รีวิวเที่ยวเยอรมัน Tag

ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) คือแหล่งท่องเที่ยวประเทศเยอรมันที่เราอยากไปเที่ยวมากที่สุด เพราะเคยได้ยินมาว่าปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) เป็นปราสาทต้นแบบของปราสาทดิสนีย์! ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองฟุสเซน (Fussen) ซึ่งเมืองใหญ่ที่ใกล้ที่สุดก็คือมิวนิค (Munich) ตัวปราสาทอยู่ไม่ไกลจากชายแดนของประเทศเยอรมันที่ติดอยู่กับเมืองอินส์บรูค (Innsbruck) ประเทศออสเตรียมากนัก เราเลยวางแผนว่าหลังจากที่ไปเที่ยวปราสาทนอยชวานสไตน์แล้ว จะไปหาเพื่อนชาวออสเตรียที่อยู่ในอินส์บรูค (Innsbruck) ต่อซะเลย   ปราสาทนอยชวานสไตน์ รีวิว   พวกเราบินตรงมาจากเมืองบาร์เซโลนา (Barcelona) ประเทศสเปนตอนกลางคืนและมาถึงที่เมืองมิวนิค (Munich) ช่วงเช้าในราคา 45 ยูโร (1,450 บาท) ต่อคน ด้วยการจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ผ่าน Skyscanner เปรียบเทียบราคาในช่วงเวลาที่ต้องการเดินทางและเลือกเที่ยวบินราคาถูก โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นสายการบิน Wizz Air หรือไม่ก็ Ryan Air สำหรับการเดินทางในยุโรป จากนั้นพวกเราก็ซื้อตั๋วรถไฟที่เครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติหน้าสถานี ซึ่งสถานีรถไฟนั้นเชื่อมต่อกับสนามบินมิวนิค (Munich International Airport) โดยตรงเลย...

เที่ยวเมืองโคโลญ (Cologne) คงไม่สมบูรณ์ถ้าไม่ได้พูดถึงมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ซึ่งเป็นจุดหมายของเราในการกลับมาเที่ยวเยอรมันในครั้งนี้ แต่ความตั้งใจจริงๆของเราคือการมาเยี่ยมเพื่อนสนิทของแฟนชาวเยอรมันที่อาศัยอยู่ที่นี่ต่างหาก (เราเลยประหยัดค่าที่พักไปได้ตั้ง 3 คืนด้วย เย่!) พวกเราเดินทางมาที่เมืองโคโลญด้วยเครื่องบินจากเมืองคราคลุฟ (Krakow) ประเทศโปแลนด์ (Poland) หลังจากแวะไปที่พิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ (Auschwitz concentration camp museum) ในราคาประมาณ 50 ยูโร (1,700 บาท) ต่อคนผ่านการค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกผ่าน Skyscanner ลานทรายสำหรับเด็กที่หน้าอพาร์ทเมนต์ของเพื่อนชาวเยอรมัน สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในเมืองโคโลญ (Cologne) Chocomel เป็นเครื่องดื่มช็อกโกแลตที่เราชอบมากตั้งแต่ตอนไปเที่ยวเนเธอร์แลนด์แล้ว เพิ่งรู้ว่ามีขายที่เยอรมันด้วย! พวกเราเหนื่อยกันมากกว่าจะพากันแบกกระเป๋าเป้หนักๆและหาทางเดินจากสถานีรถไฟไปที่ที่พักของเพื่อนได้ถูก พอไปถึงแฟนของเพื่อนที่เพิ่งกลับมาจากงานประจำก็ต้อนรับพวกเราด้วยรอยยิ้ม เธอกำลังเตรียมอบพิซซ่าที่ทำด้วยตัวเองที่บ้านสำหรับมื้อเย็นของพวกเราอยู่พอดีเลย เพียงแค่ต้องรอเพื่อนของแฟนเราที่ต้องเดินทางมาจากอีกเมืองด้วยรถไฟเท่านั้น เพราะพวกเขากำลังจะไปเที่ยวอิตาลีด้วยกันเร็วๆนี้ เราเองก็อยากกินพิซซ่าที่อิตาลีกับเขาบ้าง! เที่ยวเมืองโคโลญ (Cologne): มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) โบสถ์ใหญ่มาก ถ่ายรูปยังไงก็เก็บไม่หมด เมืองโคโลญเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศเยอรมันรองมาจากเมืองเบอร์ลิน ฮัมบูร์ก...

