รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) ตอนที่ 4: กำแพงเลนนอน (Lennon Wall) และบรรยากาศตอนเย็นและกลางคืนของปราก

รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) ตอนที่ 4: กำแพงเลนนอน (Lennon Wall) และบรรยากาศตอนเย็นและกลางคืนของปราก

กำแพงเลนนอน (Lennon Wall)

วันต่อๆมา เราเข้ามาในตัวเมืองของปรากอีกครั้งแล้วพากันตรงดิ่งมาที่ กำแพงเลนนอน (Lennon Wall) ก่อนเป็นที่แรก ซึ่งเป็นที่ๆมีสตรีทอาร์ตที่ได้แรงบันดาลใจมาจากจอหน์ เลนนอน (John Lennon) ศิลปินชื่อดังจากวง The Beatle มาตั้งแต่ปี 1980 เป็นที่รู้จักกันดีว่านักร้องคนนี้ไม่ใช่แค่มีแต่เพลงดังเท่านั้น แต่ยังเป็นเพลงที่มีความหมายดีและสื่อถึงสันติภาพอีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามเวียดนามในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่อย่างเพลง Imagine เพลงฮิตตลอดกาลที่เคยพูดถึงอยู่หลายครั้งในบล็อกเพราะเป็นอีกหนึ่งเพลงโปรดของเรา 🙂

ประตูทางเข้า ด้านในมีร้านขายงานอาร์ตและสวนเล็กๆตั้งอยู่
กลุ่มคนกำลังเล่นโยคะกันใต้ต้นไม้ใหญ่

บริเวณสวนภายในมีคนกำลังนั่งเล่นและกลุ่มคนกำลังเล่นโยคะกันใต้ต้นไม้ใหญ่อยู่ด้วย ชิวจัง พี่ชอบ เราเดินเข้าไปดูร้านขายของอาร์ตเสร็จแล้ว เดินออกมา อยู่ๆดีๆก็จามขึ้นมาเฉย จนฝรั่งคนนึงที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในสวนกับแฟนของเขาบอกเรากลับมาให้ได้ยินพร้อมกับรอยยิ้มว่า “Bless You” เราก็หัวเราะแล้วก็ตอบกลับไปว่า “Thank you” แล้วรีบเดินออกมาเพราะแอบอายเล็กน้อย หวังว่าจะไม่เป็นการทำลายสมาธิของคนที่กำลังเล่นโยคะกันอย่างตั้งใจ ฮ่าๆ แอบเห็นป้ายราคาสอนโยคะประมาณ 1.15 หรือ 1.30 ชั่วโมงในราคาเพียง 5 ยูโรเท่านั้น ถูกมาก มีให้บริการตั้งแต่วันอังคารถึงวันศุกร์ ใครสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คเพจของ Saz Yoga ได้ที่นี้เลย Saz Yoga Facebook Page

นอกจากข้อความ quote สุดฮิตของจอห์น เลนนอนอย่าง All you need is love แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราลองสังเกตข้อความบนภาพกราฟิตี้ดีๆแล้วเห็นมีเขียนอยู่มากมายเลยก็คือ ข้อความที่ถูกเพ้นท์เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ในประเทศฮ่องกงในขณะนั้น (August, 2019) ที่ยังคงดำเนินมาถึงปัจจุบัน ซึ่งเราเองก็ไม่ได้ติดตามข่าวมาก แต่แฟนชอบติดตามข่าวพวกนี้แล้วชอบเล่าให้เราฟังอยู่บ่อยๆ ผู้คนในประเทศฮ่องกงออกมาเดินประท้วงเพื่อสันติภาพของฮ่องกงจากประเทศจีน หลังจากที่จีนพยายามควบคุมรัฐบาลของฮ่องกง และพยายามให้ฮ่องกงออกกฎหมายให้ทางรัฐบาลสามารถส่งคนไปที่ประเทศจีนได้ ซึ่งสุดท้ายอาจจะต้องตกไปอยู่ในค่ายกักกันในจีนในที่สุด ทำให้คนฮ่องกงเห็นว่าไม่ยุติธรรมแล้วออกมาประท้วงให้ไถ่ถอนกฎหมายนี้ ซึ่งในที่สุดรัฐบาลได้ไถ่ถอนออกแล้วในขณะนี้

#myhoodisgood

แต่ก็แลกมาด้วยการที่คนที่ออกมาประท้วงถูกตำรวจทำร้ายร่างกาย มีภาพและวิดีโอออกมาให้ทั่วโลกได้เห็น เราเองก็ได้ดู เรากำลังถ่ายรูปกับภาพกราฟิตี้พวกนี้เพลินๆ แฟนก็เล่าให้ฟังว่า ภาพเด็กผู้หญิงที่ปิดตาข้างนึงที่เราเห็นนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เด็กหญิงชาวฮ่องกงที่มีอายุเพียงไม่กี่ปีต้องสูญเสียตาข้างหนึ่งจากการโดนรุมทำร้ายของตำรวจ ทำให้มีคนเอามาวาดเป็นภาพกราฟิตี้ที่กำแพงสันติภาพแห่งนี้เพื่อเตือนใจ พร้อมมีคำพูดสนับสนุนและให้กำลังใจประเทศฮ่องกงมากมายอย่าง #FreeHK #FreedomHK #EyeforHK

