รีวิวเที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง Tag

Paco Meralgo ร้านอาหารแนะนำในบาร์เซโลนาที่เรารู้จักมาจากเพื่อนของแฟนอีกทีนึง เพราะเค้าชอบอาหารของทางร้านจนเขียนบล็อกถึงร้านนี้เอาไว้ด้วย แถมร้านยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเราพอดี เย็นวันนึงพวกเราเลยเดินตามหาร้านนี้กัน พอมาถึง ก็เดินตรงดิ่งเข้าไปในร้านเพื่อหาที่นั่ง แต่ที่ร้านยุ่งมาก ที่นั่งเต็มเอี๊ยด พนักงานก็เดินกันวุ่น เค้าก็เลยให้พวกเราไปรอหน้าร้านกันก่อนแล้วจะเรียกพอมีที่นั่งว่างแล้ว ซักพักก็เริ่มมีคนมารอคิวเพิ่ม บางคนก็ถือแก้วไวน์ ดื่มไปคุยไปกันที่หน้าร้าน พวกเราเลยเอาบ้าง สั่งไวน์มาจิบรอคิวหน้าร้านซะเลย แต่ไม่นานนักก็ถึงคิวของพวกเราพอดี Paco Meralgo เป็นร้านที่ไม่ได้ใหญ่มาก มีที่นั่งแบบเค้าเตอร์เล็กๆ อยู่เป็นส่วนใหญ่ อีกฝั่งที่เป็นโต๊ะใหญ่ก็ถูกจองไว้เป็นที่สังสรรค์ของกลุ่มพนักงานบริษัทไปแล้ว พวกเราได้ที่ว่างตรงโซนที่เป็นโต๊ะเค้าเตอร์เล็กๆ แม้พื้นที่จะน้อย และมีเสียงคุยของแขกในร้านเป็นระยะ แต่เรากลับไม่รู้สึกอึดอัดเลยซักนิด ด้านล่างโต๊ะก็มีที่ให้แขวนกระเป๋าด้วย พนักงานก็สุภาพ มาถึงก็จัดจานพร้อมยื่นเมนูให้ด้วยความรวดเร็ว เมนูมีแค่หน้าเดียวแต่พวกเราคิดกันอยู่นานเลยว่าจะกินอะไรดี เพราะมันน่ากินไปซะหมด! เมนูร้าน PACO MERALGO  Chunks of black pepper beef fillet เราเห็นในเมนูคำว่า "for meat lovers" ก็รีบหันไปดูเลยว่ามีเมนูอะไรบ้าง หลายวันมานี้อยากกินสเต๊กเนื้อมากก็เลยสั่งเป็น Chunks...

บาดาโลนา (Badalona) เป็นอีกเมืองที่อยู่ห่างจากบาร์เซโลนา (Barcelona) เพียงแค่ 11 กิโลเมตรเท่านั้น เมืองนี้มีดีที่เป็นเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พวกเรามีเวลาในสเปนทั้งหมดประมาณ 4 วันด้วยกัน เราใช้เวลา 2 วันเต็มๆ ดื่มด่ำไปกับผลงานสถาปัตยกรรมของเกาดี (Gaudi) ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาเยือนอย่างซากราดาฟามิเลีย (Sagrada Familia) ปาร์ค กูเอล (Park Guell) และคาซามิลา (Casa Mila) อีก 1 วันเราใช้เวลาไปกับการนั่งเขียนบล็อกในคาเฟ่แถวที่พัก และอีก 1 วันเราตั้งใจไว้ว่าจะไปเดินเล่นชายทะเลที่นี่แบบชิวๆ มาเที่ยวประเทศสเปนที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทั้งที จะไม่พาตัวเองไปสูดอากาศริมทะเลซะหน่อยก็คงจะรู้สึกว่าเหมือนพลาดอะไรดีๆ ไป พวกเราเลือกที่จะหลีกหนีโซนนักท่องเที่ยวที่ชายหาดชื่อดังในบาร์เซโลนา มาเดินเล่นแถวชายทะเลที่ใกล้กับที่พักในบาดาโลนาแทน เดินไปจนถึงชายหาดก็บังเอิญเจอเข้ากับร้านขายอาหารริมทะเลน่านั่งอยู่ร้านนึง พวกเราเลยนั่งเล่นที่นี่กัน ร้านนี้มีชื่อว่า WAYRA เป็นแค่ร้านเล็กๆ แต่น่ารักมาก แถมตั้งอยู่ริมทะเลในมุมที่เราสามารถกินไป นั่งมองวิถีชีวิตของชาวสเปนริมชายหาดแถวนี้ไปได้ด้วย และที่สำคัญที่สุดเลยก็คืออาหารของที่ร้านอร่อยมาก! เราสั่ง...

