14 Feb ซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia): ศิลปะ ธรรมชาติ และศรัทธาของสถาปนิกและศิลปินเลื่องชื่อ ‘เกาดี’
ซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในเมืองบาร์เซโลนา (Barcelona) ประเทศสเปน (Spain) ในปัจจุบัน ใช้เวลาสร้างนานกว่าชั่วอายุคน ปัจจุบันผ่านมากว่า 137 ปีก็ยังไม่แล้วเสร็จ แม้ศิลปินผู้ออกแบบอย่าง ‘เกาดี’ จะจากโลกนี้ไปแล้วกว่า 93 ปี เขาได้ใช้ชีวิตบั้นปลายทุ่มเทให้กับผลงานชิ้นนี้เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น
“My good friends are dead; I have no family and no clients, no fortune nor anything. Now I can dedicate myself entirely to the Church”
เกาดี (Gaudi) มีชื่อเต็มๆว่า แอนโทนี เกาดี (Antoni Gaudi) เป็นศิลปินชาวคาตาลัน (Catalan) ประเทศคาตาโลเนีย (Catalonia) ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศสเปนในภายหลัง มีชื่อเสียงรู้จักไปทั่วโลกในปัจจุบันด้วยผลงานเอกชิ้นนี้ ซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia)
Nativity Facade
ต้นไม้แห่งชีวิต (Tree of life)
ชีวิตในวัยเด็กของเกาดีคลุกคลีอยู่กับธรรมชาติ หลังม้า และเดินเป็นสิบๆกิโลในแต่ละวัน ทำให้ผลงานออกแบบทางสถาปัตยกรรมของเขามักข้องเกี่ยวกับธรรมชาติด้วยเสมอ เพราะต้องต่อสู้ด้วยโรครูมาติกมาตั้งแต่นั้น ทำให้เขาเปลี่ยนมาเป็นกินมังสวิรัติ เขารักและหลงใหลในงานด้านสถาปัตยกรรม เลยศึกษาที่ Barcelona Higher School of Architecture และทำงานเขียนแบบระหว่างเรียนไปด้วยเพื่อใช้เป็นทุนในการศึกษา เขาเรียนได้เกรดปานกลาง มีตกบ้างในบางรายวิชา แต่สุดท้ายก็ได้กลายมาเป็นสถาปนิกสมใจอยาก
ผลงานของเขามีความเป็นตัวของตัวเองสูง โดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง งานของเขาสร้างจากความชอบในธรรมชาติตั้งแต่วัยเด็ก ผสมกับความรักที่มีต่องานสถาปัตยกรรม และความศรัทธาที่มีต่อศาสนาคริสต์ ทำให้โบสถ์แห่งนี้สวยงามในแบบที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลก ‘แปลกแต่สวย’ ในแบบของเกาดี
เกาดีทำให้ซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) เป็นเหมือนป่าใหญ่ที่เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าสรรพสิ่ง มีมุมนึงของโบสถ์ที่เป็นมุมโปรดของเราเลยก็คือ ‘ประตูทางเข้าโบสถ์’ ที่หลายๆคนเดินผ่านไปอย่างรวดเร็วเพื่อเข้าไปชมความสวยงามด้านใน แต่เราหยุดยืนดูอยู่นานสองนาน เพราะเกาดีเขาแอบซ่อนเจ้าสัตว์เล็กสัตว์น้อยไว้หลายชนิดใต้ต้นไม้นี้ เราสนุกกับการยืนมองและค้นหาว่ามีตัวอะไรแอบอยู่ตรงไหนบ้าง มีหมดตั้งแต่น่ารักๆอย่างเต่าทอง อันตรายหน่อยๆอย่างผึ้ง ไปจนถึงถ้าเจอตัวจริงเราคงต้องรีบกระโดดหนีอย่างหอยทาก กิ้งกือ แมงมุม หรือจิ้งเหลน