If not us, then who

พอได้รู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็สะเทือนใจ เราเองก็ได้แต่ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า แต่อีกแง่ของการที่ได้มาที่นี่ก็ทำให้เห็นถึงความสนใจและใส่ใจของคนอีกฟากฝั่ง อย่างประเทศสาธารณรัฐเช็กในฝั่งยุโรปที่มีต่อประเทศฮ่องกงในฝั่งเอเชีย ที่แม้แต่เราคนเอเชียเองแท้ๆยังรู้เรื่องน้อยกว่าคนยุโรปเค้าเองซะอีก ทำให้เราหันมาใส่ใจกับเหตุการณ์นี้มากขึ้น และอยากเป็นอีกแรงที่ร่วมเป็นกำลังใจให้ฮ่องกงผ่านพ้นเหตุการณ์ร้ายๆนี้ไปได้โดยเร็ว และได้พบกับสันติภาพในประเทศตัวเองอีกครั้งในที่สุด

#EyeforHK

การประท้วงยังคงดำเนินต่อไปเพราะผู้คนในฮ่องกงต้องการความเป็นธรรม ให้ตำรวจที่ทำร้ายร่างกายคนฮ่องกงได้รับการลงโทษ และให้ผู้นำของประเทศและรัฐบาลชุดนี้ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบด้วย ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป.. กำแพงเลนนอนไม่ได้ไกลจากสะพานชาลส์ (Charles Bridge) แลนมาร์คอันดับต้นๆของปรากเลย ยังไงลองแวะมาที่นี่ดูหากได้มาเที่ยวที่ปราก เพราะนอกจากจะได้รูปคู่กับกราฟิตี้เท่ๆแล้ว น่าจะได้เห็นคำพูดบนกำแพงนี้ไปเป็นกำลังใจดีๆในการดำเนินชีวิตอีกด้วยค่ะ 🙂

พิกัด/แผนที่กำแพงเลนนอน: Lennon Wall Google Map

ร้านอาหารและผับใกล้กับ Lennon Wall

บรรยากาศของปรากตอนเย็น

เดินจากกำแพงเลนนอนมาเรื่อยๆก็จะถึงอีกด้านของสะพานชาลส์ (Charles Bridge)

ชอบที่ปรากมีที่ให้นั่งเล่นให้ต้นไม้ในตัวเมืองอยู่เยอะ

บรรยากาศตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกดินในปราก

หากเดินมาจากกำแพงเลนนอนแล้วเลี้ยวขวามาเมื่อเจอสะพานชาลส์ (Charles Bridge) ที่อยู่ด้านซ้ายมือ เดินมาเรื่อยๆจะเห็นทางเดินเล็กๆที่พาเราไปนั่งใกล้กับแม่น้ำวัลตาวา เพื่อชมวิวของปรากยามเย็นได้พอดิบพอดี วิวตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกดินที่ปรากสวยมาก แสงสาดส่องไปที่อาคารเก่าแก่ริมน้ำของปรากแล้วสะท้อนเป็นสีทองออกมา เป็นอีกหนึ่งที่มาของ “Golden City” ที่คนยุโรปเค้าใช้เรียกชื่อของเมืองปรากกันรึเปล่านะ นอกจากยุคทองจากการค้าขายของปรากในสมัยก่อน เรานั่งดูวิวตรงนี้กันซักพักจนแสงสีทองค่อยๆจางหายไปเพราะอาทิตย์ลับขอบฟ้า บอกกับตัวเองว่าไม่ต้องรีบ นั่งตรงนี้เพื่อดื่มด่ำกับวิวสวยๆที่มีให้ชมเพียงแค่ไม่กี่นาทีนี้ซะก่อน มุมนี้เป็นมุมโปรดของเราที่ปรากเลยล่ะ

สวนแคมป้า (Kampa Park)

หลังจากดูวิวพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำวัลตาวากันเสร็จแล้ว ก็พากันเดินกลับ ผ่านสวนแห่งหนึ่งที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว ทราบชื่อของสวนแห่งนี้ในภายหลัง มีชื่อว่าสวนแคมป้า (Kampa Park) ซึ่งเป็นสวนที่มีบรรยากาศครึกครื้นมาก มีผู้คนหลายวัยออกมาเล่นดนตรีอยู่ในสวนให้ความสุขกับผู้คนแลกกับทิปเล็กๆน้อย ใกล้ๆกับสวนก็มีเหล่าร้านอาหารที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่มีเหล่านักดนตรีกำลังทำการแสดงอยู่ รอบๆล้อมตัวเรามีแต่เสียงดนตรีไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็ตามในปราก

