29 Dec รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) ตอนที่ 3: จัตุรัสเมืองเก่าปราก (Old Town Square) และโซนเมืองใหม่ปราก
จตุรัสเมืองเก่าของปราก (Old Town Square, Prague)
หลับสบายอยู่ในสวนได้ไม่นานก็ต้องปลุกตัวเองให้ตื่นขึ้นมา เพราะปรากยังมีอะไรอีกเยอะแยะที่น่าสนใจรอเราอยู่ กลับเข้ามาในใจกลางเมืองปรากกันอีกครั้ง นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างความทัวร์ริสตี้ของปราก มีเหล่าสารพัดหมีมาคอยสร้างสีสันให้กับนักท่องเที่ยวที่จัตุรัสเมืองเก่าของปราก (Old Town Square, Prague) เดินไปมาทั่วจริงๆ ไม่ว่าจะโซนของเมืองเก่าหรือโซนของเมืองใหม่ก็ตาม เห็นแล้วก็ทำให้ยิ้มได้นะ ขำๆดี เด็กๆก็คงจะชอบกันมาก หรือจะเป็นคนทาสีตัวเองทั้งตัวแล้วทำเหมือนว่าตัวเองเป็นรูปปั้นอย่างในภาพ นักท่องเที่ยวคนไหนอยากเข้าไปถ่ายรูปหรือชื่นชอบก็ช่วยหย่อนเงินเล็กน้อยๆให้ได้ แต่เราแทบจะไม่เคยเสียเงินให้กับอะไรแบบนี้เลย เพราะด้วยความงกของพี่ที่มีมันรั้งพี่เอาไว้ ฮ่าๆ
พิกัด/แผนที่จตุรัสเมืองเก่าของปราก (Old Town Square, Prague): จัตุรัสเมืองเก่าของปราก (Old Town Square, Prague) Google Map
โบสถ์ที่อยู่ด้านหลังตั้งเด่นอยู่เลยก็คือโบสถ์ที่มีชื่อว่า Church of Our Lady before Týn ซึ่งเป็นศิลปะแบบโกธิค เป็นโบสถ์มีความสำคัญกับปรากมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ภายนอกจะสังเกตเห็นทองลักษณะกลมอยู่ตรงกลางด้านบนซึ่งเป็นรูปของพระแม่มารี ใครอยากแวะเข้าไปดูข้างใน เขาเปิดให้บริการวันอังคารถึงวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 10.00 – 13.00 น. และ 15.00 – 17.00 น. นะคะ ตอนเราจะเข้าไปดูข้างในดันเป็นช่วงที่เขาปิดพอดีเลยอดเข้าไปข้างในเลย ข้างในมีออร์แกนที่เก่าแก่ที่สุดในปรากอยู่ด้วย
ที่จัตุรัสเก่ากลางเมืองปรากมีอนุสาวรีย์ของจอห์น ฮัส (Jan Hus) ตั้งอยู่ ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี 1915 ในวันครบรอบ 500 ปีที่เขาเสียชีวิต Jan Hus คือนักปรัชญาและบาทหลวงชาวเช็ก เขายังเคยดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีของมหาลัยปรากและตัวเองก็เคยเรียนที่นั่นอีกด้วย มีความคิดในการปฏิรูปศาสนาเป็นบุคคลแรกๆเพราะเห็นความเสื่อมทรามจากการกระทำของนักบวช เขาแปลหนังสือของจอห์น วิคลิฟฟ์ (John Wycliffe) ที่เป็นหนังสือต้องห้ามของคริสตจักร เลยถูกไล่ออกจากศาสนาโดยสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 5 จนต้องลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศเยอรมัน แต่สุดท้ายก็ถูกจับและตราว่าเป็นบุคคลนอกรีตและถูกเผาทั้งเป็นจนเสียชีวิต ทำให้คนที่ไม่พอใจก่อสงครามสงครามฮุสไซต์ (Hussite Wars) ขึ้น สุดท้ายโรมันคาทอลิกก็ยอมให้ฮุสไซต์ประกอบพิธีของตัวเองได้หลังจากนั้น แต่ก็ดำเนินไปได้เพียง 200 ปีก่อนที่จะมีสงคราม 30 ปีเกิดขึ้นอีกครั้ง
นาฬิกาดาราศาสตร์ปราก (Prague astronomical clock, The Orloj)
