เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ประเทศเดนมาร์ก (Denmark) ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีประชากรที่มีความสุขมากที่สุดในโลก

27 Jan เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ประเทศเดนมาร์ก (Denmark) ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีประชากรที่มีความสุขมากที่สุดในโลก

เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ในครั้งนี้เกิดจากการที่เราอยากไปคริสเทเนีย (Christiania) ชุมชนอิสระที่ตั้งอยู่ในเมืองนี้ เลยเป็นเหมือนผลพลอยได้จากความตั้งใจแรกนี้ซะมากกว่า แต่จากการที่ได้มาโคเปนเฮเกนในครั้งนี้ก็ทำให้เราหายสงสัยเลยว่า.. ทำไมประเทศเดนมาร์กถึงได้ขึ้นชื่อว่ามีประชากรที่มีความสุขมากที่สุดในโลก

สถานีกลางโคเปนเฮเกน (Copenhagen Central Station)

เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen): รีวิวบินภายในยุโรปกับสายบินประหยัดอย่าง Ryanair และ Wizzair

ตั๋วเครื่องบินบินภายในยุโรปราคาถูกมากอย่างไม่น่าเชื่อ! เพราะมีสายการบินราคาประหยัดคอยให้บริการอย่าง Ryanair และ Wizzair พวกเราเช็คราคาและจองตั๋วเครื่องบินผ่าน Skyscanner บินจากปราก (Prage) มาลงที่โคเปนเฮเกน (Copenhagen) กับ Wizzair ในราคาคนละประมาณ 1,100 บาทเท่านั้น! ที่ได้ราคานี้มาก็เพราะว่าไม่ได้ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม ซึ่งจะถือขึ้นเครื่องได้แค่ใบเดียว น้ำหนักต้องไม่เกิน 10 กิโลกรัม และต้องมีขนาดไม่เกิน 40 x 30 x 20 เซนติเมตร พนักงานของสายการบินจะคอยยืนมองกระเป๋าผู้โดยสารตอนกำลังตรวจตั๋วขึ้นเครื่องกันเลย เวลาเช็คอินเราเลยต้องลุ้นตัวโก่งเลยว่าจะรอดไหมกระเป๋าของคนไหนดูใบใหญ่ๆก็จะโดนเรียก ให้ลองเอากระเป๋ายัดใส่ในตะแกรงขนาดกว้างคูณยาวคูณสูงที่สายการบินตั้งไว้ตรงทางเข้าดู ซึ่งก็ไม่ค่อยจะรอดกัน ต้องรูดบัตรจ่ายตังค์ค่ากระเป๋าเพิ่มกันตรงนั้นเลย! เราโดนครั้งนึงตอนที่บินจากฮังการีไปจอร์เจีย 800 กว่าบาท จากการบินทั้งหมด 8 ครั้งในทริปยุโรปครั้งแรกครั้งนี้ซึ่งถือว่าโชคดีมาก อีก 7 ครั้งรอด! ครั้งหน้าเลยสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะพกของให้น้อยกว่านี้และเดินทางโดยรถไฟให้มากขึ้นถ้าเป็นไปได้

ทางจักรยานในโคเปนเฮเกน (Copenhagen)

ที่จอดรถจักรยานในโคเปนเฮเกน (Copenhagen)

หลังจากที่เครื่องลงมาถึงท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน (Copenhagen Airport) ปุ๊ป พวกเราก็นั่งรถไฟมาลงกันที่สถานีกลางโคเปนเฮเกน (Copenhagen Central Station) กันเลย ขณะที่พวกเรากำลังรอรถบัสตรงป้ายรถบัสหน้าสถานีเพื่อไปยังที่พัก ภาพแรกที่เห็นเลยก็คือภาพของคนเดนมาร์ก โดยเฉพาะผู้หญิง แต่งกายแบบดูดีมีราคากำลังขี่จักรยานที่ดูหรูหรา (คันสีดำทั้งคัน เงาแว๊บ) ไปมาบนท้องถนนเยอะมาก เท่ว่ะ! (เราคิดในใจ) เท่ที่พวกเขาใช้จักรยานเป็นพาหนะกันเยอะมาก ไม่แพ้คนเนเธอร์แลนด์เลย ขี่จักรยานก็เท่ได้! ขึ้นรถบัสปุ๊ป ดูแผนที่ในมือถือ เอ้า ผิดฝั่ง ลงค่ะ เดินแบกกระเป๋าหนักๆเพื่อเดินไปขึ้นรถบัสอีกฝั่ง

เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen): แนะนำที่พักราคาถูกในโคเปนเฮเกน (Copenhagen)

YMCA Interpoint Hostel Copenhagen

เดนมาร์กเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพค่อนข้างสูง พวกเราเลยแพลนมาเที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen) กันแค่ 3 วัน 2 คืนเท่านั้น โดยพักกันที่ YMCA Interpoint Hostel Copenhagen หนึ่งในโฮสเทลราคาถูกของโคเปนเฮเกน ซึ่งก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเพราะโฮสเทลค่อนข้างสะอาดและตั้งอยู่ใจกลางเมือง สามารถเดินไปไหนมาไหนได้สะดวก แถมในห้องครัวยังมี Free food corner ให้บริการ ซึ่งเป็นมุมที่ให้นักเดินทางที่มาเที่ยวที่โฮสเทล สามารถนำอาหารที่เหลือแต่ยังไม่หมดอายุมาใส่ไว้เพื่อเผื่อแผ่ให้คนอื่นต่อได้ เราเลยประหยัดค่าอาหารในโคเปนเฮเกนไปได้อีกเยอะเลย! (นี่แหละเลเวลความงกของเรา ฮ่าๆ)

