นั่งรถไฟไปหัวหินกันเถอะ แค่พกเงินค่าตั๋วรถไฟมา 44 บาท !

นั่งรถไฟไปหัวหินกันเถอะ แค่พกเงินค่าตั๋วรถไฟมา 44 บาท !

นั่งรถไฟไปหัวหินจากกรุงเทพแล้วติดใจ เราเลยจัดขากลับอีกซักรอบ ตั๋วรถไฟกรุงเทพหัวหิน รถไฟขบวนธรรมดา ราคาแค่ 44 บาทเท่านั้น ! ตั๋วรถไฟไปหัวหินราคาถูกขนาดนี้รออะไรอยู่ มุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟหัวลำโพงแล้วไปซื้อตั๋วกันได้เลย

ตั๋วรถไฟหัวหินกรุงเทพ
ตั๋วรถไฟหัวหินกรุงเทพ ขบวนธรรมดา ราคา 44 บาท
ตารางรถไฟจากกรุงเทพไปหัวหิน
ตารางรถไฟจากกรุงเทพไปหัวหิน รถธรรมดา เลขขบวน 261 เวลา 9.20 – 13.35 น. ราคา 44 บาท

ตารางรถไฟจากหัวหินไปกรุงเทพ

ตารางรถไฟจากหัวหินไปกรุงเทพ รถธรรมดา เลขขบวน 262 เวลา 14.10 – 19.00 น. ราคา 44 บาท

นั่งรถไฟไปหัวหินจากกรุงเทพ รถธรรมดา ราคา 44 บาท จะมีแค่ 1 รอบต่อวันเท่านั้นก็คือ

  • เลขขบวนที่ 261 กรุงเทพ – หัวหิน เวลา 9.20 – 13.35 น.
  • เลขขบวนที่ 262 หัวหิน – กรุงเทพ เวลา 14.10 – 19.00 น.
สถานีรถไฟหัวหิน
บรรยากาศของสถานีรถไฟหัวหิน

ตารางรถไฟจากกรุงเทพไปหัวหิน

ตารางรถไฟจากกรุงเทพไปหัวหิน รถด่วนพิเศษ กรุงเทพขสุราษฎร์ธานี เลขขบวน ภ- เวลา 8.05 – 11.26 น. ราคา 440 บาท

ตอนแรกพวกเราอยากนั่งรถไฟไปหัวหินถึงเช้าหน่อย เลยกะจะซื้อตั๋วรถไฟกรุงเทพหัวหิน เลขขบวน 43 เวลา 8.05 น. แต่พอลองสอบถามราคาดู ราคาตั๋วตั้ง 880 บาท สำหรับ 2 คน ! เดี๋ยววว พี่นี่รีบเปลี่ยนขบวนไม่ทันเลย มาดูดีๆอีกที ราคาตั๋วแพงเพราะจริงๆแล้วปลายทางของขบวนนี้คือสุราษฎร์ธานีและเป็นรถด่วนพิเศษนั่นเองค่ะ แต่ตั๋วรถไฟกรุงเทพหัวหินราคา 44 บาทเป็นแบบชั้นที่ 3 ซึ่งมีราคาเดียวและไม่มีเลขที่นั่งกำหนด เพราะฉะนั้นหลังจากได้ตั๋วราคาถูกมาครอบครองแล้ว ก็ควรรีบไปรอที่ชานชาลาก่อนเวลารถออก เราจะได้รีบวิ่งขึ้นรถไฟไปจองที่ริมหน้าต่างดูวิวได้ทัน 🙂

สามารถดูข้อมูลตารางรถไฟเพิ่มเติมได้ที่นี่: เช็คตารางรถไฟ เว็บการรถไฟแห่งประเทศไทย

นั่งรถไฟไปหัวหิน

นั่งรถไฟไปหัวหิน

วิวระหว่างนั่งรถไฟจากหัวหินกลับกรุงเทพ

รถไฟออกตามเวลาที่กำหนดเป๊ะ ไม่เลทเลย เพราะฉะนั้นควรไปให้ถึงก่อนเวลากันนะ

รถไฟ กรุงเทพหัวหิน ขบวนธรรมดา

รถไฟกรุงเทพหัวหิน ขบวนธรรมดา
ภาพของรถไฟขบวนธรรมดา ชั้น 3 กรุงเทพหัวหิน

ระหว่างที่นั่งรถไฟชมวิวไปเพลินๆก็จะมีแม่ค้าพ่อค้าคอยขึ้นมาขายของกินเรื่อยๆตลอดทางเลย เพราะฉะนั้นเพื่อนๆไม่ต้องกลัวเลยว่าจะหิวแล้วไม่มีอะไรกิน ของกินบนรถไฟอร่อยมาก แถมราคาถูกอีกเช่นกัน ท้องว่างๆมานี่จัดเต็มเลย โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาบนรถไฟ ราคาแค่ 10 บาทนี่คือฟินนน เราชอบมาก แนะนำว่าให้ลองซื้อกินกันดูค่ะ

