เที่ยวโอกินาวะด้วยตัวเอง ตอนที่ 5 : เดินเล่นในตัวเมืองนาฮะ (Naha city)

เที่ยวโอกินาวะด้วยตัวเอง ตอนที่ 5 : เดินเล่นในตัวเมืองนาฮะ (Naha city)

มาเดินเล่นในตัวเมืองนาฮะกันบ้างดีกว่า.. วันนี้เราแวะไปกันที่ เขตุพื้นที่ชุ่มน้ำและศูนย์อนุรักษ์นกน้ำ (Manko Water Bird Wetland Center) แต่ก็ไม่เห็นนกกันซักตัว ฮ่าๆ เห็นแค่ปูตัวเล็กๆที่อยู่ในป่าชายเลน (Mangrove forest) ที่นี่เท่านั้น เพราะเราไปช่วงหน้าร้อนเดือนกรกฎาคม แต่จริงๆแล้วช่วงเวลาที่แนะนำให้ไปที่นี่คือช่วงหน้าหนาวเพราะเป็นแหล่งที่พักของเหล่านกชายฝั่งทะเลที่อพยพกันมา อย่างเช่น นกปากช้อนหน้าดำ (Black-faced Spoonbill) นอกจากนกแล้วก็ยังเป็นที่อยู่ของสัตว์อื่นๆในเขตป่าชายเลนอย่างเช่นพวกปลาและปูต่างๆ ถ้าใครไปโอกินาวะช่วงหน้าหนาวแนะนำให้ไปที่นี่กันค่ะ แหล่งธรรมชาติที่ใกล้ตัวเมือง เดินทางสะดวก แค่ลงที่ monorail สถานี Onoyama Koen station แล้วเดินประมาณ 15 นาทีก็ถึง

Image result for Black-faced Spoonbill

Black-faced Spoonbill (Reference: wikipedia)

เด็กๆน่าจะชอบ อย่างน้องคนนี้ เดินไป หยุดดูปูไป ฮ่าๆ น่ารักดี คุณแม่เค้าก็พูด “โคนิจิวะ” กับเราด้วย 

บอกว่าถ่ายที่โอกินาวะใครจะเชื่อ เหมือนป่าชายเลนแถวชลบุรีอ่าเอาจริง ฮ่าๆ

ดอกชบา (Hibiscus) เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของโอกินาวะ เมืองเขตร้อนชื้นนี้ ระหว่างทางเดินจะผ่านบ้านเรือนต่างๆ ก็จะเห็นแต่ละหลังปลูกดอกชบา หลากหลายสีสัน สวยดี

เอ๊ะอะไรคุ้นๆ ที่นี่มีให้บริการเช่ารถตุ๊กๆขับเล่นในเมืองได้ด้วย หลายอย่างที่นี่ทำให้นึกถึงไทยตลอด อย่างเดินๆอยู่ตามถนนก็เห็นดอกเข็มปลูกอยู่เป็นพุ่มอย่างงี้ ฮ่าๆ

อะไรเป็นมันม่วง สั่งเลย อร่อยทุกอย่าง

พวกเราหิวเลยแวะกินซูชิที่ร้านข้างๆกัน มีใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของอุนิไข่หอยเม่นบ้าง เพื่อนพี่ชอบกินมาก นางสั่งไป 2 พี่เลยสั่งไป 1 ลองกินดูบ้าง ปรากฎว่าคายแทบไม่ทัน มันคาว แง แต่เพื่อนพี่ก็ฟินก็อร่อยของนางไป ส่วนสาหร่ายพวงองุ่นก็อร่อย กินเข้าไปรู้เลยว่าสดและดี เค็มๆทะเลนิดๆ ใครชอบก็จัดเลย จำเรื่องงูที่เล่าให้ฟังได้ไหม วันนี้นั่งกินซูชิที่เค้าเตอร์ก็เจออีก คราวนี้มาในรูปแบบดองในโถแล้ววางไว้ตรงเค้าเตอร์ที่เรากำลังกินอยู่ หางตาแอบไปเห็น เถื่อนจริงๆที่นี่ ฮือออ

ชายหาดนามิโนะอุเอะ (Naminoue Beach) เป็นชายหาดเดียวที่อยู่ในตัวเมืองนาฮะและใกล้กับสนามบินมากที่สุด เดินทางมาได้สะดวกโดยนั่ง monorail มาลงที่สถานี Kancho Mae Station และเดินไปยังชายหาดใช้เวลาประมาณ 15 นาที เรากะมาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่กัน อยากให้ทุกคนกะเวลาดีๆเพราะพวกเราต้องรีบเดินกันมาก โคตรเหนื่อยเลย ฟ้าที่นี่มืดเร็วมาก ฮ่าๆ ลองค้นหาเวลาพระอาทิตย์ตกมาก่อนล่วงหน้าดีๆ ที่นี่เป็นชายหาดเล็กๆที่เป็นเหมือนกับที่พักผ่อนสำหรับคนในเมือง เราจะเห็นว่ามีผู้คนมาเล่นน้ำบ้าง นั่งเล่นริมชายหาดบ้างเพื่อผ่อนคลาย เป็นที่พักผ่อนเล็กๆสำหรับทุกคน ทางด้านหลังก็มีห้องอาบน้ำให้บริการด้วยละ