Schulanfang เป็นภาษาเยอรมัน แปลว่า Back to school ซึ่งเป็นชื่อเรียกของวันแรกที่เด็กๆจะต้องเข้าเรียนเกรด 1 หรือราวๆ ประถมศึกษาปีที่ 1 ในไทย เมื่อเด็กมีอายุประมาณ 6-7 ปี หากนึกถึงการเข้าโรงเรียนวันแรกแล้ว เราคงนึกภาพได้ยินเสียงของเด็กร้องไห้ หรือหน้าตาของเด็กๆที่ไม่มีความสุขในการไปโรงเรียนกันของเด็กๆเป็นแถวเลยใช่ไหมล่ะค่ะ แต่ที่ประเทศเยอรมันไม่ใช่ ! เพราะที่นี่มีธรรมเนียมหนึ่งที่น่าสนใจมากที่ทำให้เรื่องของการเข้าโรงเรียนวันแรกกลายเป็นเรื่องที่น่ายินดี ! Schultueten Baum (Schoolcone tree) ต้นไม้แขวนกรวย ให้เด็กๆไปสอยเอากรวยของตัวเองที่มีป้ายชื่อตัวเองแปะอยู่ โดยก่อนหน้าวันที่ต้องเริ่มเรียนจริงๆ ช่วงเช้าเด็กนักเรียนและพ่อแม่จะไปที่โรงเรียนด้วยกันเพื่อทำความรู้จักโรงเรียน คุณครู เพื่อนร่วมคลาส และปาร์ตี้ ! จะยังไม่มีการเรียนการสอนเกิดขึ้นเลยทันทีในวันแรก พ่อกับแม่จะเตรียมของขวัญให้เป็น Schultüte ซึ่งก็คือห่อของขวัญรูปกรวยที่มีสีสันสดใสหรือลวดลายต่างๆ หาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องเขียนหรือซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป มาใส่ขนมหวานๆ ลูกอม ช็อกโกแลตที่เด็กๆชอบเข้าไปจนเต็ม เพื่อเป็นของขวัญแสดงความยินดีในการเข้าเรียนวันแรกของพวกเค้าในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี เด็กเยอรมันจะต้องมีรูปคู่ถ่ายกับ Schultüte กันแทบทุกคนเพราะธรรมเนียมนี้มีมายาวนานตั้งแต่ปี 1810...

เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ด้วยตัวเอง: สวนสาธารณะในไลพ์ซิก (Leipzig), Johanna Park ไลพ์ซิก (Leipzig) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐแซกโซนี (Saxony) ประเทศเยอรมันค่ะ เพิ่งเป็นเมืองที่ได้รับรางวัลเป็นที่สุดของเมืองในยุโรปจาก Urbanism Awards 2019 มาหมาดๆเลย โดยชนะเมืองนองต์ ประเทศฝรั่งเศส และเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ซะอีก ! จากตอนแรกที่เราเคยเล่าประสบการณ์พายเรือแคนูในคลองเมืองไลพ์ซิก เอาไว้ ก็จะเห็นได้ว่าไลพ์ซิกเป็นเมืองที่มีธรรมชาติโอบล้อมทำให้เป็นเมืองที่น่าอยู่มากเลย แถมยังมีสวนสัตว์ไลพ์ซิก (Zoo Leipzig) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนสัตว์ที่ดีที่สุดในยุโรปด้วย อีกสิ่งที่น่าสนใจของเมืองนี้คือเรื่องราวประวัติศาสตร์ค่ะ เพราะที่นี่เคยเป็นเมืองที่นโปเลียนเคยมาตั้งฐานทัพเพื่อส่งกองกำลังเข้าไปยึดยุโรปในสมัยที่สเปนต้องการจะยึดครองหลายประเทศในยุโรปอย่างเด็ดขาด ทำให้ที่นี่เป็นที่ๆเคยตกอยู่ในสมรภูมิรบอย่างหนักหน่วงมาก่อน แต่ด้วยความร่วมมือกันของกองทัพกษัตริย์และผู้ปกครองยุโรปก็สามารถเอาชัยชนะจากนโปเลียนได้ในที่สุดที่เมืองนี้เป็นที่แรก ทำให้ประเทศในยุโรปได้กลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง แต่นั่นก็เป็นเรื่องของเมื่อ 200 ปีที่แล้ว.. สวนสาธารณะในไลพ์ซิก (Leipzig), Johanna Park ต่อมาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2.. ไลพ์ซิกยังเป็นเมืองที่มีบทบาทอย่างมากในการประท้วงเพื่อเรียกร้องอิสรภาพในการเดินทางตอนที่กำแพงเบอร์ลินยังแบ่งกั้นระหว่างเยอรมันตะวันตกและตะวันออกทำให้คนไลพ์ซิกที่อยู่ในฝั่งตะวันออกไม่มีอิสรภาพตรงนี้และเลือกที่จะเสี่ยงตายเพื่อให้ได้มันมา ก่อนหน้าที่กำแพงเบอร์ลินจะถูกทำลายลงไม่นานในปี 1989 มีคนมาร่วมประท้วงบนท้องถนนในเมืองไลพ์ซิกทุกๆวันจันทร์ จำนวนมากสุดถึง...