เที่ยวเมืองเดรสเดน (Dresden) ใน 1 วัน เดรสเดน (Dresden) เป็นเมืองในประเทศเยอรมันที่ถูกทำลายอย่างหนักจากระเบิดของกองทัพอากาศอเมริกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พอๆกับเมืองโคโลญจน์ (cologne) แต่ผู้คนในเมืองร่วมด้วยช่วยกันทำให้เมืองนี้ได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เดรสเดนที่เราเห็นในวันนี้จึงกลายเป็นเมืองที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย มีร้านขายของที่ระลึกที่ขายของตกแต่งสำหรับเทศกาลคริสต์มาสน่ารักๆกันตั้งแต่เดือนสิงหาคม มีตึกสวยรายล้อมอยู่หลายหลัง และมีโบสถ์ที่สวยงามและขนาดใหญ่มากตั้งตระหง่านอยู่ตรงใจกลางเมืองเปรียบเหมือนกับหัวใจของเมืองนี้ นั่นก็คือโบสถ์แม่พระเดรสเดิน (Dresden Frauenkirche, เดรสเดินเฟราเอินเคียร์เชอ) เป้าหมายที่เราตั้งใจมากันในวันนี้นั่นเอง ภาพตรงหน้าที่ได้เห็นในตอนนี้ลบภาพความจริงที่เคยเกิดขึ้นไปเลยว่า โบสถ์หลังนี้เคยถูกระเบิดพังจนแทบไม่เหลือชิ้นดีมาก่อน โบสถ์แม่พระเดรสเดน (Dresden Frauenkirche) ในปัจจุบัน August 2019 โบสถ์แม่พระเดรสเดน (Dresden Frauenkirche) ที่ถูกทำลายอย่างหนัก ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บนโปสต์การ์ดในร้านขายของที่ระลึกในเมืองเดรสเดน วันนี้เรามาเที่ยวเมืองเดรสเดน (Dresden) เป็นเวลา 1 วันกับครอบครัวของพี่สาวแฟนกัน โดยขับรถมาจากเมืองไลพ์ซิก (Leipzig) ซึ่งเดรสเดน (Dresden) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ในรัฐแซกโซนี รองมาจากเมืองไลพ์ซิก...

เที่ยวไลพ์ซิกด้วยตัวเอง: บ้านเล็กในสวนของคนไลพ์ซิก ที่พักอาศัยของคนไลพ์ซิกในประเทศเยอรมันส่วนใหญ่จะเป็นอพาร์ทเม้นท์ที่มีขนาดเล็กและใหญ่ต่างกันออกไป ซึ่งภายในอพาร์ทเม้นท์นั้นจะถูกแบ่งออกอย่างเป็นสัดส่วน มีทั้งห้องนอน ประมาณ 2-3 ห้อง ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว โต๊ะกินข้าว และมีส่วนของบาร์โคนี่ด้านนอกอยู่ด้วย ซึ่งเป็นบริเวณที่คนเยอรมันเค้าเอาไว้นั่งสังสรรค์กับเพื่อนๆหรือครอบครัวเวลาพวกเขามาเยี่ยมที่บ้าน ดื่มเบียร์กันตามประสาคนเยอรมันพร้อมทั้งปิ้งบาร์บีคิวอร่อยๆกินกันไปด้วย ด้วยการที่ลักษณะของที่พักอาศัยถูกเปลี่ยนจากบ้านมาเป็นอพาร์ทเม้นท์แทนเพราะมีประชากรในพื้นที่ในไลพ์ซิกเยอะมากขึ้น ก็เลยเกิดพื้นที่ของบ้านเล็กในสวนของคนไลพ์ซิกอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วเมือง ซึ่งเกิดจากการปล่อยให้เช่าพื้นที่เพื่อสร้างสวนของตัวเองขึ้นมาได้ในราคาถูกมากประมาณ 240 