดที่เคยเกือบทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 มาแล้ว

เช็คราคาตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ-เบอร์ลินได้ที่นี่: http://bit.ly/flights-Bangkok-Berlin

แนะนำวิธีค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกและคุ้มที่สุดสำหรับการเดินทางทั้งในไทยและต่างประเทศ เอาใจแบ็คแพ็คเกอร์สายประหยัดเหมือนกัน

เรื่อง: ตรีสุคนธ์ จีระมะกร (ตรี)

• รับจ้างเขียน content สนใจส่งข้อความมาทางเว็บไซต์ได้เลยค่ะ
• รับจองตั๋วเครื่องบินทั้งในไทยและต่างประเทศราคาถูก สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมและทักแชทมาได้ที่ Helloholidays.xyz FB Page

• Share
• Tweet
• Send Line