พอเข้าไปในโบสถ์.. ก็ต้องตกตะลึงให้กับแสงสีภายในที่ถูกทาด้วยแสงจากพระอาทิตย์ สาดส่องผ่านบานกระจกสีรอบด้าน แต่งแต้มสีสันให้ภายในโบสถ์มีชีวิตขึ้นมา กระจกสีที่นี่ไม่มีเรื่องราวของพระเจ้าเหมือนโบสถ์อื่นๆ แต่เต็มไปด้วยสีสันที่คิดมาอย่างดีแล้ว และถ้าสังเกตดีๆก็จะเห็นชื่อของนักบุญถูกเขียนไว้เล็กๆบนกระจกด้วย
เมื่อยืนอยู่ที่กึ่งกลางของโบสถ์ หันไปทางด้านหน้า ด้านขวาเป็นบานกระจกสีฟ้า ด้านซ้ายเป็นบานกระจกสีแดง เกาดีตั้งใจทำให้บานกระจกเหล่านี้มีสีฟ้าแทนแสงพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และมีสีแดงแทนบรรยากาศของพระอาทิตย์ตกในยามเย็น
ที่เราชอบมากอีกอย่างหนึ่งก็คือ เสาภายในโบสถ์ที่เกาดีออกแบบมาให้เหมือนกับต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านสาขาไปจนทั่ว แต่งแต้มสีสันด้วยแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านกระจกสีเข้ามาภายใน เปลี่ยนแปลงสีมันไปแทบจะทุกวินาที ความตั้งใจของเขาที่อยากทำให้ที่นี่เป็นเหมือนป่าใหญ่ เราเองก็รู้สึกได้แบบนั้นจริงๆ ไม่มีโบสถ์ที่ไหนในโลกเหมือนที่นี่
บริเวณกึ่งกลางที่ด้านหน้าสุดมีรูปปั้นของพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขนอยู่ ซึ่งไม่เหมือนภาพจำที่เราเคยเห็นในโบสถ์ที่อื่นมาก่อน เกาดีทำออกมาได้ทั้งแตกต่างและสวยงาม ด้านบนมีที่ปกคลุมถูกตกแต่งด้วยผลองุ่นโดยรอบ เปิดไฟส่องแสงสีเหลืองนวลดึงดูดสายตาของผู้คน เกาดีสำหรับเราเค้าเป็นมากกว่าสถาปนิก เค้ายังเป็นศิลปินที่เก่งกาจมากอีกด้วย เรารู้สึกว่าที่นี่ดูสมัยใหม่มาก ด้วยความแตกต่างและความสร้างสรรค์ที่ไม่มีใครเหมือน แม้ที่นี่จะสร้างมาเป็น 100 กว่าปีแล้วก็ตาม
คนมาเที่ยวกันที่ซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) เยอะมาก จำนวนนักท่องเที่ยวต่อปีมีมากถึง 3 ล้านคน พวกเราหลังจากตื่นเต้นกับความสวยงามของที่นี่ เดินสวนไปมากับผู้คนไปหลายรอบ ถ่ายรูปกันไปหลายแชะ ก็พากันเข้าไปนั่งในส่วนที่นั่งตรงกลางที่เขาจัดไว้ ในนั้นเขาไม่อนุญาตให้ยืน แต่ให้นั่งและสัมผัสกับความสงบของที่นี่แทน ระหว่างนั้นก็มีการเล่นดนตรีผ่านออร์แกนในโบสถ์พอดี ได้หลบผู้คนเข้ามานั่งในนี้ซักพัก นั่งฟังเสียงเพลงกันซักหน่อยก็เพลินไม่น้อยเลย ใครถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว อยากให้ลองปลีกตัวเข้ามาในนี้กันซักพักดูค่ะ