เหลือบไปทางด้านหลัง เป็นแม่บ้านญี่ปุ่นกำลังคุยโทรศัพท์ไป ยืนแช่น้ำทะเลไป ชิวดีจัง

ก่อนจะกลับไทย เราอยากจะไปอีกซัก 1 หาด ซึ่งหาดนี้ไปไม่ยากเลย เพราะสามารถนั่งเรือจากท่าเรือ Tomari Port ใกล้กับที่พักแถว Kokusaidori street ได้เลย เดินไป 15 นาทีถึง เกาะโทคาชิกิ (Tokashiki Island) จากท่าเรือถึงเกาะใช้เวลาประมาณ 70 นาที ราคาเที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 1,660 เยน เด็ก (ต่ำกว่า 12 ปี) 830 เยน ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 3,160 เยน เด็ก 1,580 เยน พอถึงเกาะแล้วก็จะต้องไปต่อ Local Bus คนละ 400 เยนเพื่อไปยังชายหาด เดินออกมาจากท่าเรือก็จะเห็นคนกำลังยืนต่อคิวรอรถกันอยู่

เราเช่า snorkel ตรงทางเข้าและดำน้ำดูปลาที่นี่กันอีกครั้งก่อนกลับ เดินแค่ไม่กี่ก้าวเพื่อลงไปดำน้ำก็เจอปลาเยอะแยะอีกแล้ว มีคนญี่ปุ่นบางคนพกขนมปังมาเพื่อเอามาให้ปลากิน มันจะมาว่ายใกล้ๆเยอะแยะเต็มไปหมด ธรรมชาติที่นี่อุดมสมบูรณ์มากจริงๆ และที่สำคัญคือชายหาดทั้ง 2 ที่เราไปมาสะอาดมาก พวกเค้าดูแลกันอย่างดี จะไม่มีร้านอาหารมาตั้งบริเวณชายหาดเลย ร้านอาหารจะตั้งอยู่ทางด้านนอกทั้งหมด บวกกับวินัยของคนที่นี่ ทำให้หาดสะอาด น้ำใส พี่ไม่เห็นขยะแม้แต่ชิ้นเดียวที่นี่ สุดยอดจริงๆ คนญี่ปุ่น

ลาก่อน.. โอกินาวะ ต้องขอบคุณเพื่อนมากๆที่ชวนมาที่นี่ และตัวเองที่ได้ตัดสินใจมาในที่สุด ได้ลองเที่ยวที่ใหม่ๆที่ไม่เคยคิดว่าจะไปดูบ้าง ถึงจะเป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ 5 วัน 4 คืน แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ได้หัวเราะกันจนเหนื่อย ได้เดินกันจนเหนื่อย แต่ก็มีอะไรระหว่างทางให้เราได้สังเกตุและเรียนรู้อยู่ตลอด ได้ไปชายหาดสวยๆ ได้ดำน้ำดูปลากันใกล้ๆโดยการแค่เดินไปเพียงไม่กี่ก้าวกับการเช่า snorkel แค่ 300 บาท ได้กินอาหารโอกินาวะอร่อยๆ โซบะโอกินาวะต้องกินให้ได้นะทุกคน มันหมูคือมันแบบละลายในปากอ่ะ ได้กินขนมมันม่วงแสนอร่อย ได้ไปเที่ยวแบบลุยๆด้วยตัวเอง ถึงแม้จะขับรถกันไม่เป็น ลุ้นเรื่องตกรถกันบ้าง ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ระหว่างทาง ได้ไปร้องคาราโอเกะกับคนญี่ปุ่น และได้รู้ว่าเค้าบ้าร้องคาราโอเกะกันแค่ไหน คนไทยนี่ชิดซ้ายอ่ะ ฮ่าๆ ไปเที่ยวเองนี่ละสนุกที่สุดแล้ว.. เราจะจดจำทะเลใสสีเขียวมรกตของที่นี่เอาไว้เป็นอย่างดีเลย ไว้เจอกันอีกนะ ญี่ปุ่น มาดะ !

อ่านตอนก่อนหน้าได้ที่นี่เลยค่ะ : ตอนที่ 4 : 1 day tour in Okinawa

เรื่อง : ตรีสุคนธ์ จีระมะกร (ตรี)

1 Comment