เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง ขับรถรอบเกาะภายใน 7 วัน Day 1: จาก Reykjavik ไป Akureyri

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง ขับรถรอบเกาะภายใน 7 วัน Day 1: จาก Reykjavik ไป Akureyri

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเองเป็นทริปที่เรารอคอยมานาน หลังจากที่เที่ยวยุโรปมาเกือบ 2 เดือนตั้งแต่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เยอรมัน สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก โปแลนด์ สเปน ออสเตรีย และฮังการี ซึ่งทุกที่ล้วนเป็นเมืองทั้งนั้นเลย เราก็เลยอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวท่ามกลางธรรมชาติบ้าง ทำให้นึกถึงประเทศไอซ์แลนด์ขึ้นมา ลองเสิร์ชดูก็พบว่าไอซ์แลนด์เข้าร่วม EFTA (European Free Trade Area) และอยู่ภายใต้วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) ด้วย

Grabok

เราเลยแบ่งเวลาหนึ่งอาทิตย์ไว้สำหรับ Road trip ในไอซ์แลนด์โดยเฉพาะ พวกเราค้นหาข้อมูลสำหรับการเดินทางในประเทศไอซ์แลนด์ล่วงหน้า ทั้งเรื่องเช่ารถ จองที่พักในแต่ละคืน และวางแผนเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากจะไปในแต่ละวัน เพราะอยากขับรถรอบเกาะภายใน 7 วัน การเดินทางจะได้เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นทริปประหยัด เนื่องจากค่าครองชีพในไอซ์แลนด์ค่อนข้างแพง แต่เราบอกได้เลยว่า ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่ควรค่าแก่การมาให้ได้ซักครั้งในชีวิต เพราะธรรมชาติของที่นี่สวยงามจนเกินบรรยาย…

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง: จองตั๋วเครื่องบินไปไอซ์แลนด์ราคาถูก ออนไลน์ และซื้อซิมการ์ดไอซ์แลนด์ที่สนามบิน

พวกเราเลือกที่จะบินมาที่เมืองเรคยาวิก (Reykjavik) เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์จากเมืองบูดาเปสต์ (ฺBudapest) ประเทศฮังการี เพราะลองเสิร์ชตั๋วเครื่องบินไปไอซ์แลนด์ผ่าน เว็บไซต์ Skyscanner แล้วไปเจอเที่ยวบินของ Wizz Air ที่ราคาเพียงแค่เที่ยวละประมาณ 2-3 พันกว่าบาทเท่านั้น เราแพ็คของทุกอย่างใส่กระเป๋าแบ็คแพ็คใบเดียว พร้อมถือเสื้อกันหนาวกับโน๊ตบุ๊คเต็มมือ เพราะไม่อยากเสียค่าโหลดกระเป๋าใต้ท้องเครื่องกันเพิ่ม ฮ่าๆ

ซิมการ์ดไอซ์แลนด์

พอเดินทางมาถึงที่สนามบินเรคยาวิก (Reykjavik Airport) กันเรียบร้อย พวกเราก็แวะซื้อซิมการ์ดไอซ์แลนด์จากร้านสะดวกซื้อในสนามบิน 1 อัน ราคา 21.2 ยูโร (735 บาท) แชร์อินเทอร์เน็ตใช้กันสองคน เอาไว้ดูแผนที่ Google Map กับเปิดเพลงฟังให้ได้ฟีล Road trip บนรถเป็นส่วนใหญ่ ซึ่ง 5 GB คือเหลือเฟือมากสำหรับ 7 วันในไอซ์แลนด์

ซิมการ์ดไอซ์แลนด์

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง: เช่ารถขับเที่ยวในไอซ์แลนด์ล่วงหน้า

เสร็จแล้วก็มาจัดการเรื่องรับรถที่เช่าไว้ล่วงหน้าจากเคาน์เตอร์ร้านบริการเช่ารถของ Hertz ที่อยู่ตรงข้ามกับร้านสะดวกซื้อในสนามบินใกล้กับทางออก ตอนแรกพวกเราคิดจะเช่ารถที่มีเต็นท์นอนบนหลังคา หรือรถที่สามารถนอนข้างในได้เพื่อประหยัดค่าที่พักที่ค่อนข้างแพง แต่พวกเราไปเที่ยวในไอซ์แลนด์ช่วงเดือนกันยายนวันที่ 19-26 ซึ่งเป็นช่วงหลัง high season ที่เหล่าสถานที่ตั้งแคมป์ต่างๆ ส่วนใหญ่จะปิดให้บริการ และที่ไอซ์แลนด์เค้าไม่อนุญาตให้จอดรถแคมป์ปิ้งที่ไหนก็ได้ตามใจชอบ ต้องจอดในสถานที่สำหรับตั้งแคมป์เท่านั้น (แถมต้องเสียค่าที่เพิ่มอีก) เราเลยเปลี่ยนมาเช่ารถขนาดเล็กที่ราคาถูกกว่าแล้วก็พักในโรงแรมแทน