ก่อนเข้ามาในนี้ทุกคนจะได้หูฟังพร้อมเครื่องเล่นเสียงเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของที่นี่ โดยเราต้องไปตามจุดที่มีหมายเลขกำกับแล้วเปิดฟังเรื่องเล่าของแต่ละจุดกันไป พอเราได้มาปุ๊ป ก็จะเปิดฟังกันปั๊ป แต่มาคิดดูอีกที พวกเราควรซึมซับบรรยากาศ มองดูความสวยงามของที่นี่แบบช้าๆซะก่อน พอสาแก่ใจแล้วค่อยไปกดฟังทีละหมายเลขก็ยังไม่สาย พวกเรามี 1 วันเต็มให้กับที่นี่ เลยไม่รีบไม่ร้อน พยายามดื่มด่ำกับความสวยงามของที่นี่เอาไว้ให้ได้มากที่สุด แล้วค่อยไปเดินเปิดฟัง audio guide อีกทีก็ได้
วิวเมืองบาร์เซโลน่า
จากนั้นพวกเราก็พากันไปต่อแถวขึ้นลิฟต์เพื่อไปชมวิวของเมืองบาร์เซโลน่าบนหอคอยกัน ใครมีกระเป๋าหนักๆที่ใบไม่ได้ใหญ่มากก็สามารถฝากใส่ตู้ด้านหน้าเอาไว้ได้ เราก็เนียนใส่ไว้ เดินเล่นตัวปลิวในโบสถ์กันจนถึงเย็นเลย ไม่ต้องเสียค่าฝาก แค่เหรียญ 1 ยูโรเพื่อใช้เปิดและปิดตู้เท่านั้น พอไปถึงด้านบนจะมีสะพานเล็กๆ เดินไปอีกก็จะเป็นบันไดวนค่อยๆลงมาเรื่อยๆ หอคอยสูงมาก เห็นวิวของเมืองบาร์เซโลน่าได้จนทั่ว หยุดถ่ายรูปตรงระเบียงทีก็ยืนได้แปปเดียว เพราะเสียววู๊บ แต่เดินเล่นไปมาบนหอคอยนี้สนุกดี เพราะทำให้เราได้เห็นซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) ในแทบจะทุกมุมแบบใกล้ชิด มุมที่ไม่สามารถเห็นได้จากด้านล่างที่มีระยะค่อนข้างไกล
พอเดินเล่นไปตามบันไดหอคอยมาเรื่อยๆก็จะกลับลงมาข้างล่างอีกครั้ง สังเกตดีๆก็จะเห็นบันไดวนที่มีลักษณะคล้ายเปลือกของหอยทากอยู่ด้วย
ซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมรดกโลกในปี 2010 ที่นี่ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานมาก เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในประเทศสเปนปีค.ศ. 1936 มีคนบุกเข้าไปในห้องใต้ดินแล้วทำลายแบบร่างต่างๆที่มี ทำให้ต้องรอเหตุการณ์ไม่สงบเหล่านี้สิ้นสุดลงก่อนถึงกลับมาทำงานกันต่อได้ โดยใช้ข้อมูลจากหลักฐานที่พอมีเหลืออยู่ร่วมกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ ทำให้งานสามารถดำเนินต่อไปได้ในที่สุด
หากเดินไปที่ทางด้านข้างรูปปั้นไม้กางเขนของพระเยซูด้านขวาจะเป็นบริเวณที่ให้ขึ้นลิฟต์ไปยังหอคอย ส่วนด้านซ้ายเป็นบริเวณโซนเงียบเสียงเล็กๆที่ให้คนสามารถเข้าไปสวดมนต์ได้
ส่วนใต้ดินของ ซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia)
ก่อนมาที่นี่เราเคยรู้จักซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) ในชื่อว่า ‘โบสถ์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ’ ข่าวดีที่เราได้รู้ตอนที่ได้มาที่นี่ก็คือมีเขาแพลนจะสร้างให้เสร็จภายในปี 2026 ซึ่งจะตรงกับจากการไปของสถาปนิกผู้ออกแบบ ‘เกาดี’ เป็นเวลา 100 ปี พอดิบพอดี พอที่นี่สร้างเสร็จแล้ว ในสเปนคงมีงานเฉลิมฉลองกันใหญ่โต เราเองก็ยังคุยกับแฟนอยู่เลยว่าไว้เราไปที่นี่กันอีกครั้ง ตอนที่ซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) สร้างเสร็จแล้ว