Pasta ที่หอบมาจากปรากเพื่อประทังชีวิตในเดนมาร์ก ฮ่าๆ (เลเวลความงกต้องขนาดนี้เพราะเรายังต้องไปต่ออีกหลายประเทศ)

แผนที่/พิกัด YMCA Interpoint Hostel Copenhagen: YMCA Interpoint Hostel Google Map

บรรยากาศรอบๆที่พัก YMCA Interpoint Hostel Copenhagen

ชอบที่ที่นี่มีสวนสาธารณะและสนามเด็กเล่นเยอะมาก ทั้งในคริสเทเนีย ในตัวเมืองโคเปนเฮเกน หรือแม้แต่หน้าบ้านของพวกเขาเอง

ที่เดนมาร์กมีเซเว่นด้วย!

เซเว่นที่นี่ใช้แก้วกระดาษแถมเป็นธงสีรุ้งสนับสนุนอิสรภาพของ LGBT ช็อกโกแลตร้อนในอากาศที่แอบหนาวของที่นี่ แก้วเดียวก็คือฟินมากแล้ว

เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen): แนะนำจุดชมวิวฟรีในโคเปนเฮเกน (Copenhagen)

เพื่อนชาวดัตช์ที่พวกเราไปเยี่ยมหาตอนไปเที่ยวเนเธอร์แลนด์เคยมาเรียนปริญญาโทด้านธุรกิจที่นี่ เขาเลยแนะนำพวกเราว่าสามารถมาชมวิวของเมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen) กันที่ตึกของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้แบบฟรีๆเลย พวกเราเดินตั้งไกลจากโฮสเทลมาถึงที่นี่ครั้งแรกก็อดเข้าไปเพราะเป็นวันอาทิตย์ซึ่งอาคารปิด แต่ก็ไม่ท้อพากันไปใหม่อีกครั้งในวันจันทร์ ก็เลยได้เห็นบรรยากาศของมหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วยเหล่านักศึกษามากมาย นักศึกษาที่นี่แต่งกายในชุดธรรมดา กำลังใช้คอมพิวเตอร์ทำงานบ้าง นั่งอ่านหนังสือบ้าง คุยเม้าท์กับเพื่อนบ้าง ส่วนเราก็พากันขึ้นลิฟท์แบบเนียนๆเพื่อไปชมวิวด้านบน

พอไปถึงก็เห็นว่ามีอีกหลายคนที่ขึ้นมาชมวิวที่บริเวณนี้เช่นกัน ทั้งเพื่อนและครอบครัว มีเก้าอี้ตั้งไว้ให้เรานั่งดูเมืองได้เรื่อยๆแบบไม่ต้องกลัวเมื่อย วิวของเมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ที่เราเห็นนั้นเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก มีบ่อน้ำสะอาดขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางและแทบจะไม่มีรถติดให้เห็น จากบนนี้จะเห็นโซนที่อยู่อาศัยที่เป็นบ้านหลังเล็กๆเรียงติดกัน มีต้นไม้เล็กใหญ่แซมให้เห็นเป็นระยะๆไม่ขาดสาย เห็นโรงงานขนาดใหญ่อยู่ที่หนึ่งที่เห็นตั้งแต่ตอนเดินเล่นอยู่ในคริสเทเนีย และคนตัวเล็กๆที่กำลังเดินไปมา ขี่จักรยาน และกำลังใช้ชีวิตอยู่มากมายในเมืองนี้ ใครอยากดูความเป็นไปของเมืองผ่านการชมวิวแบบนี้ ก็สามารถมากันได้ที่ชั้น 15 ของ Københavns Universitet Panum เลยนะคะ

แผนที่/พิกัดจุดชมวิวโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ฟรีที่ Københavns Universitet Panum: Københavns Universitet Panum

วันเวลาที่เปิดให้บริการของ Københavns Universitet Panum: วันจันทร์ถึงศุกร์เวลา 10.00 – 17.00 น.

 

จากนั้นพวกเราก็เดินเล่นลัดเลาะไปตามบ่อน้ำกลางเมือง เพื่อไปยังโซนที่อยู่อาศัยของคนโคเปนเฮเกนกันต่อ จะสังเกตได้ว่าถังขยะที่อยู่ตามที่สาธารณะต่างๆในโคเปนเฮเกนนั้น จะมีส่วนที่ยื่นออกมาด้านหน้า ไว้สำหรับให้คนวางพวกขวดน้ำหรือกระป๋องเครื่องดื่มหลังจากที่ดื่มเสร็จแล้วได้โดยเฉพาะ เพื่อเอื้อให้กับเหล่าคนไร้บ้านได้เก็บไปแลกเป็นเงินเล็กๆน้อยๆได้ง่ายขึ้น เป็นความใส่ใจเล็กๆน้อยๆของคนโคเปนเฮเกนที่มีต่อคนไร้บ้านที่นี่ ตอนที่พวกเรากำลังนั่งเล่นอยู่ในคริสเทเนียก็มีเหล่าคนไร้บ้านกำลังเดินเก็บขวดตามถังขยะอยู่เรื่อยๆ หลังจากที่เราดื่มน้ำเสร็จแล้วก็เลยยื่นขวดเปล่าให้เขาไป ต่อให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก ก็ยังมีเหล่าคนไร้บ้านให้เห็น อีกครั้งนึงก็เห็นคนไร้บ้านนั่งหลับอยู่ที่ป้ายรอรถบัสด้วย แต่อย่างน้อยเราก็ไม่เห็นขอทานที่นี่เลยซักคน