เช่ารถขับเที่ยวในไอซ์แลนด์

เที่ยวไอซ์แลนด์เดือนกันยายน เป็นช่วงที่กำลังเปลี่ยนจากหน้าร้อนไปเป็นหน้าหนาว เราเลยไม่ต้องห่วงเรื่องถนนลื่นจากหิมะ รถเล็กขับได้สบายแถมยังประหยัดค่าเช่ารถไปได้อีกเยอะเลย ไม่งั้นก็ต้องเช่าอุปกรณ์เพิ่มอีกอย่างถุงนอนหรือชุดอุปกรณ์สำหรับทำอาหาร แต่ถ้าพักในโรงแรม เค้าก็มีครัวให้ พนักงานให้กุญแจรถมาแล้วพวกเราก็ต้องเดินออกมาหารถที่จอดอยู่ข้างนอกเอง แต่รถเราหาง่ายมากเพราะคันสีแดงเด่นมาแต่ไกล

ออกมาปุ๊ป ไอซ์แลนด์ก็ต้อนรับเราด้วยฝนที่ตกปรอยๆ ซึ่งเป็นอากาศปกติของที่นี่ในช่วงนี้ เพราะหลังจากนี้ฝนก็ตกปรอยๆ แบบนี้แทบทุกวันใน 1 อาทิตย์ที่เราอยู่ที่นั่น เราว่าเป็นตัวเลือกที่ถูกแล้วที่เราพักในโรงแรม เพราะได้มีโอกาสคุยกับคนเยอรมันคนนึงที่พักโรงแรมเดียวกันกับเรา เค้าเช่ารถแบบมีเต็นท์นอนบนหลังคามาแต่ก็ต้องมาหาโรงแรมพักเพราะบางคืนลมแรงแล้วก็ฝนตกหนัก สรุปก็นอนกันไม่ค่อยหลับเพราะอากาศข้างนอกหนาวมาก

แต่เราก็อดอิจฉาพวกเค้าไม่ได้เลยจริงๆ เพราะพวกเค้ามาเที่ยวในไอซ์แลนด์กันหลายอาทิตย์แล้ว นอนในเต็นท์สำหรับพวกเค้าก็จะช่วยประหยัดได้มากกว่า ส่วนพวกเรามีกันแค่ 7 วันเท่านั้นเอง ตั้งใจว่าจะต้องใช้แต่ละวันให้คุ้มค่าที่สุด 🙂

เว็บไซต์สำหรับเช่ารถขับในไอซ์แลนด์ ราคาถูก แนะนำของบริษัท Hertz: www.hertz.is

หมายเหตุ: ราคาเช่ารถขนาดเล็กในไอซ์แลนด์สำหรับ 7 วันที่ถูกที่สุดคือ ISK 53400 (11,850 บาท) *ยังไม่รวมค่าประกัน จะตกอยู่ที่วันละประมาณ 1,690 บาท

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง: สายประหยัด แนะนำให้แวะซื้อของกินที่ซูเปอร์มาร์เก็ตตุนไว้

ซุปเปอร์มาร์เก็ต ไอซ์แลนด์ Bonus

ก่อนหน้านี้เราอ่านบล็อกของต่างชาติคนนึงที่เขียนเกี่ยวกับเที่ยวในไอซ์แลนด์แบบประหยัดมา เค้าแนะนำให้ซื้อของจากซูเปอร์มาร์เก็ตที่ชื่อว่า Bonus เพราะราคาถูก พวกเรานั่งรถออกมาจากสนามบินได้แป๊ปเดียวก็เจอร้าน Bonus ที่ว่าพอดี เลยแวะซื้อของกันก่อน

ร้านนี้มีสาขาอยู่ทั่วไอซ์แลนด์ในเมืองใหญ่ๆ เราซื้อพวกคอนเฟลกกับนมไว้กินตอนเช้า ขนมปัง ชีส แฮมไว้ทำแซนด์วิชกินตอนกลางวัน แล้วก็พาสต้าผัดกับซอสไว้กินตอนเย็น บางมื้อก็เป็นบะหมี่สำเร็จรูป! พวกเราตุนโปรตีนบาร์หลายแท่งไว้กินเล่นแก้หิวด้วย กินวนแบบนี้ไป 7 วัน และนี่คือเลเวลความงกของพวกเราล่ะ >.<