ยูโร (8,000 บาท) ต่อปีเท่านั้น หรือราคาถูกกว่านี้ก็มี ใครไปเที่ยวที่เมืองนี้อาจจะสังเกตเห็นสวนต่างๆในพื้นที่กว้างแบบนี้อยู่หลายแห่งตอนนั่งรถไฟหรือเวลาเดินผ่านตามตรอกซอกซอยต่างๆของโซนที่อยู่อาศัยของคนที่นี่ พื้นที่สวนแบบนี้ถูกทำขึ้นมาจากกลุ่มคนที่รวมตัวกันจัดตั้งองค์กรให้เช่าพื้นที่ทำสวนเพื่อทำให้ในเมืองยังคงมีพื้นที่สีเขียวแบบนี้อยู่ พร้อมตอบสนองความต้องการของคนไลพ์ซิกที่ยังอยากมีสวนเล็กๆเป็นของตัวเองไว้ปลูกดอกไม้ ต้นไม้ และพืชผักผลไม้ที่ตัวเองต้องการได้ แม้จะไม่มีบ้านเป็นหลังๆก็ยังสามารถมีพื้นที่สวนแบบนี้ไว้สร้างบ้านไม้หลังเล็กๆไว้เก็บอุปกรณ์ทำสวน มีพื้นที่สำหรับตั้งโต๊ะบาร์บีคิวไว้สังสรรค์กับเพื่อนและครอบครัวในช่วงซัมเมอร์ได้ด้วย เราว่าเป็นความคิดที่ดีมากๆ ทำให้ไลพ์ซิกเป็นเมืองไม่ได้มีแต่ตึกอพาร์ทเม้นท์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเมืองที่น่าอยู่ เพราะมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่แบบนี้อยู่ทั่วเมืองมากกว่า 50 แห่ง ! เที่ยวไลพ์ซิกด้วยตัวเอง: วัฒนธรรมการกินของคนเยอรมัน เราเคยเล่าเกี่ยวกับอาหารเช้าของคนยุโรปไว้ใน แชร์ประสบการณ์ใช้ชีวิต 1 อาทิตย์ในบ้านคนดัตช์ ซึ่งอาหารเช้าของทั้งคนดัตช์และคนเยอรมันเองก็ไม่ได้ต่างกันเลยค่ะ แต่ละบ้านจะมีเครื่องชงกาแฟอย่างดีติดบ้านไว้เพราะคนยุโรปเขาชอบดื่มกาแฟกันมาก วันๆนึงดื่มกันหลายแก้วเลยทั้งเช้า กลางวัน เย็น...

เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ด้วยตัวเอง: สวนสาธารณะในไลพ์ซิก (Leipzig), Johanna Park ไลพ์ซิก (Leipzig) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐแซกโซนี (Saxony) ประเทศเยอรมันค่ะ เพิ่งเป็นเมืองที่ได้รับรางวัลเป็นที่สุดของเมืองในยุโรปจาก Urbanism Awards 2019 มาหมาดๆเลย โดยชนะเมืองนองต์ ประเทศฝรั่งเศส และเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ซะอีก ! จากตอนแรกที่เราเคยเล่าประสบการณ์พายเรือแคนูในคลองเมืองไลพ์ซิก เอาไว้ ก็จะเห็นได้ว่าไลพ์ซิกเป็นเมืองที่มีธรรมชาติโอบล้อมทำให้เป็นเมืองที่น่าอยู่มากเลย แถมยังมีสวนสัตว์ไลพ์ซิก (Zoo Leipzig) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนสัตว์ที่ดีที่สุดในยุโรปด้วย อีกสิ่งที่น่าสนใจของเมืองนี้คือเรื่องราวประวัติศาสตร์ค่ะ เพราะที่นี่เคยเป็นเมืองที่นโปเลียนเคยมาตั้งฐานทัพเพื่อส่งกองกำลังเข้าไปยึดยุโรปในสมัยที่สเปนต้องการจะยึดครองหลายประเทศในยุโรปอย่างเด็ดขาด ทำให้ที่นี่เป็นที่ๆเคยตกอยู่ในสมรภูมิรบอย่างหนักหน่วงมาก่อน