พวกเราเห็นขอทานเยอะมากในปรากโดยเฉพาะโซนนักท่องเที่ยว ทุกคนจะนั่งโน้มตัวลงและก้มหน้า ในมือถือถาดขอเงินพร้อมกับสุนัขข้างกายที่ก็นอนหมอบอยู่เหมือนกัน ทำแบบนี้อยู่นานสองนาน แทบจะไม่ต่างจากกรุงเทพบ้านเราเลยที่มีขอทานเยอะมาก ขณะที่เดินเล่นอยู่ในปรากเพลินๆพอมาเห็นภาพแบบนี้ก็ทำให้แอบหดหู่ไม่ได้ ในเบอร์ลินเองถึงจะไม่มีที่วางขวดด้านหน้าถังขยะแบบนี้ พวกเขาก็จะวางไว้ข้างๆถังขยะแทน เพื่อให้คนที่มาเก็บขวดไปคืนที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในเยอรมันได้ง่ายขึ้นเพื่อแลกกับเงินประทังชีวิต เราก็เลยจะใช้วิธีนี้เวลาที่เราอยู่ในกรุงเทพแทนบ้างเหมือนกัน แต่พอมาที่นี่เราก็เลยวางขวดเครื่องดื่มที่ดื่มเสร็จแล้ว ไว้ที่ด้านหน้าของถังขยะสาธารณะในโคเปนเฮเกนบ้าง เรื่องง่ายๆที่สามารถทำได้เพื่อคนอื่น

เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen): ส่องโซนที่อยู่อาศัยของคนโคเปนเฮเกน (Copenhagen)

ถึงแล้ว.. โซนที่พักอาศัยของคนโคเปนเฮเกน อาคาร 2 ชั้นเรียงติดกันเป็นแถวยาวอยู่หลายแถว เป็นบ้านน่ารักๆหลากหลายสีสัน แต่ละหลังจะประดับไปด้วยดอกไม้และต้นไม้มากมาย บางหลังก็จะมีระเบียงบ้านยื่นออกมาด้านบนเล็กๆ ที่น่ารักก็คือมีบ้านหลังเล็กที่เป็นเหมือนของเล่นของเด็กๆตั้งอยู่หน้าบ้านบริเวณทางเดินด้วย เราสุ่มเดินเข้าไปบริเวณนี้หนึ่งแถวเพียงเพื่ออยากเห็นว่าบ้านของคนเดนมาร์กเขาเป็นอย่างไร และแฟนเราเคยเดินผ่านแถวนี้แล้วอยากพาเราเดินมาดูตึกสวยๆเหล่านี้ดูบ้าง พอได้มาเห็นก็บอกได้คำเดียวว่าชีวิตดีจริงๆ บ้านน่าอยู่มาก ไม่อยากจะคิดถึงราคาของบ้านแต่ละหลังเลย ไม่นานมานี้เราไปเจอบทความที่เขียนถึงรายได้ของคนเดนมาร์ก รายได้เฉลี่ยของคนเดนมาร์กอยู่ที่ประมาณชั่วโมงละ  43.5 ยูโร (1,465 บาท) ย้ำว่าต่อชั่วโมง! เลยไม่ต้องสงสัยว่าทำไมค่าครองชีพของที่นี่ถึงแพง ก็รายได้ต่อชั่วโมงเขายังสูงถึงขนาดนี้

เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen): เดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ที่สวนกลางเมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen)

อีกอย่างหนึ่งของที่นี่ที่เราชอบก็คือสวนกลางเมืองโคเปนเฮเกนที่ใหญ่มาก สวนแห่งนี้มีชื่อว่า Ørsteds Park พวกเราเดินเล่นกันมาเรื่อยๆแล้วก็มานั่งพักกันที่สวนแห่งนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกเขาจะมีสวนที่มีขนาดใหญ่มากถึงขนาดนี้ตั้งอยู่กลางเมือง อยากให้บ้านเรามีสวนที่เขียวขจีแบบนี้อยู่ในเมืองเยอะๆบ้าง เพราะมันทำให้เมืองน่าอยู่มาก บรรยากาศก็ร่มรื่น จะแวะมานั่งเล่นเพื่อสูดบรรยากาศบริสุทธิ์เท่าไหร่ก็ได้ ถ้าได้มาอ่านหนังสือเล่นที่นี่บ่อยๆก็คงจะฟินน่าดู นอกจากคนโคเปนเฮเกนจะมีบ้านที่น่าอยู่แล้ว พวกเขายังมีสวนที่น่ามาเดินเล่นและวิ่งออกกำลังกายอยู่ใกล้บ้านอีกด้วย ซึ่งที่นี่ก็ไม่ใช่แค่เพียงสวนเดียวที่มีอยู่ในโคเปนเฮเกน ยังมีสวนสวยๆอีกมากกว่า 10 แห่งทั่วเมือง ถ้าผู้อ่านพอจะมีเวลาก็อยากจะแนะนำให้เจียดเวลามานั่งเล่นชิวๆในสวนที่นี่กันดูค่ะ