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง Day 1: Reykjavik -> Akureyri

หลังจากที่ตุนเสบียงกันเรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมลุย พวกเราออกเดินทางจากเมืองเรคยาวิก (Reykjavik) กันตั้งแต่วันแรกเพื่อไปที่เมืองอาคูเรย์รี่ (Akureyri) เพราะไม่ตื่นเต้นกับความเป็นเมืองเท่าไหร่แล้ว พอออกจากโซนเมืองหลวงมาก็จะเป็นพื้นที่ของธรรมชาติล้วนๆ ระหว่างทางจะสังเกตเห็นภูมิประเทศของไอซ์แลนด์ที่แปลกในแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ข้างทางจะเต็มไปด้วยก้อนหินจากภูเขาไฟและมอสสีเขียวที่เกิดจากความชื้นปกคลุมอยู่เต็มไปหมด บางครั้งก็มีพันธุ์ไม้สีแดงหรือเหลืองขึ้นแซมอยู่ด้วยช่วยเพิ่มสีสัน

มีภูเขาขนาดใหญ่หลายลูกตั้งตระหง่านให้เห็นอยู่ตลอดทาง แล้วก็แทบจะไม่มีบ้านเรือนของผู้คนให้เห็นเลยจนกว่าจะขับไปถึงจุดหมายที่เป็นอีกเมืองนึง ถนนที่เรากำลังขับรถไปตามเส้นทางอยู่นี้ เป็นถนนสายหลักที่ทอดยาวไปตามทางชื่อว่า Golden circle นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะขับรถไปตามถนนสายนี้ แวะเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ระหว่างทาง จนวนครบรอบกลับไปที่เมืองเรคยาวิก (Reykjavik) อีกครั้ง ที่เที่ยวระหว่างทางก็ล้วนแต่เป็นสถานที่ทางธรรมชาติทั้งนั้น แต่ละที่ไม่ต้องเสียเงินค่าเข้าชมซักกะโครนาเดียว มันดีตรงนี้แหละ!

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

ที่เที่ยวในไอซ์แลนด์ที่แรกที่เราแวะคือภูเขาไฟดับแล้วที่มีชื่อว่า Grabok เราขับตามแผนที่ใน Google Map แต่พอไปถึงกลับมีป้ายไม้ปักไว้เขียนว่าคุณมาผิดทางแล้ว ต้องขับกลับไปที่ถนนสายหลักแล้วตรงไปอีกซัก 3 นาที พวกเราทำตามที่เค้าว่าก็มาถึงจุดหมายสำหรับวันแรกจนได้

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

หลายคนคงขับผิดไปที่นี่กันบ่อยมากจนเค้าต้องมาเขียนป้ายบอกไว้ ฮ่าๆ ฝนยังคงตกปรอยๆ พวกเราเดินออกไปเพื่อดูภูเขาไฟที่ดับแล้วแห่งแรกนี้ด้วยความตื่นเต้น ยิ่งขึ้นไปบนปล่องภูเขา ลมยิ่งพัดแรง พวกเราเดินเล่นรอบๆ ชื่นชมที่นี่กันนานมาก หารู้ไม่ว่าอีก 6 วันหลังจากนี้มีธรรมชาติสวยๆ รอเราอยู่ตลอดทางอีกเยอะมาก นี่เป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น!

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

Grabok crater คือชื่อของปล่องภูเขาไฟที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 3,400 ปีที่แล้ว! ซึ่งมีทั้งหมด 3 ปล่องด้วยกัน ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของประเทศไอซ์แลนด์ การระเบิดของภูเขาไฟครั้งนั้นทำให้เกิดทะเลสาบใกล้เคียงที่ชื่อว่า Hreðavatn โดย Grabok และทุ่งลาวาโดยรอบถูกอนุรักษ์ธรรมชาติไว้ตั้งแต่ปี 1962

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

ที่นี่จะมีบันไดไม้ถูกสร้างไว้เป็นทางเดินระหว่างทางสลับกับบริเวณของปล่องภูเขาไฟเพื่อให้เดินได้สะดวก แล้วก็มีการกั้นเชือกเอาไว้ไม่ให้คนเข้าไปเหยียบย่ำบริเวณของทุ่งลาวาโดยไม่จำเป็น ปล่อยให้มอสและพืชพรรณทางธรรมชาติได้เติบโตเต็มที่อย่างที่มันควรจะเป็น สร้างความงามให้แก่ผู้คนที่พบเห็น