Passion Facade
A magic square: บวกเลขไม่ว่าในแถวหรือคอลัมน์ไหนก็จะได้เท่ากับ 33 ซึ่งในทางศาสนาคริสต์เป็นตัวเลขที่มีความสำคัญ เพราะเป็นอายุของพระเยซูเมื่อตอนถูกตรึงไม้กางเขนจนเสียชีวิต
The last supper อาหารค่ำมื้อสุดท้าย
เป็นที่น่าเศร้าว่า ‘เกาดี’ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถรางชน ทำให้เขาได้มีโอกาสเห็นซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) สร้างสำเร็จไปน้อยกว่า 1 ใน 4 เท่านั้น แม้จะเป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงมาก เขาก็ยังแต่งกายธรรมดาด้วยชุดเก่าๆด้วยซ้ำ แม้ตอนที่เขาถูกรถชน คนยังคิดว่าเป็นคนไร้บ้านถูกรถชนซะอีก จนคนสนิทมาเห็นเข้าถึงรู้ว่าคนนี้คือเกาดี งานศพของเขาถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติและร่างของเขาถูกฝังอยู่ในชั้นใต้ดินของซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) นี่เอง
แบบจำลองลักษณะห้องทำงานของเกาดี ถูกแสดงไว้ในส่วนของพิพิธภัณฑ์
แผนที่รถไฟฟ้าใต้ดินในบาร์เซโลน่า
ข้าวผัดสเปนปาเอญ่า (Paella)
Paella กุ้ง + หอยแมลงภู่ ราคา 9.9 ยูโร (335 บาท)
ตกเย็นพวกเราเริ่มหิว เลยพากันบอกลาซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) แล้วเดินปลีกตัวออกเพื่อหาอะไรกินกัน ออกมาจากโซนนักท่องเที่ยวนิดหน่อยก็มาเจอร้านขายปาเอญ่า (Paella) พอดี ข้าวผัดซีฟู้ดที่มักถูกเสิร์ฟมาในกระทะที่คนยุโรปบอกว่าถ้ามาสเปนแล้วต้องลองกิน! เราว่าอาหารยุโรปที่ถูกปากคนไทยมากที่สุดก็น่าจะเป็นอาหารสเปนเนี่ยแหละ เพราะส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเล พอมาเสิร์ฟปุ๊ป ลองกินเข้าไปคือกลิ่นทะเลนี่มาเลยอ่ะ รสชาติเข้มข้น คนที่ชอบกินเผ็ดอย่างเรายังว่าอร่อยเลย แต่ว่าต้องรีบกินเพราะร้อนๆที่แหละอร่อยสุด
พิกัด/แผนที่ร้าน Cantonada: Bar Cantonada Google Map
เราเห็นธงชาติที่ไม่ใช่ธงชาติของประเทศสเปนถูกติดไว้ตามหน้าที่พักอยู่หลายที่ใกล้กับซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) และมีขายแม้กระทั่งในซุ้มร้านขายของที่ระลึก ธงชาตินี้เป็นของประเทศคาตาโลเนียซึ่งเป็นอาณาเขตของเมืองในสเปนปัจจุบันคือบาร์เซโลนา (Barcelona), ฌิโรนา (Girona), แยย์ดา (Lleida) และ ตาร์ราโกนา (Tarragona) ในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 เกิดสงครามระหว่างประเทศสเปนและประเทศฝรั่งเศส ทำให้ประเทศเล็กๆอย่างคาตาโลเนียถูกฝรั่งเศสยึดครองและสเปนยึดอีกในภายหลัง จนมาในช่วงศตวรรษที่ 19 คาตาโลเนียประสบความสำเร็จอย่างมากในการฟื้นฟูด้านอุตสาหกรรม ทำให้เกิดกระแสชาตินิยมและฟื้นฟูวัฒนธรรมของตนเองขึ้นมาอีกครั้ง