ของกินบนรถไฟ กรุงเทพหัวหิน

ของกินบนรถไฟ กรุงเทพหัวหิน

ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาบนรถไฟ ราคา 10 บาท

สถานีรถไฟหัวหินได้เปิดการเดินรถไฟครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2454 ต้นทางจากสถานีบางกอกน้อย สถานีรถไฟหัวหินถือได้ว่าเป็นสถานีรถไฟที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยเลยนะคะ ได้รับรางวัล “อาคารอนุรักษ์ดีเด่น” จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีอีกด้วย เรือนไม้แห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบวิคทอเรีย ถูกจัดทำขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2468 เพื่อไว้ใช้ในงานสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ที่สวนลุมพินี แต่รัชกาลที่ 7 ได้มีการยกเลิกการจัดงานในภายหลัง ทำให้ตัวเรือนไม้นี้ได้ถูกยกมาไว้ที่นี่และทำเป็นสถานีรถไฟแทน ส่วนป้ายไม้สถานีหัวหินที่นักท่องเที่ยวชอบไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วยนั้นเป็นฝีมือของช่างรับเหมาชาวจีน

สถานีรถไฟหัวหิน

บรรยากาศของสถานีรถไฟหัวหิน

ป้ายสถานีรถไฟหัวหิน

ป้ายสถานีรถไฟหัวหิน

ระหว่างทางนั้น รถไฟเคลื่อนผ่านสถานีแล้วสถานีเล่า มีวัยรุ่นมากันเป็นกลุ่มๆไปเที่ยวทะเลชะอำบ้าง หัวหินบ้าง มีครอบครัวพาลูกๆไปเที่ยวทะเลกัน มีนักศึกษาที่ใช้รถไฟเป็นพาหนะเดินทางไปกลับมหาวิทยาลัยและบ้าน และยังเห็นผู้คนอื่นๆใช้บริการรถไฟสายนี้ในชีวิตประจำวันเยอะมาก มากกว่าที่เราคิดไว้ แต่บนรถก็ไม่ได้แน่นจนเกินไปจนไม่มีที่นั่งแบบต้องยืนกันให้เมื่อย

รถไฟ กรุงเทพหัวหิน ขบวนธรรมดา

ระหว่างที่พวกเรากำลังรอรถไฟกลับกรุงเทพกันอยู่ ก็มีผู้หญิงแอฟริกาคนนึงจากเคปทาวน์ (Cape town) ประเทศแอฟริกาใต้อยากจะลองนั่งรถไฟกลับกรุงเทพดู แม้ว่าเธอจะซื้อตั๋วรถบัสเอาไว้แล้วก็ตาม เธอตัดสินใจทิ้งตั๋วรถบัสนั้นทิ้งเพื่อประสบการณ์นั่งรถไฟในไทยแทน เราชวนเธอลองกินอาหารที่มีคนคอยขึ้นมาขายบนรถไฟดู พวกเราก็กินกันแบบอิ่มหนำสำราญแบบสุดๆ กินกันจนอิ่มแปล้ เธอชอบก๋วยเตี๋ยวปลากับขนมปังกระเทียมมาก แต่พอได้ลองกินของขึ้นชื่อของจังหวัดเพชรบุรีอย่างขนมหม้อแกงกลับไม่ชอบ คำเดียวจอดเลย บอกว่าคนไทยนี่กินหวานจัง เรื่องจริง พวกเราติดกินหวาน กินเค็มกันจริงจัง แน่นอนว่าอาหารไทยที่เค้าชอบคือผัดไทย เค้าบอกว่าได้ลองกินที่ตลาดโต้รุ่งในหัวหินอร่อยมาก ราคาก็แค่ 60 บาทเอง พวกเรานั่งคุยกันตลอดทาง แลกเปลี่ยนเรื่องราวกันตลอดการเดินทาง 5 ชั่วโมงบนรถไฟ เธอบอกว่าคิดถูกแล้วที่นั่งรถไฟเพราะ 5 ชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก ! เราเองก็รู้สึกอย่างนั้น