แต่ด้วยความร่วมมือกันของกองทัพกษัตริย์และผู้ปกครองยุโรปก็สามารถเอาชัยชนะจากนโปเลียนได้ในที่สุดที่เมืองนี้เป็นที่แรก ทำให้ประเทศในยุโรปได้กลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง แต่นั่นก็เป็นเรื่องของเมื่อ 200 ปีที่แล้ว.. สวนสาธารณะในไลพ์ซิก (Leipzig), Johanna Park ต่อมาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2.. ไลพ์ซิกยังเป็นเมืองที่มีบทบาทอย่างมากในการประท้วงเพื่อเรียกร้องอิสรภาพในการเดินทางตอนที่กำแพงเบอร์ลินยังแบ่งกั้นระหว่างเยอรมันตะวันตกและตะวันออกทำให้คนไลพ์ซิกที่อยู่ในฝั่งตะวันออกไม่มีอิสรภาพตรงนี้และเลือกที่จะเสี่ยงตายเพื่อให้ได้มันมา ก่อนหน้าที่กำแพงเบอร์ลินจะถูกทำลายลงไม่นานในปี 1989 มีคนมาร่วมประท้วงบนท้องถนนในเมืองไลพ์ซิกทุกๆวันจันทร์ จำนวนมากสุดถึง...

เที่ยวไลพ์ซิกด้วยตัวเอง: เที่ยวสวนสัตว์ไลพ์ซิก (Zoo Leipzig) ตอนแรกที่เราโดนชวนไปเที่ยวสวนสัตว์ไลพ์ซิก (Zoo Leipzig) ตอนที่อยู่เยอรมันก็เฉยๆมาก หากย้อนไปซัก 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนที่ยังคงเป็นเด็กอยู่ก็อาจจะตื่นเต้นกว่านี้ แต่แฟนบอกว่าที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนสัตว์ที่ดีที่สุดเป็นอันดับต้นๆของยุโรปเชียวนะ ! ได้ฟังแบบนี้แล้วก็ค่อยน่าสนใจขึ้นมาหน่อย อยากรู้เหมือนกันว่าสวนสัตว์ที่เค้าว่าดีเป็นแบบไหนกัน มาลองคิดดูดีๆ เราเคยไปแต่สวนสัตว์ในไทยเท่านั้น น้อยครั้งแบบนับได้เลย อย่างที่เป็นที่รู้จักกันดีอย่างสวนสัตว์ดุสิต ซาฟารีเวิลด์ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว และสวนสัตว์นครราชสีมาที่ไปมาก็เมื่อนมนานมาแล้ว แถมเป็นกิจกรรมที่ดีสำหรับเด็กๆด้วย เพราะวันนี้เราจะไปเที่ยวกับพี่สาวของแฟนและลูกๆของเธอกัน พอได้ไปสัมผัสด้วยตัวเองดูแล้ว ก็สมแล้วล่ะที่สวนสัตว์แห่งนี้จะขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสวนสัตว์ที่ดีที่สุดในยุโรป เรามองว่าที่นี่เป็นมากกว่าสวนสัตว์ เป็นเหมือนสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่สำหรับเด็ก และเป็นสถานที่ที่เหมาะมากสำหรับการใช้เวลาด้วยกันภายในครอบครัว ยิ่งพาเด็กๆมาเที่ยวด้วยแล้ว พวกเค้าจะต้องชอบสวนสัตว์แห่งนี้อย่างแน่นอน :) ประตูทางเข้าสวนสัตว์ไลพ์ซิก (Zoo Leipzig) เคาน์เตอร์ซื้อตั๋วจะอยู่บริเวณซ้ายมือเมื่อเดินผ่านประตูทางเข้าสวนสัตว์ไลพ์ซิก (Zoo Leipzig) มา ราคาค่าตั๋วเข้าสวนสัตว์ไลพ์ซิก (Zoo Leipzig): ช่วงหน้าร้อน 21 มีนาคม - 31 ตุลาคม:...