แต่รัฐบาลเผด็จการของฟรันซิสโก ฟรังโก ก็ได้ออกกฎหมายที่ค่อนข้างกดขี่คนคาตาลันอยู่หลายประการ หนึ่งในนั้นคือการถูกล้มล้างสถาบันและการประกาศห้ามใช้ภาษาคาตาลันเป็นภาษาหลักของคาตาโลเนีย จนภายหลังที่สเปนถูกเปลี่ยนมาเป็นระบอบประชาธิปไตย คาตาโลเนียจึงได้รับอิสระทางการเมืองและวัฒนธรรมกลับคืนมาบ้าง เมื่อปี 2017 สภานิติบัญญัติคาตาลันประกาศเป็นเอกราชจากประเทศสเปนเพียงฝ่ายเดียว เนื่องจากเคยเสนอแล้วถูกคัดค้านมาก่อน พวกเขาอยากได้อิสระในการปกครองตัวเอง แต่รัฐบาลสเปนก็ได้ปลดผู้บริหารคาตาโลเนียทั้งคณะออกจากตำแหน่ง และสั่งคุมขังในข้อหากบฏและบางคนก็ต้องลี้ภัยหนีไป ความพยายามในการเป็นอิสระของคนคาตาลันมีมายาวนานหลายร้อยปีแล้วแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เกาดีเองก็เป็นคนคาตาลัน เขาได้เข้าร่วมการประท้วงอยู่หลายครั้งตอนที่ยังมีชีวิตอยู่และถูกตำรวจทำร้ายร่างกายถึง 2 ครั้ง ในบล็อกนี้เราเลยอยากให้เกียรติแก่เกาดีและให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมของเขาที่เป็นส่วนหนึ่งของความสวยงามในงานสถาปัตยกรรมของเขาด้วยการเรียกเขาว่าเป็นชาวคาตาลัน
ตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดินในบาร์เซโลน่า เหมือนกันกับประเทศเยอรมัน คิดราคาตามโซน ตั๋วเดียวนั่งได้ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน รถบัส และรถราง
- วิธีเดินทางไป ซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน (Metro): ลงรถไฟฟ้าใต้ดินสถานี Passeig de Gràcia ทางออก L2 ออกมาปุ็ปก็จะเจอกับ ซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) ปั๊ป ใกล้มาก!
- จองและซื้อตั๋วซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) ล่วงหน้าได้ที่นี่: จองตั๋วซากราดาฟามิเลีย (Sagrada Familia) ออนไลน์
พวกเราจองแบบขึ้นไปชมวิวบนทาวเวอร์ได้ด้วย (SAGRADA FAMÍLIA WITH TOWERS) ราคา 33 ยูโร (1,115 บาท) ต่อคน ได้ audio guide ด้วย แต่จะสามารถเลือกขึ้นทาวเวอร์ได้แค่ทาวเวอร์เดียวระหว่าง Tower on Passion Facade หรือ Nativity Facade เราเลือก Nativity Facade เพราะ Passion Facade เกี่ยวกับการทรมานและการตายของพระเยซู ส่วน Nativity Facade จะเกี่ยวกับการเกิดของพระเยซูซึ่งเป็นส่วนที่ถูกสร้างเสร็จก่อน
*จองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ปริ้นท์เป็นตัวออกมาเตรียมไว้ให้เรียบร้อยเพราะต้องใช้สแกนและเป็นหลักฐานตรงทางเข้าด้วย
- วันเวลาที่เปิดให้บริการของ ซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia): จันทร์ – เสาร์ 9.00 – 18.00 น., อาทิตย์ 10.30 – 18.00 น.