รีวิวเที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเอง: แลนมาร์คของเบอร์ลิน ประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate)  ภาพประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate) ตอนฟ้าเริ่มมืด สวยไปอีกแบบ หลังจากแวะไปที่เช็คพอยท์ ชาร์ลี (Checkpoint Charlie) เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเบอร์ลินหลังจากเยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 กันเพิ่มอีกนิดหน่อยแล้ว ก็มาถ่ายรูปคู่กับแลนด์มาร์คของเบอร์ลินอย่าง "ประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate)" กันต่อบ้าง ประตูบรันเดินบวร์คเป็นประตูเมืองที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นรับสั่งของพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 2 (Frederick William II) แห่งปรัสเซีย เป็นศิลปะแบบ Neoclassic โดยได้ต้นแบบมาจากวิหารบนอะโครโพลิสในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ (Propylaea of Athens’ Acropolis) ตั้งใจให้เป็นดั่งสัญลักษณ์ของสันติภาพ ตั้งอยู่บนทางเข้าของพระราชวังกรุงเบอร์ลิน (Berlin City Palace) ของพระองค์ในสมัยนั้น โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดเกือบ 3...

รีวิวเที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเอง: Crazy Creative and Hard City เราถามแฟนที่เป็นคนเยอรมันว่าถ้าให้นิยามคำ 3 คำให้กับเบอร์ลินจะนิยามว่าอะไร? เค้าตอบกลับมาว่า "Crazy Creative and Hard" Crazy ภาพ street art บนกำแพงเบอร์ลินบางส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่ที่ East Side Gallery เป็นภาพของธงชาติของเยอรมันและอิสราเอล (ชาวยิว) ที่อยู่บนผืนเดียวกัน ขอเตือนเพื่อนๆ ไว้ก่อนเลยว่า หากเดินเล่นอยู่ตามถนนในเบอร์ลินอยู่ดีๆ อาจจะเจอคนบ้าหลายๆ คนตามถนนเข้าได้ เดินพูดคนเดียวบ้าง นั่งคุยคนเดียวกับตุ๊กตาหมีบ้าง เพราะเราเจอกับตัวเองมาแล้ว ได้แต่เดินเร็วๆ รีบผ่านพวกเค้าไป นอกจากคนบ้าแล้วก็ยังมีคนไร้บ้านและขอทานจำนวนไม่น้อยเลย ครั้งนึงเราเดินเล่นอยู่เพลินๆ ที่ใต้สะพาน Oberbaum Bridge ก็มีคนหน้าตาดีเข้ามาขอเงินแถมพูดภาษาอังกฤษได้ชัดแจ๋วเลยประมาณว่า "พวกคุณกำลังมีช่วงเวลาที่ดีที่นี่ พอจะช่วยแบ่งเศษเงินให้ผมหน่อยได้ไหม? " เราได้แต่ส่ายหน้าและเดินหนี แต่นั่นก็เป็นครั้งเดียวที่เจอว่ามีคนเดินเข้ามาขอเงินถึงตัวแบบนี้ Creative ​ Street art ย่าน Prenzlauer Berg เบอร์ลินขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งสตรีทอาร์ต...