พิกัด/แผนที่ Ørsteds Park: Ørsteds Park Google Map

คำว่า ‘No Planet B’ ถูกเพ้นท์อยู่บนเก้าอี้ในสวนที่เรานั่ง เตือนใจพวกเราว่าเรามีโลกใบนี้แค่ใบเดียวเท่านั้นที่ต้องช่วยกันรักษาไว้ให้ดี

เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen): แนะนำคาเฟ่ในโคเปนเฮเกน (Copenhagen) เครื่องดื่มอร่อยและราคาถูก

เมนูร้าน Zaggis Cafe Copenhagen ทุกอย่าง 15 Kr (50 บาท)

ช็อกโกแลตร้อน + วิปครีม แก้วละ 15 Kr (50 บาท)

บราวนี่ชิ้นละ 15 Kr (50 บาท)

ช่วงที่เราไปเที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen) เป็นช่วงต้นเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงปลายๆของหน้าร้อนแล้ว อากาศก็เลยค่อนข้างเย็นแล้วก็มีฝนตกปรอยๆอยู่บ่อยๆ แค่ได้ดื่มเครื่องดื่มร้อนๆแบบนี้ก็จะทำให้แฮปปี้ขึ้นมาได้ พอเดินผ่านร้านโดยบังเอิญแล้วเจอป้ายโฆษณากาแฟราคา 15 Kr ของร้าน Zaggis Cafe เท้าที่กำลังก้าวๆอยู่ก็หยุดเดินขึ้นมาเฉย เหมือนมีมนต์สะกดให้เดินเข้าไปในร้าน เพราะราคาเครื่องดื่มถือว่าถูกมาก พอเข้าไปในร้านก็เห็นเครื่องดื่มและขนมทุกอย่างราคา 15 Kr เท่ากันหมด พวกเราก็เลยซื้อเครื่องดื่มและขนมของร้านนี้แล้วนั่งกินเล่นที่ที่นั่งหน้าร้าน มองความเป็นไปของโคเปนเฮเกนกันอยู่ซักพัก ใครอยากดื่มเครื่องดื่มราคาถูกและอร่อยก็จดชื่อร้านนี้ไว้ในบันทึกกันได้เลยค่ะ

พิกัด/แผนที่ Zaggis Cage Copenhagen: Zaggis Cafe Copenhagen Google Map

เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen): แนะนำอาหารพื้นเมืองของคนเดนมาร์ก Smørrebrød

พอเรารู้ว่าจะมาเที่ยวกันที่เดนมาร์ก พวกเราก็ซื้ออาหารตุนกันมาตั้งแต่ปรากแล้ว เพราะอาหารในร้านอาหารที่โคเปนเฮเกนต้องแพงมากแน่ๆ แต่มีอยู่วันนึงที่พวกเราบังเอิญเดินผ่านร้าน local เล็กๆที่ขายอาหารพื้นเมืองของคนเดนมาร์กและแถบสแกนดิเนเวียนนั่นก็คือ Smørrebrød เป็นแซนด์วิชแบบเปิดหน้าที่มีหลายหน้ามากให้เลือก และราคาก็ไม่แพงแค่ชิ้นละ 14 Kr (45 บาท) เท่านั้น พวกเราก็เลยนั่งกินเล่นกันที่นี่ซักพักก่อนไปเดินเล่นกันในเมืองต่อ ขนมปังที่ใช้ทำ Smørrebrød คือขนมปังข้าวไรย์แผ่นๆบางๆ มีสีน้ำตาลเข้ม และมีส่วนผสมของธัญพืชอยู่ด้วย ตกแต่งหน้าด้วยเนื้อและอื่นๆอย่างพวกผักหรือไข่ ใครอยากลองกินอาหารพื้นเมืองของคนเดนมาร์กที่ราคาไม่แพงก็ลองมาแวะที่ร้านนี้กันได้ค่ะ

พิกัด/แผนที่ร้าน Ritas Smørrebrød: Ritas Smørrebrød Google Map

สวนสนุกทิโวลี่ (Tivoli Gardens) สวนสนุกกลางเมืองโคเปนเฮเกน

ตอนที่เรากำลังนั่งรถบัสอยู่ในโคเปนเฮเกน รถก็ขับผ่านสวนสนุกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่กลางเมือง เห็นเครื่องเล่นกำลังเล่นไปและคนเดินไปมาบริเวณของสวนสนุกเยอะมาก ท่าจะเป็นกิจกรรม “ฮิต” สำหรับคนที่นี่มาก สวนสนุกแห่งนี้มีชื่อว่า สวนสนุกทิโวลี่ (Tivoli Gardens) ซึ่งพอมาหาข้อมูลดูแล้วก็ไม่ธรรมดาเพราะเป็นสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลกเชียวล่ะ เราไม่ใช่แฟนของสวนสนุกเท่าไหร่เลยไม่อิน ยิ่งเห็นราคาค่าเข้าที่แปะอยู่ตรงทางเข้ายิ่งไม่อินใหญ่เลย ฮ่าๆ แต่ถ้าใครสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่นี่