รีวิวเที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ด้วยตัวเอง: ชวนพายเรือแคนูผ่านแม่น้ำ 4 สายในไลพ์ซิก Pleiße, Elsterflutbett, White Elster และ Karl-Heine-Kanal หลังจากอยู่ที่เบอร์ลินมาเป็นเวลา 1 อาทิตย์ ก็ได้เวลาเดินทางไปยังเมืองต่อไป "ไลพ์ซิก (Leipzig)" ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ทางใต้ของเบอร์ลิน ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้วค่ะ เราเดินทางด้วย Flixbus เจ้าเก่าเหมือนเดิม (สามารถอ่านวิธีซื้อตั๋วรถบัสได้ที่บล็อกรีวิว Flixbus ) ชื่อเมืองอาจจะไม่ค่อยคุ้นกันเท่าไหร่แต่ถ้าใครชอบดูฟุตบอลก็น่าจะพอคุ้นๆหูกันบ้างเพราะเค้ามีทีมฟุตบอลเป็นของตัวเองแล้วค่อนข้างประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักระดับนึงเลยทีเดียว ที่นี่มีหนึ่งกิจกรรมกลางแจ้งสุดฮิตที่เราอยากจะแนะนำทุกคนให้ลองทำกันหากมาเที่ยวที่ไลพ์ซิก (Leipzig) นั่นก็คือการพายเรือแคนู หลายคนได้ฟังแล้วก็อาจจะอยากหันหน้าหนีแบบเราเองตอนแรกเพราะเราไม่เคยพายเรือแคนูจริงจังมาก่อนเลย อีกใจก็คิดว่าน่าจะสนุกดี อีกใจก็มีความขี้เกียจเข้าครอบงำ จำได้ว่าเคยพายแค่แป๊บเดียวตอนไปเที่ยวงาน Baimai Craft Camp “10th Anniversary” ก็รู้สึกเหนื่อยแล้วแถมกลัวด้วยเพราะเราว่ายน้ำไม่เป็น แต่แฟนก็คะยั้นคะยอให้ไปพายเรือด้วยกันให้ได้ บอกว่าเพื่อนชวนไปพายเรือด้วยกันนานแล้วไม่ได้พายซักที ยังไงก็มีกัน 2...

เที่ยวเบอร์ลินกับ Takemeaway.life เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายแล้วกับ 2 วันในการเดินตะลอนอยู่ในเบอร์ลิน เมืองที่อินดี้ที่สุดในประเทศเยอรมัน เมืองนี้ที่หลายๆคนอาจจะคิดว่าไม่ค่อยมีอะไรกลับมีสถานที่ที่น่าสนใจมากมายรอให้เราพาตัวเองไปให้ถึง ตอนสุดท้ายแล้วเราก็จะเต็มอิ่มกันหน่อยทั้งแวะดูนาฬิกาโลก (World Clock Berlin) สุดเจ๋ง เครื่องเดียวบอกเวลาได้แทบจะทั่วทั้งมุมโลก แถมมีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองกันเลย แนะนำอาหารราคาถูกที่หากินได้ในเยอรมันแทบจะทุกที่ที่เรียกว่าโดเนอร์ (Doner) พร้อมชี้พิกัดร้าน และเล่าเรื่องชีวิตใน 1 อาทิตย์กับครอบครัวชาวเยอรมันค่ะ รีวิวเที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเอง: แวะดูนาฬิกาโลกเบอร์ลิน (World Clock Berlin) กลางเมืองสุดเจ๋ง นาฬิกาโลกเบอร์ลิน (World Clock Berlin) นาฬิกาโลกเบอร์ลิน (World Clock Berlin) แห่งนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "Urania World Clock" เป็นนาฬิกาแบบแท่นหมุน (Turret clock) ออกแบบโดย Erich John สร้างมาตั้งแต่กันยายน ปี 1969 ไม่น่าเชื่อว่าเจ้านาฬิกาโลกนี้มีน้ำหนักมากถึง...