วิวที่เห็นจากการนั่งรถไฟในศรีลังกา

เธอเป็นคุณแม่ลูก 2 ที่ทำงานเกี่ยวกับการจัดซื้อในธนาคารแห่งหนึ่งในเมืองเคปทาวน์ จะลางานไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวเพื่อพักผ่อนและมีเวลาส่วนตัวเป็นของตัวเองปีละครั้ง พวกเราเล่าเรื่องทริปนั่งรถไฟในอินเดียของเราให้เธอฟังจนเธอบอกว่าอยากไปอินเดียบ้าง (อ่านเรื่องราวการเดินทางในอินเดียของเราได้ที่นี่ นั่งรถไฟในอินเดีย ตอนที่ 1 : เมืองชัยปุระ เมืองสีชมพู) พวกเรายังคุยกันถึงความใจดีของคนศรีลังกาและธรรมชาติที่สวยงามของที่นั่น จากการที่ต่างคนต่างก็ประทับใจจากการได้ไปเที่ยวศรีลังกากันมา (อ่านเรื่องราวการเดินในศรีลังกาของเราได้ที่นี่ 9 วันในศรีลังกา ตอนที่ 1 : ก่อนออกเดินทาง) ใครที่ชอบนั่งรถไฟแบบเรา จะต้องชอบมากแน่นอน

เธอเล่าว่าเธออยากจะออกเดินทางท่องเที่ยวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้ เพราะถ้าอายุเยอะกว่านี้ก็ไม่รู้ว่าจะสนุกไหมแล้ว ส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอตระหนักถึงเรื่องนี้มากขึ้น เพราะมีอยู่วันหนึ่งเธอตื่นขึ้นมากลับรู้สึกว่าลุกขึ้นไม่ไหว พอไปหาหมอ หมอบอกว่าเส้นประสาทที่ไขสันหลังของเธอถูกทำลาย เธอต้องเข้ารับการผ่าตัด และต้องหัดเดินก้าวแรกใหม่อีกครั้ง การผ่าตัดครั้งนั้นเจ็บมากและต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการฟื้นตัวจนเป็นปกติได้จนถึงทุกวันนี้

วัดในโคลอมโบ เมืองหลวงของศรีลังกา

เธอชอบประเทศไทยมากเพราะคนที่นี่ใจดี คอยช่วยเหลือ และอาหารอร่อยๆก็เยอะแยะแถมราคาถูกอีก ที่เคปทาวน์ไม่มีสตรีทฟู้ดเลยและอาหารในร้านอาหารก็ราคาค่อนข้างแพง เธอยังบอกเราอีกว่าเธอรู้สึกว่าประเทศไทยปลอดภัย ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสกลับมาอีกครั้งจะพาลูกๆและสามีมาด้วย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในการเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยของเธอ เธอไปเกาะสมุยมาก่อนหน้ามาที่หัวหิน เธอเล่าว่าตอนนั่งเรือไปดำน้ำนี่ฝนตกหนักและเธอก็กลัวมาก แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีและการได้ดำน้ำที่นั่นก็ทำให้เธอประทับใจ พวกเราคุยกันเรื่องการท่องเที่ยวว่าไม่จำเป็นต้องแพง บางครั้งเธอกินข้าวที่โรงแรมหรูๆที่บางทีแค่ค่าน้ำเปล่าก็แพงมากถึง 150 บาท ในขณะที่ข้างนอกถูกกว่ามาก เธอเลยพยายามกินสตรีทฟู้ดให้มากขึ้น เพราะทั้งถูกและอร่อย

เธอยังเล่าต่ออีกว่าค่าเรือที่จอดหน้าโรงแรมที่พาเธอไปเกาะต่างๆและดำน้ำ รวมแล้วราคา 3,000 กว่าบาท (แพงเกิ๊น) แล้วยังต้องจ่ายค่าที่จอดเรือเพิ่มอีก 100 บาท ในขณะที่เธอมาพบทีหลังว่าถ้าเดินไปเองอีกหน่อยก็มีเรือพาไปดำน้ำเหมือนกันแต่ราคาแค่ 2,000 ซึ่งถูกกว่า ค่าแท็กซี่จากสนามบินไปโรงแรมแพงมาก 600 กว่าบาท ขากลับเธอเลยนั่งจากโรงแรมเข้าเมือง 200 กว่าบาทแล้วลองนั่งรถบัสต่อด้วยตัวเองดู เธอบอกว่าอย่างน้อยคนไทยก็ไม่ได้ก้าวร้าวมากเหมือนที่อื่น อย่างที่เราไปเจอมาที่อินเดียหรือที่เธอไปเจอมาที่ตุรกี เราเล่าเรื่อง (ปนบ่น) การถูกโกงในฐานะนักท่องเที่ยวกัน อย่างที่อินเดีย เวลาเราใช้บริการขนส่งสาธารณะอย่าง แชร์ตุ๊กๆหรือสามล้อ ถ้าตกลงกันไว้ที่ราคานึง พอเค้าไปส่งเราถึงที่แล้วจะขอ 10-20 รูปีเพิ่มทีหลังตลอด ซึ่งเราก็ให้บ้างในตอนแรกๆ อยากให้มันจบๆไป แต่หลังๆก็ต้องเริ่มสู้ บอกไว้ว่าเราตกลงกันราคากันไปแล้วนี่ แล้วเดินหนีไม่อยู่เถียงด้วยต่อ หรือเธอโดนหลอกให้ไปตามร้านค้าเพื่อซื้อของต่างๆในตุรกีทั้งๆที่เธอไม่อยากไป