วันเวลาที่เปิดให้บริการ สวนสนุกทิโวลี่ (Tivoli Gardens):

• 31 มกราคม – 7 กุมภาพันธ์ และ 17 กุมภาพันธ์ – 23 กุมภาพันธ์: วันอาทิตย์ – พฤหัส 11.00 – 21.00 น. และ ศุกร์ – เสาร์ 11.00 – 23.00 น.
• 8 – 16 กุมภาพันธ์: วันอาทิตย์ – พฤหัส 11.00 – 22.00 น. และ ศุกร์ – เสาร์ 11.00 – 23.00 น.
• 2 เมษายน – 20 กันยายน, 9 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน และ 14 พฤศจิกายน – 3 มกราคม: ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ วันเวลาที่เปิดให้บริการของสวนสนุกทิโวลี่ (Tivoli Gardens)

ราคาตั๋วค่าเข้า สวนสนุกทิโวลี่ (Tivoli Gardens): 405 Kr (1,800 บาท) ค่าเข้า + รวมเล่นเครื่องเล่นทุกอย่างใน 1 วัน

เว็บไซต์จองตั๋วเข้า สวนสนุกทิโวลี่ (Tivoli Gardens): จองตั๋วค่าเข้า (Tivoli Gardens) ออนไลน์

งานอีเว้นท์ในโคเปนเฮเกน แจกต้นไม้ให้เอากลับไปดูแลต่อที่บ้านได้ฟรี! อยากได้บ้างแต่เอากลับไปด้วยไม่ได้

เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen): ทัวร์ฟรีในโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก (Copenhagen Free walking tour)

ศาลาว่าการเมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen City Hall)

หลังจากที่ได้ลองไป free walking tour ครั้งแรกที่ปรากแล้วก็ติดใจ พวกเราเลยมา free walking tour กันที่โคเปนเฮเกนด้วย จุดนัดพบของการเริ่มต้นทัวร์อยู่ที่ศาลาว่าการเมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen City Hall) พอไปถึงไกด์ก็บอกให้ไปเดินเล่นหรือแวะเข้าห้องน้ำใน city hall กันก่อนเพราะยังไม่ถึงเวลา ตอนกำลังเดินเล่นอยู่ในศาลาว่าการเมืองอยู่ดีๆก็โชคดีบังเอิญเจอเข้ากับพี่ก้อง ทรงกลด บางยี่ขัน เจ้าของ the Cloud กำลังอ่านเรื่องราวของห้องแสดงกลไกของนาฬิกาอยู่อย่างตั้งใจ ในขณะที่เรามองไปทั่วห้องอย่างงงๆว่ามันคืออะไรอยู่

จุดนับพบของ Free walking tour Copenhagen ไกด์จะถือร่มสีเขียวสีสดใสยืนรออยู่

ด้วยความเป็นแฟนคลับตัวยงของ the Cloud เราก็เลยรวบรวมความกล้าเข้าไปทักพี่เขาประมาณว่า “สวัสดีค่ะ เป็นแฟนคลับของ the Could นะคะ มาเที่ยวเหรอคะ?” พี่เขาก็พยักหน้ายิ้มตอบรับอย่างสุภาพ จากนั้นเราก็รวบรวมความกล้าอีกขั้น ชวนพี่เขาไปเดินทัวร์ด้วยกันซะเลย บอกว่าเป็นทัวร์ฟรี ให้ทิปตามที่พอใจตอนท้ายทัวร์ กำลังจะเริ่มเร็วๆนี้ที่ด้านหน้า city hall พี่เขาก็ถามกลับประมาณว่า “รอบๆเมืองเหรอครับ?” เราบอกว่า “ใช่ค่ะ รวมแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง”  พี่เขาเลยส่ายหน้า เราเลยบอกลาด้วยความเสียดายว่าพี่เขาไม่ได้มาด้วย แต่อย่างไรก็ตาม หากใครสนใจ free walking tour ในลักษณะนี้ในโคเปนเฮเกน (Copenhagen) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Copenhagen free walking tour ที่เราไปร่วมทัวร์ด้วยมาได้ที่นี้เลยค่ะ copenhagenfreewalkingtours.dk

ภายในของศาลาว่าการเมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen city hall) มีภาพถ่ายของการแสดงพื้นบ้านในหลายประเทศถูกจัดแสดงอยู่ ทางเข้าด้านขวามีห้องจัดแสดง Jens Olsen’s World Clock ที่เราบังเอิญเห็นพี่ก้อง ทรงกลด กำลังอ่านข้อมูลอยู่นั่นเอง จริงๆแล้วศาลาว่าการเมืองแห่งนี้เป็นศาลาว่าการเมืองแห่งใหม่ของโคเปนเฮเกน สร้างเสร็จในปี 1905 ซึ่งเป็นอาคารหลังที่สาม City hall เก่าของโคเปนเฮเกนปัจจุบันถูกเปลี่ยนไปเป็น Copenhagen Court House เนื่องจากศาลาว่าการเมืองแรกพังเสียหายจากการถูกไฟเผาในเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ของเมืองโคเปนเฮเกนในปี 1728 ที่ยาวนานถึง 3 วันเต็ม ทำให้เมืองเสียหายไปมากถึง 30% โดยเป็นที่อยู่อาศัยของคนโคเปนเฮเกนมากถึง 20%