ถึงจะเป็นเที่ยวเบอร์ลินตอนที่ 5 แล้ว แต่เชื่อไหมว่าทั้งหมดตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้สามารถทำได้ทั้งหมดใน 1 วันในเบอร์ลิน ตั้งแต่เดินเล่นในตลาดนัดอินดี้วันเสาร์ (Flohmarkt im Mauerpark), นั่งชิวในลานเบียร์เก่าแก่ (Prater garden) ย่านเพรนซเลาเออร์ แบร์ค (Prenzlauer Berg), ก้าวข้ามระหว่างฝั่งอดีตเยอรมันตะวันออกและเยอรมันตะวันตกที่เช็คพอยท์ ชาร์ลี (Checkpoint Charlie), ถ่ายรูปคู่กับประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate) แลนด์มาร์คของเบอร์ลิน, เดินเล่นรอบๆอาคารรัฐสภาเยอรมันบุนเดสทาค (Bundestag) และปิดท้ายวันด้วยการแวะไปไว้อาลัยให้กับชาวยิวกว่าล้านคนที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อนุสรณ์สถานฮอโลคอสต์พร้อมนั่งเล่นในเทียร์การ์เด้นท์ (Tiergarten) และส่องหาสุนัขจิ้งจอกที่อาศัยอยู่ในสวนขนาดใหญ่แห่งนี้ก่อนกลับที่พัก ซึ่งเราจะมาพูดถึงกันในบล็อกนี้นั่นเอง เที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเอง: แวะไว้อาลัยให้กับชาวยิวกว่าล้านคนที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อนุสรณ์สถานฮอโลคอสต์ (Holocaust Memorial) อนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (Memorial to the Murdered Jews of Europe) อนุสรณ์สถานฮอโลคอสต์...

รีวิวเที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเอง: เช็คพอยท์ ชาร์ลี (Checkpoint Charlie) หลังจากแวะจิบเบียร์กันที่ Prater Beer Garden กันพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ไปเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของประเทศเยอรมันผ่านสถานที่จริงที่เช็คพอยท์ ชาร์ลี (Checkpoint Charlie) กันต่อ ที่นี่คือจุดเช็คหนึ่งในสามที่ดูแลโดยทหารอเมริกันฝั่งเยอรมันตะวันตก ถูกสร้างขึ้นจากคำสั่งของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จอห์น เอฟ เคนเนดี้ (John F Kennedy) ในเดือนสิงหาคม ปี 1961 เพื่อให้คณะทูตและกองกำลังพันธมิตรนั้นสามารถเดินทางเข้าออกผ่านจุดเช็คแห่งนี้ได้ และเป็นจุดเช็คเพียงจุดเดียวที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถผ่านเข้าออกได้ หลังจากที่เยอรมันฝั่งตะวันออกมีคำสั่งให้สร้างกำแพงเบอร์ลินขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้คนจากฝั่งเยอรมันตะวันออกข้ามฝั่งไปที่เยอรมันตะวันตกง่ายๆได้อีกต่อไป ส่วนจุดเช็คอีก 2 แห่งที่ว่านั้นมีชื่อว่าเช็คพอยท์อัลฟาและเช็คพอยท์บราโว (Checkpoint Alpha and Bravo) แต่ทำไมเช็คพอยท์ ชาร์ลีแห่งเดียวนี้ถึงมีชื่อเสียงขึ้นมาล่ะ? ทางออกรถไฟฟ้าใต้ดินสถานี Kochstraße (Checkpoint Charlie) ตามสถานีรถไฟต่างๆก็จะมีเหล่าศิลปินและนักดนตรีอิสระเล่นดนตรีให้เราฟัง เครื่องดนตรีแปลกสุด แต่เสียงดนตรีเพราะดี โฆษณาแมคโดนัลด์ (Mcdonald) ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Kochstraße ระหว่างทางเดินมีโบรชัวร์เกี่ยวกับเรื่องราวของเช็คพอยท์...