เที่ยวพม่าเพื่อนบ้าน ตอนที่ 1: นั่งรถไฟหวานเย็นกับสงกรานต์ที่พม่า

เที่ยวพม่าเพื่อนบ้าน ตอนที่ 1: นั่งรถไฟหวานเย็นกับสงกรานต์ที่พม่า

เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เรากับเพื่อนหนีสงกรานต์ที่วุ่นวายในกรุงเทพ ไปเที่ยวพม่ากัน 2 คนแบบที่ไม่ได้หาข้อมูลอะไรไปก่อนมากนัก ตั้งใจแค่ว่าอยากจะไปเจดีย์ชเวดากอง วัดพุกาม และสะพานไม้อูเบ็งที่มัณฑะเลย์ เป็นทริปสั้นๆ 5 วันที่หารู้ไม่ว่า.. สงกรานต์ที่พม่าเค้าเล่นกันจริงจังม๊ากกก เหมือนไทยย้อนไปเมื่อก่อน ในยุคที่ไม่ได้มีใครห้ามไม่ให้เล่นน้ำใส่น้ำแข็ง เล่นแป้งกับท่ออัดฉีดน้ำ หรือยืนเล่นน้ำหลังรถได้ ปีนฉีดน้ำแทบไม่มีให้เห็น เพราะมันไม่สะใจพอ ที่นี่เค้าไม่ได้แค่ยืนหลังรถปิคอัพ แต่เค้ามาเป็นรถบรรทุก มากันทีหลายสิบคนยืนกันเต็มหลังรถพร้อมถังน้ำใหญ่ใส่น้ำแข็งแบบที่เราสู้ยังไงก็ไม่ชนะ โดนสาดใส่ทีก็หนาวสั่นกันไป

Mandalay Palace

ที่มัณฑะเลย์ เราเดินเล่นกันรอบๆพระราชวังเก่า (Mandalay Palace) มีเวทีคอนเสิร์ตเล็กๆตั้งอยู่โดยรอบ คอยเปิดเพลงและมีสายยางคอยฉีดน้ำใส่ผู้คนอยู่เรื่อยๆ มีวัยรุ่นพม่ารวมตัวกันอยู่หน้าเวทีเยอะมาก บ้างก็ซ้อนมอเตอร์มากันเป็นแก๊งค์ แอบน่ากลัวสำหรับเราอยู่ ฮ่าๆ แต่เราเดินไปกับเพื่อนพม่าผู้ชาย 2 คนที่เราเจอระหว่างที่นั่งรถไฟจากมัณฑะเลย์ไปพุกาม มีคนนึงพูดภาษาไทยได้ และคอยช่วยเหลือเราตลอดทริปหลังจากนั้น เลยไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่

เดินเล่นดูนั่นนี่เสร็จก็ย้อนกลับมาหน้าโรงแรมของเรา เค้ามีน้ำบริการไว้ให้แขกเล่นได้ฟรีด้วย เล่นไปได้ซักพัก พี่น้องผู้หญิงชาวพม่าที่อยู่ตรงข้ามที่ข้ามถนนไปมาเพื่อเอาน้ำเย็นมาสาดเราที่หน้าโรงแรมก็ชวนเราไปเล่นสงกรานต์ด้วยกัน ทีนี้ละมีน้ำเย็นจากน้ำแข็งก้อนใหญ่ยักษ์ไว้เล่นกับเค้าบ้างแล้ว สาดคนที่เดินไปมาหรือขับรถผ่านได้ยินเสียงร้องเพราะน้ำเย็นทีก็ได้หัวเราะสนุกกัน แถมพอค่ำๆเค้ายังพาพวกเราไปเลี้ยงข้าวที่ร้านอาหารใกล้ๆอีกต่างหาก เราชวนน้องๆเค้าไปเที่ยวกับเราด้วยในวันรุ่งขึ้น แต่พวกเค้าเป็นแค่เด็กมัธยมต้นเองในตอนนั้นซึ่งน้องกลัวว่าที่บ้านจะไม่อนุญาตให้ไปเที่ยวด้วย เลยอดไป ได้แต่ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้และที่ใจดีให้เราได้ไปเล่นสงกรานต์สนุกๆด้วย

เรานั่งรถไฟจากมัณฑเลย์ไปพุกามกันในราคาตั๋วใบละ 60 บาท 12 ชั่วโมง (ใช่ค่ะ คุณได้ยินไม่ผิด) แต่เป็น 12 ชั่วโมงที่ไม่น่าเบื่อเลย เพราะรถไฟไทยที่ว่าเก่าแล้ว รถไฟพม่าเก่ากว่ามากนัก เป็นเก้าอี้ไม้ และโยกซ้ายขวาเป็นพักๆ และทุกครั้งที่รถไฟจอดตามสถานีต่างๆ คุณต้องคอยระวังข้าวของของคุณให้ดี เพราะจะมีคนที่อยู่ด้านนอกรถไฟสาดน้ำใส่คุณแบบที่ไม่ทันได้ตั้งตัว หรือเดินขึ้นมาบนรถไฟพกน้ำใส่ขวดแบบเทน้ำใส่เบาๆพร้อมกล่าวสวัสดีปีใหม่ก็มี แต่วิวตลอด 2 ข้างทางก็ชวนให้เราคอยมองอยู่ตลอด ไม่อยากเผลอหลับเลยตลอดทาง