พวกเราบินตรงมาจากโคโลญ (Cologne) ประเทศเยอรมันมาลงที่สนามบินบาร์เซโลนา (Josep Tarradellas Barcelona-El Prat Airport) ประเทศสเปนด้วยสายการบินราคาประหยัด ราคาตั๋วเครื่องบินต่อคนเพียงแค่ 53.55 ยูโร (1,810 บาท) ซึ่งได้ราคาถูกขนาดนี้เพราะไม่ได้โหลดกระเป๋า ด้วยการค้นหาและจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ผ่าน Skyscanner กว่าจะถึงที่สนามบินก็ดึกมากแล้ว เราเลยเดินทางไปที่พักด้วยรถแท็กซี่กัน โดนไป 600 กว่าบาท แต่คนขับแท็กซี่น่ารักมาก ช่วยเหลือเต็มที่ เพราะพอเราถึงที่พักแล้วไม่มีเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อเจ้าของ Airbnb ที่จองไว้ได้ เขาเลยจัดการโทรคุยให้ พอนั่งรออยู่หน้าที่พักก็ยังไม่มีคนมาซักที เราเลยต้องขอความช่วยเหลือจากคนสเปนที่เดินไปมาอยู่แถวนั้นอีก เขาก็ใจดีช่วยโทรคุยให้ แถมแอบดุเจ้าของที่พักที่ปล่อยให้เรามานั่งรอกลางค่ำกลางคืนแบบนี้นานอีกต่างหาก ในที่สุดเจ้าของที่พักก็มาซะที เราเดินทางมาทั้งวัน เหนื่อยกันมาก นึกว่าจะโดนเท ต้องนั่งรออยู่ข้างนอกแบบนี้ทั้งคืนซะแล้ว
เรื่อง: ตรีสุคนธ์ จีระมะกร (ตรี)
ฟรีแลนซ์นักแปลไทย <=> อังกฤษและนักเขียนคอนเทนต์
อ่านรีวิวเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองตอนอื่นๆได้ที่นี่:
- รีวิวเที่ยวอัมสเตอร์ดัมด้วยตัวเอง 2019: เดินเล่นรอบๆอัมสเตอร์ดัมให้ขาลากแล้วแวะกินสเต๊กร้านอร่อยในอัมสเตอร์ดัมที่แนะนำโดยคนดัตช์เอง !
- เที่ยวเบอร์ลิน (Berlin) ตอนที่ 1: แนะนำวิธีซื้อตั๋วรถไฟในเบอร์ลินและพาเดินเล่นในตลาดนัดอินดี้วันเสาร์ (Flohmarkt im Mauerpark)
- รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) ตอนที่ 1: นั่งรถไฟจากเยอรมันไปปรากและแนะนำคาเฟ่ขนมอร่อยในปราก
- เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ประเทศเดนมาร์ก (Denmark) ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีประชากรที่มีความสุขมากที่สุดในโลก
- เช็คราคาตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ (Bangkok) – บาร์เซโลน่า (Barcelona) ได้ที่นี่: http://bit.ly/Bangkok-Barcelona
- เช็คราคาตั๋วเครื่องบินโคโลญ (Cologne) – บาร์เซโลน่า (Barcelona) ได้ที่นี่: http://bit.ly/Cologne-Barcelona (เริ่มต้นที่ประมาณ 500 บาท !)
ปาร์ค กูเอล (Park Guell) สวนเก่าแก่บนเขากลางเมืองบาร์เซโลนา อีกหนึ่งผลงานของเกาดี (Gaudi) - Take Me Away
Posted at 21:28h, 14 March[…] ส่วนสถานที่แรกที่เราไปมาแล้วก็คือซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) […]
คาซา มิลา (Casa Mila) หรือลา เปเดอรา (La Pedrera) อพาร์ทเมนต์สุดหรูที่แต่ก่อนใครๆ ก็บอกว่าเป็นตึกที่หน้าต
Posted at 13:46h, 20 April[…] มีมุมนึงที่สามารถมองเห็นซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) อยู่ไกลๆ […]
คาซา มิลา (Casa Mila) อพาร์ทเมนต์สุดหรูที่แต่ก่อนใครๆ ก็บอกว่าเป็นตึกที่หน้าตาน่าเกลียด! - Take Me Away
Posted at 13:54h, 20 April[…] มีมุมนึงที่สามารถมองเห็นซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) อยู่ไกลๆ […]
คาซา มิลา (Casa Mila) อพาร์ทเม้นท์สุดหรูที่แต่ก่อนใครๆ ก็บอกว่าเป็นตึกที่หน้าตาน่าเกลียด! - Take Me Away
Posted at 17:41h, 20 April[…] มีมุมนึงที่สามารถมองเห็นซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) อยู่ไกลๆ […]
Paco Meralgo ร้านอาหารสุดฮิตในบาร์เซโลนา แบบที่ต้องสั่งไวน์มาถือคุยรอคิวหน้าร้าน - Take Me Away