Jens Olsen’s World Clock

ใกล้ๆกันเป็นศาลาว่าการเก่าของเมืองโคเปนเฮเกน (Old Copenhagen City Hall)

ภายหลังมาสืบค้นหาต้นตอของต้นเพลิงมาจากร้านอาหารแห่งหนึ่งย่าน Vestervold ที่พ่อกับแม่อ้างว่าเป็นเพราะลูกชายอายุ 7 ปีของพวกเขาดันซุ่มซ่ามทำเทียนหล่นพื้น! อีกเหตุผลที่ทำให้ไฟลามไปจนทั่วเนื่องจากเกิดลมแรงมากพัดไฟให้ไหม้ได้ง่าย แถมซอยแถวย่าน Vestervold ก็แคบมากทำให้การทำงานของรถดับเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบาก ยังไม่พอ ต่อมาในปี 1975 ก็เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้รุนแรงขึ้นอีกครั้งจากฐานทัพของเก่าของกองทัพเรือเก่าที่เต็มไปด้วยถ่านและไม้ เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้ไฟลามไปไกลถึง St. Nicholas Church ที่สร้างความเสียหายต่อโบสถ์อย่างหนักไม่แพ้กัน จากได้รู้เรื่องราวของเหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้เราหายสงสัยเลยว่าทำไมบรรยากาศของเมืองโคเปนเฮเกนถึงไม่มีตึกเก่าโดยรอบเหมือนในปราก เมืองในเยอรมันหรือเนเธอร์แลนด์กับเขาบ้าง

ไกด์พาเรามาหยุดอยู่ที่อาคารที่มีหอคอยประหลาดแห่งนี้และให้ทายว่าที่นี่เคยเป็นอะไรมาก่อน เราเดาว่าเป็นสวนสนุก แต่จริงๆแล้วที่นี่เคยเป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศเดนมาร์ก (Copenhagen Stock Exchange) มาก่อนจนถึงปี 1974

พระราชวังคริสเตียนสบอร์ก (Christiansborg Palace)

พระราชวังคริสเตียนสบอร์ก (Christiansborg Palace) ตั้งแต่ปี 1849 จนถึงปัจจุบันปัจจุบันเป็นรัฐสภา ที่ทำงานของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลของเดนมาร์ก รวมทั้งศาลสูงสุดของประเทศเดนมาร์กด้วย แต่ก็ยังมีบางส่วนของที่นี่ยังถูกใช้โดยราชวงศ์ของเดนมาร์กอยู่โดยเฉพาะห้องรับรองแขก ซึ่งสไตล์ของพระราชวังหลากหลายมากทั้งนีโอ บารอค นีโอ คลาสสิค และบารอค เนื่องจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในปีถึง 2 ครั้งทำให้ต้องมีการบูรณะใหม่นั่นเอง

ไม่ไกลกันจากพระราชวังคริสเตียนสบอร์ก (Christiansborg Palace) เป็นที่ตั้งของ Thorvaldsens Museum พิพิธภัณฑ์งานศิลปะของศิลปินชาวเดนมาร์กที่ไปทำงานด้านศิลปะอยู่ที่โรม อิตาลี

 

เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen): ย่าน Christianshavn

เห็นวิวแบบนี้แล้วนึกถึงตอนไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัมเลย

อพาร์ทเมนต์ราคาแพงในโคเปนเฮเกน

เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen): แลนมาร์กสุดฮิตของประเทศเดนมาร์ก “ท่าเรือนูฮาวน์ (Nyhavn)”

ท่าเรือนูฮาวน์ (Nyhavn) ผู้อ่านคุ้นๆที่นี่กันบ้างไหมคะ? เป็นสถานที่ที่ถูกใช้เป็นภาพบนโปสเตอร์อยู่เป็นประจำ ในการโปรโมทการท่องเที่ยวในประเทศเดนมาร์กและเมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ท่าเรือแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 แล้วค่ะ ปัจจุบันเต็มไปด้วยเหล่าร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์มากมายที่ราคาแพงหูฉี่! แม้แต่ไกด์ที่พาเราทัวร์เองก็ยังบอกเลยว่าอย่ามากินอาหารที่นี่เพราะเป็น Tourist Trap กับดักนักท่องเที่ยวซะมากกว่า แต่เราก็ยังชอบบรรยากาศรอบๆของที่นี่

เสน่ห์ของบริเวณนี้ก็คือตึกเก่าที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 และต้นศตวรรษที่ 18 ที่มีให้เห็นอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง และเรือไม้เก่าที่ยังจอดให้เห็นอยู่บริเวณท่าเรือด้วย พระเจ้าคริสเตียนที่ 5 แห่งเดนมาร์กเป็นคนสั่งให้สร้างที่นี่ขึ้นมา โดยใช้กำลังของนักโทษจากสงครามระหว่างประเทศเดนมาร์กและสวีเดนในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 เพื่อให้เรือขนสินค้าและเรือจับปลาสามารถเข้าถึงเมืองเก่าได้ง่ายขึ้น รวมทั้งใกล้กับวังเก่ามากขึ้นอีกด้วย เสียดายที่ตอนเราไปถึงฝนดันตกแล้วก็มีเวลานิดเดียวเพราะไปกับทัวร์ แต่ไม่นานหลังจากทัวร์จบแล้ว พวกเราก็พากันกลับมาถ่ายรูปและนั่งเล่นที่นี่กัน