ตรงข้ามกันเป็นที่อยู่ของนาฬิกาดาราศาสตร์ปราก (Prague astronomical clock, The Orloj) ที่มีชื่อเสียงเนื่องจากเป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ที่เก่าแก่เป็นอันดับที่สามของโลก และเป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ที่เก่าที่สุดเพียงหนึ่งเดียวที่ยังคงมีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ตั้งอยู่ที่กำแพงด้านใต้ของศาลากลางเมืองเก่าของปราก เมื่อใกล้ถึงเวลาที่นาฬิกาจะตีบอกเวลาก็จะเห็นคนมายืนมุงรอดูรอบๆนาฬิกาเต็มไปหมด เราเองพอเดินไปถึงที่จัตุรัสของปรากก็เห็นคนกำลังยืนมุงอยู่พอดี ก็เลยไปยืนมุงดูกับเขาด้วย แดดในเดือนสิงหาคมจ้ามาก เราเลยได้แต่ยื่นมือถือเพื่อถ่ายวิดีโอเก็บไว้ แต่แทบมองไม่เห็นอะไรเลย แล้วก็ไปถ่ายรูปของนาฬิกาดาราศาสตร์นี้เก็บไว้ในตอนกลางคืนที่เดินผ่านอีกครั้งนึง เมื่อถึงเวลาหน้าต่างสีน้ำเงินทั้ง 2 อันด้านบนจะถูกเปิดออก และหุ่นกระบอกของเหล่านักบุญจะหมุนเปลี่ยนตัวไปมาอยู่ด้านในแบบช้าๆ เป็นแบบนี้ซักพัก จากนั้นหน้าต่างก็จะถูกปิดลงอีกครั้ง
ไกด์ชาวปรากที่เราไปเดินทัวร์ฟรี (free walking tour) ในวันต่อๆมา ยังพูดติดตลกกับเราว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่น่าผิดหวังมาก เพราะมายืนตั้งหน้าตั้งตารอดูแต่จริงๆแล้วแทบไม่มีอะไรเลย แค่นี้เองเหรอ! แต่ถ้ามาคิดดูอีกที ย้อนไปที่ปีแรกที่นาฬิกาดาราศาสตร์ปรากนี้เพิ่งสร้างเสร็จนั่นคือในปี 1410 ถึงปัจจุบันก็เป็นเวลา 600 กว่าปีที่แล้ว ก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้คนไม่น้อยเลยนะในตอนนั้น หน้าปัดนาฬิกาด้านบนแสดงการโคจรของพระอาทิตย์และดวงจันทร์ ส่วนหน้าปัดนาฬิกาด้านล่างแสดงถึงเดือนในปัจจุบันได้ รูปปั้นโครงกระดูกที่อยู่ด้านข้างของนาฬิกาเป็นตัวแทนของความตาย ในตำนานของเมืองบอกว่า ต้องคอยรักษานาฬิกาเรือนนี้ให้ทำงานได้ดีอยู่ตลอด เพราะถ้าไม่เป็นเช่นนั้น เมืองปรากอาจจะต้องประสบภัยใดๆได้ นั่นก็คงอาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ The Orloj เป็นนาฬิกาดาราศาสตร์เก่าแก่ที่สุดที่ยังใช้การได้อยู่ในปัจจุบัน
ถนนเซเล็ตน่า (Celetna Street)
คราวนี้เราไปเดินเล่นกันบนถนนในโซนเมืองเก่ากันบ้างดีกว่าค่ะ กับถนนเซเล็ตน่า (Celetna Street) ในอดีตถนนสายนี้เป็นเส้นทางค้าขายของปราก ชื่อถนน “Celetna” ก็เป็นชื่อของขนมปังที่ผลิตในสมัยยุคกลางของที่นี่ และยังเป็นถนนที่สมัยก่อนมีพาเหรดในพิธีส่งมอบมงกุฏแก่รัชทายาทของราชวงศ์อีกด้วย ปัจจุบันถนนสายนี้เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ร้านอาหาร (ที่ราคาค่อนข้างแพง) ผับบาร์ต่างๆก็เยอะมากเพราะที่นี่เบียร์ราคาค่อนข้างถูกพอๆกับประเทศเยอรมัน แถมเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองปาร์ตี้ของคนยุโรปเค้าซะด้วย