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

ปกติเวลานั่งบนรถเราหลับได้ง่ายมาก แต่พอมาที่นี่เราพยายามไม่หลับเลย หนึ่งเพราะต้องคอยดูแผนที่ สองคือวิวของที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวยๆ ตลอดทาง ทำให้เราไม่อยากพลาดวิวสวยๆ ไปเลยซักนาที อากาศก็สดชื่นมาก ถ้าฝนไม่ตกเราจะเปิดกระจกสูดอากาศบริสุทธิ์จากข้างนอก

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

ประเทศไอซ์แลนด์มีประชากรทั้งหมดประมาณสามแสนห้ามหมื่นกว่าคนเท่านั้น ในขณะที่กรุงเทพเมืองเดียวมีคนอาศัยอยู่มากถึงแปดล้านสองแสนกว่าคน ทำให้ระหว่างทางเราเห็นบ้านอยู่เพียงไม่กี่หลังเท่านั้น โดยจะตั้งอยู่ห่างๆ กัน บางหลังก็ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนภูเขา วิวในวันแรกส่วนใหญ่จะเป็นทะเลสาบ ภูเขา หินภูเขาไฟ พร้อมกับแกะ วัว และม้ากำลังกินหญ้าอยู่ให้เห็นเยอะมาก

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

แม้แต่วิวธรรมชาติที่อยู่ใกล้กับจุดพักแวะเข้าห้องน้ำก็ยังสวย! ฮ่าๆ ที่นี่จะมีห้องน้ำสาธารณะให้บริการอยู่ตามถนนสายหลัก เจอที เราก็แวะที เพราะไม่รู้เลยว่าต้องนั่งรถไปอีกไกลแค่ไหนถึงจะเจอห้องน้ำอีก ฮ่าๆ

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง

ในที่สุดก็มาถึงเมืองอาคูเรย์รี่ (Akureyri) ซึ่งจะเป็นเมืองที่เราหยุดพักกันในวันแรก โรงแรมในอาคูเรย์รี่ (Akureyri) ที่เราจองไว้ชื่อว่า Akureyri H.I. Hostel ใครเป็นสายประหยัดเหมือนกันเราแนะนำให้จองที่นี่ เพราะเป็นโฮสเทลที่ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับที่พักอื่นๆ หลังจากเมืองนี้ไป ตอนเราค้นหาก็แทบจะไม่มีโฮสเทลให้จองแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นห้องเดี่ยวแทบทั้งหมด

Akureyri H.I. Hostel

Akureyri H.I. Hostel

Akureyri H.I. Hostel

วันแรกผ่านไปด้วยการขับรถซะส่วนใหญ่ เนื่องจากเมืองอาคูเรย์รี่ (Akureyri) อยู่ห่างจากเมืองเรคยาวิก (Reykjavik) ประมาณ 380 กิโลเมตร ซึ่งต้องใช้เวลาขับรถนานเกือบ 5 ชั่วโมง เราเลยได้แวะเที่ยวแค่ที่เดียวเท่านั้นในวันแรก วันต่อมาเราวางแผนว่าจะไปสถานที่ท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ที่น่าสนใจอย่างน้ำตกโกดาฟอสส์ (Goðafoss waterfall) ทะเลสาบมิวัทน์ (Lake Mývatn) และ Námaskarð geothermal area

ซึ่งสุดท้ายก็ได้แวะอีกหลายสถานที่ที่บังเอิญเจอระหว่างทาง พอเห็นคนอื่นจอดรถ เราก็เลยจอดรถลงไปดูกับเค้าบ้าง และนั่นก็คือเสน่ห์ของไอซ์แลนด์สำหรับเรา มีเซอร์ไพร์สรอเราอยู่เต็มไปหมด ทำให้เหมาะมากกับการขับรถเที่ยวด้วยตัวเองในไอซ์แลนด์ ตอนหน้าสถานที่ท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์ที่ว่านั้นจะสวยขนาดไหน อย่าลืมติดตามอ่านกันนะคะ 🙂

เรื่อง: ตรีสุคนธ์ จีระมะกร (ตรี)

ฟรีแลนซ์นักแปลอังกฤษ <=> ไทยและนักเขียนคอนเทนต์

อ่านเที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเองตอนต่อไปได้ที่นี่: เที่ยวไอซ์แลนด์ด้วยตัวเอง ขับรถรอบเกาะภายใน 7 วัน Day 2: จาก Akureyri ไป Arbot

อ่านรีวิวเที่ยวเมืองอื่นๆ ในยุโรปเพิ่มเติมได้ที่นี่:

7 Comments