มีหลายคนที่กำลังนั่งเล่นตรงขอบฝั่งร้านอาหารเหมือนกันกับเรา คุยกันสลับกับนั่งมองดูเรือนักท่องเที่ยวลำใหญ่ที่คอยสลับกันแล่นเข้าออกอยู่เรื่อยๆ ในวันนี้ที่กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองโคเปนเฮเกนที่ดูหรูหราราคาแพงแบบนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าสมัยก่อนเคยเป็นจุดพักเรือที่มีบาร์ขายเบียร์และหญิงค้าบริการอยู่ด้วย แต่ทุกวันนี้ท่าเรือนูฮาวน์ (Nyhavn) กลายมาเป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศดีน่ามาเที่ยวแบบนี้ได้เนื่องจากการฟื้นฟูพื้นที่ในปี 1977 นั่นเอง

ถ่ายรูปคู่ซะหน่อยว่ามาถึงโคเปนเฮเกนแล้วน้า

ร้านอาหารขายอาหารแพงก็ไม่เป็นไร เพราะใกล้กันบริเวณด้านหน้าก็มีซุ้มอาหารและเครื่องดื่มให้บริการอยู่เช่นกัน

ขนมปังไส้กรอก 30 DKK (135 บาท) ได้มาอันแค่นี้แต่อร่อยดี มีหอมเจียวโรยด้านบนด้วย และก็ถูกกว่าร้านอาหารหรูข้างๆเป็น 10 เท่า!

แต่ว่าร้านนี้รับแค่เงินสดอย่างเดียวเท่านั้น

Equestrian statue

พระราชวังอมาเลียนบอร์ก (Amalienborg Palace)

ทัวร์ของวันมาจบที่พระราชวังอมาเลียนบอร์ก (Amalienborg Palace) เป็นที่สุดท้ายซึ่งเป็นวังที่ราชวงศ์เดนมาร์กอาศัยอยู่ในปัจจุบันเนื่องจากพระราชวังคริสเตียนสบอร์ก (Christiansborg Palace) เกิดไฟไหม้ในปี 1974 นั่นเอง ประกอบไปด้วย 4 อาคาร ตรงกลางเป็นที่อยู่ของรูปปั้น Equestrian statue ของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 5 ในมาดของนักรบ

ด้านหลังคือพระราชวังของเจ้าหญิงเดนมาร์ก ขอถ่ายรูปคู่ไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย

โรงละครโอเปราโคเปนเฮเกน (Copenhagen Opera House) ที่ไกด์เล่าติดตลกว่าเป็นตึกที่ไม่สวยเอาซะเลย เหมือนหมวกซะมากกว่า

โบสถ์เฟรดเดอริค (Frederik’s Church)

ตรงกันข้ามกับโรงละครโอเปราโคเปนเฮเกน (Copenhagen Opera House) จะเป็นโบสถ์หลังใหญ่และสวยงามตั้งอยู่ซึ่งมีชื่อว่า “โบสถ์เฟรดเดอริค (Frederik’s Church)” สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1749 ในสมัยพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 5 ที่นี่เป็นโบสถ์ที่มีโดมใหญ่ที่สุดในแถบสแกนดิเนเวียซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากมหาวิหารนักบุญเปโตร (Basilica of Saint Peter) ในเมืองโรม ประเทศอิตาลี กว่าโบสถ์หลังนี้จะเสร็จให้เราได้เห็นกันในวันนี้ใช้เวลานานกว่า 150 ปีเพราะในระหว่างนั้นได้สูญเสียผู้ดูแลไปในช่วงสงครามและงบประมาณก็ถูกตัดด้วย ในปี 1874 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเดนมาร์กได้ขายโบสถ์ที่ยังสร้างไม่เสร็จนี้ให้กับ Tietgen โดยให้เขาเป็นคนดูแลการก่อสร้างให้เหมือนกับแผนเดิมให้ได้มากที่สุด และบริจาคให้เป็นของประเทศเมื่อสร้างเสร็จแลกกับการที่ Tietgen จะได้สิทธิ์ในการแบ่งพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้กรณีนี้เป็นที่ถกเถียงมากมายจนเกิดเป็นคดีความขึ้นมา โบสถ์นี้ตามแผนเก่าจะต้องถูกสร้างจากหินอ่อนทั้งหมดซึ่งมีราคาแพงมาก เลยถูกเปลี่ยนมาใช้หินปูนบางส่วนแทน

พิกัด/แผนที่โบสถ์เฟรดเดอริค (Frederik’s Church): Frederik’s Church Google Map

ช่วงที่เราอยู่ในเดนมาร์กเป็นช่วงที่ทรัมป์เคยมีแผนจะมาเยี่ยมราชวงศ์ของเดนมาร์กอยู่พอดี แต่ดันผิดนัดไม่มาซะงั้นเพราะขอซื้อกรีนแลนด์จากเดนมาร์กแล้วเค้าไม่ให้ ที่ถนนใจกลางเมืองโคเปนเฮเกนก็เลยมีคนออกมาเดินขบวนแล้วก็มีเจ้าลูกโป่งล้อเลียนแบบนี้ลอยให้เห็น ถนนโดนบล็อกทำให้รถเมล์ไม่สามารถผ่านได้ พวกเราเลยต้องเดินกลับโรงแรมกัน โชคดีที่ว่าไม่ได้ไกลมาก ก็เลยพากันเดินไปเรื่อยๆจนถึง ยอมรับว่าเดินหนักมากที่เดนมาร์ก เดินจนขาลากเลย แต่ก็คุ้มเพราะได้เห็นอะไรหลายๆอย่างในเมืองนี้