หากเดินมาถึงสวนแห่งนี้แล้ว เราแนะนำให้มองหาบ้านหลังเล็กที่ตั้งอยู่ในสวนเพราะที่นี่เป็นเหมือนบ้าน Charity หลังเล็กๆที่ภายในตกแต่งด้วยงานศิลปะจากฝีมือของผู้พิการหรือเด็กๆ ข้างในร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในราคาถูกเพียงแค่ 1-2 ยูโร หรือมีอยู่วันนึงทางร้านให้บริจาคเงินแล้วแต่จะให้เพื่อแลกกับเครื่องดื่มอย่างเบียร์หรือไวน์ได้ด้วย ซึ่งน่าจะถูกกว่าการดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ในร้านอาหารราคาแพงเป็นไหนๆ แถมได้ดื่มในสวนแบบชิวๆ ดื่มไปด้วย ฟังเพลงไปด้วยได้อีกต่างหาก เราเลยพากันมาที่สวนแห่งนี้กัน 2 วันติดๆ (เพราะติดใจ) ใครสนใจก็ลองแวะเวียนมาดูกันได้ที่สวน Kampa นะคะ สังเกตได้ง่ายๆเลยว่าจะคนยืนอยู่เต็มร้านเลยที่ด้านนอก

พิกัด/แผนที่สวนแคมป้า (Kampa Park): Kampa Park Google Map

บรรยากาศของปรากตอนกลางคืน

เห็นบรรยากาศของไฟที่ค่อยๆเปิดขึ้นมาตอนพลบค่ำของปรากแล้ว ก็รู้สึกว่าปรากเป็นเมืองที่โรแมนติกมาก

ใครที่มาเที่ยวปราก เราอยากให้ได้ลองเดินเล่นในตัวเมืองปรากทั้งตอนสาย กลางวัน เย็น และกลางคืนเลย เพราะปรากในทุกช่วงเวลาสวยงามและให้ความรู้สึกที่ต่างกัน เรามาเที่ยวปรากตอนปลายเดือนสิงหาคมซึ่งอากาศค่อนข้างร้อน แต่พอเริ่มตกเย็นอากาศก็ค่อยๆดีขึ้น ตอนพระอาทิตย์ตกในตอนเย็นคือช่วงเวลาที่เราว่าสวยมากสำหรับปราก แล้วพอตกกลางคืนไฟสลัวๆของปรากก็ทำให้เมืองดูโรแมนติกและมีเสน่ห์ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะตอนที่เดินเล่นบนสะพานชาลส์ในตอนกลางคืนที่ส่วนใหญ่เหล่าร้านค้าบนสะพานจะเริ่มเก็บแล้ว แต่จะมีเหล่านักดนตรีอิสระออกมาสร้างสีสันในยามค่ำคืนแทน แถมตอนที่มองออกไป วิวต่างๆของเมืองปรากสวยมากเมื่อมองจากสะพานชาลส์ (Charles Bridge) โดยเฉพาะวิวของปราสาทปราก (Prague) ในยามค่ำคืน

วิวของปราสาทปราก (Prague) ตอนกลางคืน

วิวมองจากสะพานชาลส์ (Charles Bridge) ในตอนกลางคืน

แตะแล้ว “โชคดี”

Free hugs แน่นอนว่าเราก็เข้าไปกอดเขาด้วย ไม่ได้รู้จักกัน แต่เราก็เป็นประชากรของโลกใบนี้เหมือนกัน 🙂
แฟนเราบอกกับพวกเขาว่า “Have a nice evening” พวกเขาตอบกลับมาว่า “You too”

สะพานชาลส์ (Charles Bridge) ในตอนกลางคืน

ถนนเซเล็ตนา (Celetna road) ในตอนกลางคืน

Church of Our Lady before Týn ในตอนกลางคืน

จัตุรัสเมืองเก่าปราก (Old Town Sqaure) ในตอนกลางคืน

พอตกดึก เหล่าร้านอาหารต่างๆก็กลายร่างเป็นร้านผับบาร์แทน

ประตูที่กั้นระหว่างเมืองเก่ากับเมืองใหม่ในตอนกลางคืน
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของสาธารณะเช็ก (Lapidary of the National Museum)

เรื่อง: ตรีสุคนธ์ จีระมะกร (ตรี)

ฟรีแลนซ์นักแปลไทย <=> อังกฤษและนักเขียนคอนเทนต์

อ่านรีวิวเที่ยวปรากด้วยตัวเองตอนก่อนหน้านี้ได้ที่นี่: รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) ตอนที่ 3: จัตุรัสเมืองเก่าปราก (Old Town Square) และโซนเมืองใหม่ปราก


เช็คราคาตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ-ปรากได้ที่นี่: http://bit.ly/Bangkok-Prague

แนะนำวิธีค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกและคุ้มที่สุดสำหรับการเดินทางทั้งในไทยและต่างประเทศ เอาใจแบ็คแพ็คเกอร์สายประหยัดเหมือนกัน

1 Comment