Posted at 17:34h, 15 May[…] […]
ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) สวยดุจเทพนิยาย จนกลายเป็นต้นแบบของปราสาทดิสนีย์ - Take Me Away
Posted at 12:32h, 23 May[…] พวกเราบินตรงมาจากเมืองบาร์เซโลนา (Barcelona) ประเทศสเปนตอนกลางคืนและมาถึงที่เมืองมิวนิค (Munich) ช่วงเช้าในราคา 45 ยูโร (1,450 บาท) ต่อคน ด้วยการจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ผ่าน Skyscanner เปรียบเทียบราคาในช่วงเวลาที่ต้องการเดินทางและเลือกเที่ยวบินราคาถูก โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นสายการบิน Wizz Air หรือไม่ก็ Ryan Air สำหรับการเดินทางในยุโรป จากนั้นพวกเราก็ซื้อตั๋วรถไฟที่เครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติหน้าสถานี ซึ่งสถานีรถไฟนั้นเชื่อมต่อกับสนามบินมิวนิค (Munich International Airport) โดยตรงเลย สะดวกมากๆ ค่ะ เราเลือกรอบที่ใกล้ที่สุดหลังเครื่องลงในช่วงเช้าทันที เนื่องจากพวกเราพยายามที่จะไปเที่ยวปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) กันภายใน 1 วัน […]
ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) สวยดุจเทพนิยาย ต้นแบบของปราสาทดิสนีย์ - Take Me Away
Posted at 12:33h, 23 May[…] พวกเราบินตรงมาจากเมืองบาร์เซโลนา (Barcelona) ประเทศสเปนตอนกลางคืนและมาถึงที่เมืองมิวนิค (Munich) ช่วงเช้าในราคา 45 ยูโร (1,450 บาท) ต่อคน ด้วยการจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ผ่าน Skyscanner เปรียบเทียบราคาในช่วงเวลาที่ต้องการเดินทางและเลือกเที่ยวบินราคาถูก โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นสายการบิน Wizz Air หรือไม่ก็ Ryan Air สำหรับการเดินทางในยุโรป จากนั้นพวกเราก็ซื้อตั๋วรถไฟที่เครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติหน้าสถานี ซึ่งสถานีรถไฟนั้นเชื่อมต่อกับสนามบินมิวนิค (Munich International Airport) โดยตรงเลย สะดวกมากๆ ค่ะ เราเลือกรอบที่ใกล้ที่สุดหลังเครื่องลงในช่วงเช้าทันที เนื่องจากพวกเราพยายามที่จะไปเที่ยวปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) กันภายใน 1 วัน […]
ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) สวยดุจเทพนิยาย ต้นแบบของปราสาทดิสนีย์ - Take Me Away
Posted at 12:57h, 23 May[…] พวกเราบินตรงมาจากเมืองบาร์เซโลนา (Barcelona) ประเทศสเปนตอนกลางคืนและมาถึงที่เมืองมิวนิค (Munich) ช่วงเช้าในราคา 45 ยูโร (1,450 บาท) ต่อคน ด้วยการจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ผ่าน Skyscanner เปรียบเทียบราคาในช่วงเวลาที่ต้องการเดินทางและเลือกเที่ยวบินราคาถูก โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นสายการบิน Wizz Air หรือไม่ก็ Ryan Air สำหรับการเดินทางในยุโรป จากนั้นพวกเราก็ซื้อตั๋วรถไฟที่เครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติหน้าสถานี ซึ่งสถานีรถไฟนั้นเชื่อมต่อกับสนามบินมิวนิค (Munich International Airport) โดยตรงเลย สะดวกมากๆ ค่ะ เราเลือกรอบที่ใกล้ที่สุดหลังเครื่องลงในช่วงเช้าทันที เนื่องจากพวกเราพยายามที่จะไปเที่ยวปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) ใน 1 วัน […]
เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง ขับรถรอบเกาะภายใน 7 วัน Day 1: จาก Reykjavik ไป Akureyri - Take Me Away
Posted at 16:56h, 21 June[…] รีวิวเที่ยวบาร์เซโลนา (Barcelona) ประเทศสเ… […]