เห็นร้านอาหารไทยในโคเปนเฮเกนอยู่หลายร้านเหมือนกัน

บรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen)

สำหรับเรา แม้โคเปนเฮเกนจะเป็นเมืองที่ไม่ได้มีที่ท่องเที่ยวมากมายนัก ก็ถือเป็นข้อดีอีกแบบที่ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไม่เยอะมาก การมาเที่ยวที่นี่เลยชิวไปอีกแบบ เหมือนมาดูมากกว่าว่าเมืองที่เขาว่าพัฒนาแล้วมันเป็นยังไง เมืองนี้แสดงให้เราเห็นถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของคนที่นี่อย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่เมืองที่ออกแบบมาให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สนับสนุนให้คนขี่จักรยาน ทำให้มีทางจักรยานทั่วเมืองและเห็นคนใช้จักรยานกันเยอะมากที่นี่ บ้านสไตล์เดนมาร์กที่น่าอยู่ของพวกเขา โซนที่อยู่อาศัยที่แยกจากโซนอื่นๆของเมืองทำให้ลดเสียงรบกวน สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีหลายแห่งด้วยกันในเมืองเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนที่นี่ แทบไม่มีคอนโดตึกสูงให้ได้เห็น

สตรีทอาร์ตบนท้องถนนของโคเปนเฮเกน Have a good day!

ที่เราเห็นว่าเมืองของเขาเป็นระเบียบเรียบร้อยน่าอยู่แบบนี้ในปัจจุบัน พวกเขาก็ต้องผ่านอะไรกันมามาก ในอดีตอาคารทางประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่อย่างศาลาว่าการของเมือง โบสถ์ หรือแม้แต่พระราชวังเองก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในเมืองโคเปนเฮเกนถึง 2 ครั้ง ทำให้แต่ละสถานที่ถูกบูรณะครั้งแล้วครั้งเล่าจนไกด์พูดเล่นติดตลกว่าถ้าอาคารหลังไหนมีชื่อเป็นที่ 2 ที่ 3 หรือ “ใหม่” ก็เพราะว่าหลังก่อนๆถูกเผาไปเสียหมด พวกเราไปทัวร์ฟรีถึง 2 ครั้งที่นี่ ได้เรียนรู้เรื่องราวของที่นี่และหัวเราะไปกับมุกตลกของไกด์ แถมเดินดูนู่นดูนี่กันจนขาลาก เป็น 3 วันที่ผ่านไปอย่างคุ้มค่าจริงๆ ถ้าตัดเรื่องค่าครองชีพไป โคเปนเฮเกนถือเป็นเมืองที่น่าอยู่มาก

เรื่อง: ตรีสุคนธ์ จีระมะกร (ตรี)

ฟรีแลนซ์นักแปลอังกฤษ <=> ไทยและนักเขียนคอนเทนต์

อ่านรีวิวเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองตอนอื่นๆได้ที่นี่:

• รีวิวเที่ยวอัมสเตอร์ดัมด้วยตัวเอง 2019: เดินเล่นรอบๆอัมสเตอร์ดัมให้ขาลากแล้วแวะกินสเต๊กร้านอร่อยในอัมสเตอร์ดัมที่แนะนำโดยคนดัตช์เอง !
• เที่ยวเบอร์ลิน (Berlin) ตอนที่ 1: แนะนำวิธีซื้อตั๋วรถไฟในเบอร์ลินและพาเดินเล่นในตลาดนัดอินดี้วันเสาร์ (Flohmarkt im Mauerpark)
• รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) ตอนที่ 1: นั่งรถไฟจากเยอรมันไปปรากและแนะนำคาเฟ่ขนมอร่อยในปราก

อ่านเกี่ยวกับเที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ตอนก่อนหน้าได้ที่นี่:

• คริสเทเนีย (Christiania) ชุมชนอิสระ ณ ใจกลางกรุงโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ประเทศเดนมาร์ก

อ่านเกี่ยวกับเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองตอนต่อไปได้ที่นี่: เที่ยวเมืองโคโลญ (Cologne) ประเทศเยอรมัน (Germany) ใน 1 วัน: มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral)

---

เช็คราคาตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ (Bangkok) -โคเปนเฮเกน (Copenhagen) ได้ที่นี่: http://bit.ly/Bangkok-Copenhagen

เช็คราคาตั๋วเครื่องบินปราก (Prague) -โคเปนเฮเกน (Copenhagen) ได้ที่นี่: http://bit.ly/Prague-Copenhagen

แนะนำวิธีค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกและคุ้มที่สุดสำหรับการเดินทางทั้งในไทยและต่างประเทศ เอาใจแบ็คแพ็คเกอร์สายประหยัดเหมือนกัน

• Share
• Tweet
• Send Line