บนรถไฟคันเดียวกันก็ได้เจอครอบครัวชาวอังกฤษที่เค้ามาเที่ยวด้วยกันด้วย ลูกเค้าทำงานเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีที่ Big 4 เหมือนเราเลย แต่ลาออกมาก่อนจากงานที่หนักนั่นเพื่อเดินทางท่องเที่ยวและอยากมาเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือสุนัขในไทยซักพักก่อนจะกลับไปทำงานอีกครั้ง เธอต้องรักสุนัขมาจริงๆ เพราะเธอเปิดรูปงานวันเกิดและเค้กที่ทำให้สุนัขของเธอเองให้เราดูพร้อมกับรอยยิ้ม พ่อกับแม่ของเธอก็ชอบประเทศไทย โดยเฉพาะผลไม้ปั่นและของกินในเซเว่น ฮ่าๆ เพราะถูกและอร่อย ในขณะที่พม่าแทบไม่มีมินิมาร์ทให้เห็นเลย เป็นร้านขายของชำของชาวบ้านเองเป็นส่วนใหญ่

บนรถไฟก็จะมีของกินขึ้นมาขายอยู่ตลอดๆ ภาพบนรถไฟของพวกเราคือ ต่างคนต่างลองซื้อนู่นนี่กินแล้วเอามาแบ่งกัน ฝรั่งที่เที่ยวคนเดียวคนนึงเค้าก็ไม่กล้ากินไข่นกกระทา ส่วนเรากับเพื่อนนี่กินแทบทุกอย่างที่เค้าเอามาขาย แม้กระทั่งผัดหมี่ที่คลุกกับเครื่องปรุงด้วยมือของคนขายก็ตาม ฮ่าๆ โชคดีก็ไม่ได้มีใครท้องเสียอะไรทีหลัง

เราออกกันตั้งแต่เช้า ช่วงแรกๆภาพที่เห็นคือบ้านเรือนของผู้คน พระเดินออกมาบิณฑบาตตอนเช้า วัดวาต่างๆ พอนั่งออกไปเรื่อยๆ ก็จะมีต้นตาลอยู่เต็มไปหมด บอกกับเพื่อนไว้ว่าอยากลองนั่งรถไฟในพม่าดู ก็ได้นั่งในที่สุด เพราะเป็นช่วงวันหยุดที่ไม่มีรถบัสมากนัก เนื่องจากเป็นวันหยุดสงกรานต์พอดี เราแชร์ค่าแท็กซี่จากพุกามกลับมาที่มัณฑะเลย์ด้วยกันกับเพื่อนพม่าเพราะไม่มีรถบัสขากลับเลย ไม่งั้นเราคงได้นั่งรถไฟอีก 12 ชั่วโมงกลับแน่ๆ เพราะค่าแท็กซี่นั่งข้ามเมืองก็ไม่ได้ถูกมาก แถมเราก็งกกันซะด้วย

ที่บ้านเราถ้าบอกว่าไม่เล่น เค้าก็อาจจะไม่สาดน้ำใส่เรา แต่ที่นี่บอกไปก็ไม่มีใครฟัง เดินๆสะพายเป้หนักๆอยู่ในย่างกุ้งก็มีคนเอาโฟมมาฉีดใส่หน้าใส่ผมบ้าง นั่งรถสองแถวเหมือนบ้านเราออกจากสถานีรถไฟพุกามไปที่โรงแรม ผ่านด่านเก็บเงินชาวต่างชาติ (ที่เราไม่โดนเก็บ 10$ เพราะเนียนเป็นพม่ากันไปได้) กระเป๋าแบ็คแพควางเยอะแยะเต็มรถ เค้าก็ไม่สนใจ เอาสายยางแบบที่ใหญ่ที่สุดที่หาได้ฉีดน้ำใส่หลังรถที่พวกเรานั่งกันอยู่จนเป็นอ่างน้ำกันไปเลย ฮ่าๆ

ตั๋วรถไฟคนละ 60 บาท
หนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับประสบการณ์ของวัยรุ่นไทยคนนึงที่ได้ไปเรียนภาษาอังกฤษและใช้ชีวิตอยู่ที่พม่า

อยากชวนทุกคนให้ลองมาเล่นสงกรานต์ที่พม่ากันดูซักครั้ง สนุกไปอีกแบบไม่เหมือนบ้านเรา สงกรานต์ปีนี้ ลองไปเที่ยวพม่ากันดูไหมคะ 🙂

จากหนังสือ โยดาบอย
เละ! เปียกปอนกันไป
เรื่อง: ตรีสุคนธ์ จีระมะกร

FB Page: takemeawaytravelblog

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.