เธอบอกว่าถ้าเรามีโอกาสได้ไปเที่ยวแอฟริกาใต้ซักครั้ง เราต้องไปลองเที่ยวซาฟารีเพื่อดูสัตว์ในธรรมชาติที่แอฟริกาใต้ให้ได้ ช้างแอฟริกาตัวใหญ่มากกว่าช้างที่ไทยมาก และธรรมชาติที่นั่นก็สวยงามเอามากๆด้วย ส่วนเราก็เล่าเรื่องเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับกรุงเทพให้เธอฟัง เช่น ที่นี่รถติดเป็นอันดับต้นๆของโลกเลยนะ เวลาเดินทางพยายามนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินบนดินเอาจะดีกว่า เธอดูตกใจมากเพราะไม่รู้ข้อมูลนี้มาก่อน ปกติเธอชอบใช้บริการแท็กซี่หรือ Uber ตลอด และเราแนะนำตลาดนัดจตุจักรเพราะเธออยากจะซื้อผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำมันมะพร้าวเป็นของฝากกลับไป เธอบอกว่าชอบในความคิดสร้างสรรค์ ชื่นชมคนไทยมากในการคิดค้นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีประโยชน์แบบนี้ขึ้นมา เรายังแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเช่น วัดอรุณ วัดโพธิ์ ซึ่งสามารถเดินทางได้ด้วยเรือที่มีสถานีใกล้กับ BTS สะพานตากสิน และอาหารที่ต้องกินให้ได้เลยก็คือ “ต้มยำกุ้ง”

และแล้วรถไฟก็มาถึงสถานีรถไฟหัวลำโพง.. พวกเราเลยพาเธอแวะถนนเยาวราชที่อยู่ใกล้กันซะเลย เราพาเค้าไปกินต้มยำกุ้งกับปูผัดผงกะหรี่ที่ร้านโปรดของเราในเยาวราช เพราะก่อนหน้านี้บอกเธอว่าต้องลองกินต้มยำกุ้งให้ได้นะ เธอชอบอาหารมื้อนี้เอามากๆ และขอบคุณเราที่พาเธอมาที่นี่หลายครั้ง ส่วนตัวเราเองก็สนุกที่ได้พาเธอมากินอาหารอร่อยๆ และโชว์ Chinatown Bangkok ให้เธอได้เห็น เราตัดสินใจไม่ผิดเลยจริงๆที่เลือกเดินทางด้วยรถไฟในการไปเที่ยวหัวหินในครั้งนี้ ราคาตั๋วไม่แพง ชมวิวไปแบบเพลินๆ กินของกินอร่อยๆ ได้พูดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับชาวต่างชาติ แถมได้เพื่อนใหม่เพิ่มด้วย เราเลยอยากชวนทุกคนพกเงินค่าตั๋วมา 44 บาทแล้วนั่งรถไฟไปหัวหินกันเถอะ !

เราเป็นคนชอบเที่ยวมาก เพื่อนๆหลายๆคนก็น่าจะรักในการท่องเที่ยวเดินทางเหมือนกัน บล็อกนี้เราตั้งใจทำขึ้นมาก็เพื่อบอกเล่าเรื่องราวระหว่างการเดินทางและหวังให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านด้วย พร้อมเป็นเหมือนไดอารี่มีบรรจุความทรงจำดีๆสนุกๆที่ได้จากการเดินทางเก็บไว้ บล็อกนี้เราทำมาได้ประมาณ 1 ปีแล้ว และตอนนี้ก็กำลังตั้งใจทำอีกเว็บไซต์ที่มีชื่อว่า Helloholidays.xyz “เพื่อนรู้ใจนักเดินทาง” คอยค้นหาดีลตั๋วเครื่องบินและที่พักที่คุ้มที่สุดเพื่อทุกคนที่มีใจรักในการเดินทางเหมือนกันกับเรา หากใครกำลังค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกทั้งไทยและต่างประเทศอยู่ล่ะก็ ตามไปอ่านกันที่เว็บนี้ได้เลย เราเขียนบล็อกเพื่อรวบรวมทั้งข้อมูลท่องเที่ยวต่างๆไว้ให้อีกด้วยค่ะ

อ่านบล็อกอื่นๆเกี่ยวกับเที่ยวหัวหินได้ที่นี่: Velo Cafe หัวหิน คาเฟ่หัวหินที่คั่วกาแฟเอง รสชาติเข้มสะใจ!

เรื่อง: ตรีสุคนธ์ จีระมะกร

ฟรีแลนซ์นักแปลอังกฤษ <=> ไทยและนักเขียนคอนเทนต์

7 Comments