ที่เห็นได้เยอะมากอีกอย่างก็คือร้านนวดไทย มองเข้าไปคือฝรั่งกำลังนวดเท้ากันอยู่เพียบ คงเดินดูความสวยงามของปรากกันจนเหนื่อยเมื่อยเหมือนกับเรานี่แหละ แต่สิ่งที่เราชอบมากๆบนถนนสายนี้ก็คือตึกสวยๆที่อยู่รายล้อม และเค้กปล่องไฟ (Chimney cake) ที่จะเห็นได้ว่ามีร้านขายเจ้าเค้กนี้เยอะมากแบบนับไม่ถ้วน มองไปทางไหนก็เจอ คือฮิตสุด! จะไม่ลองกินได้ยังไงกัน
เค้กปล่องไฟ (Chimney cake) แบบธรรมดา 60 CZK (80 บาท)
เค้กปล่องไฟ (Chimney cake) เป็นแป้งยีสต์ทาเนยที่ถูกพันม้วนแล้วย่างด้วยเตาถ่าน ข้างนอกโรยด้วยเกล็ดน้ำตาล จะกินแบบดั้งเดิมหรือเพิ่มเติมด้วยไอศกรีมก็อร่อยทั้งนั้น เราลองกินร้านนี้แล้วเค้าเสิร์ฟให้แบบที่เพิ่งย่างถ่านเสร็จใหม่ๆ แบบเพิ่งแกะออกจากไม้ย่างแล้วเสิร์ฟให้เลย หอม อร่อยมาก กรอบนอกนุ่มในไปอีก พี่ติดใจเลย วันต่อมาเลยไปซื้อกินที่ร้านเดิมอีก คราวนี้เพิ่มเติมด้วยไอศกรีมวนิลา เพราะร้านอื่นดูแฟนซีและแพง เจ้าของร้านจำหน้าเราได้เลยลดให้จาก 5 ยูโรเหลือแค่ 3 ยูโร ใจดีมาก พี่พูดขอบคุณแล้วขอบคุณอีก 😊 เห็นมีขายมากมายแบบนี้ จริงๆแล้วเจ้าขนมนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างฮังการี แต่อร่อย คนชอบเยอะ เลยกลายเป็นของฮิตของนักท่องเที่ยวที่นี่กัน
เค้กปล่องไฟ (Chimney cake) + ไอศกรีมวนิลา 5 ยูโร (170 บาท)
ใครมาปราก ห้ามพลาดลองกินดูเป็นอันขาด แล้วจะติดใจเหมือนพี่ (ตอนเราไปเที่ยวที่เมืองบูดาเบส ประเทศฮังการี เห็นเจ้า เค้กปล่องไฟ Chimney cake นี้ขายอยู่ก็เลยซื้อมาลองกินดูบ้างแต่กลับไม่อร่อยเหมือนที่ปราก! อย่างนึงที่สังเกตได้คือเค้าใช้เครื่องแบบสมัยใหม่ย่าง แต่ร้านที่ปรากที่เรากินและร้านอื่นๆที่เราเห็นขายอยู่หลายร้านก็อย่างแบบเก่าคือใช้ถ่าน) ร้านที่เรากินดัน local มากไม่มีชื่อร้านไปอี๊กเลยหาพิกัดให้ไม่เจอ แต่ถ้าใครเดินไปผ่านถนนนักท่องเที่ยวแล้วเห็นร้านหน้าตาแบบในภาพให้ตรงดิ่งเข้าไปเลยนะคะ บอกลาร้านแฟนซีราคาแพงร้านอื่นกันไปเลย
บนถนนสายนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์แปลกๆคอยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าชมอย่าง พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการทรมานร่างกาย (Museum of torture) หรือพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับผีไว้ก็มี
ร้านขายตุ๊กตาน่ารักๆและของเล่นแปลกๆก็มี
เราเดินบนถนนเซเล็ตน่า (Celetna Street) มาเรื่อยๆจนมาถึงประตูเมืองที่กั้นระหว่างโซนเมืองเก่ากับเมืองใหม่เอาไว้ พยายามออกจากโซนนักท่องเที่ยวเพื่อหาร้านอาหาร local ที่ราคาไม่แพงกินกัน ก็ยังไม่เจอร้านที่ถูกใจอยู่ดี พาเดินกันมาไกลจนถึงสถานีรถไฟ Prague Hlavni Nadrazi ก็มาเจอเข้ากับซุ้มอาหารที่ตั้งอยู่หน้าสถานีรถไฟเต็มเลย เย้! พี่ชอบเลยซุ้มอาหารแบบบ้านเรา ไม่ต้องเสีย Service charge แถมข้างๆยังมีสวนเล็กๆให้นั่งกินได้ด้วย ตอนไปถึงก็เย็นแล้วหลายร้านก็เริ่มปิดตัวลง แต่บางร้านก็ยังเปิดอยู่ แฟนเราเห็นป้ายเขียนว่า Gulas ก็แนะนำให้เราลองกินดูเพราะสายเนื้อแบบเราน่าจะชอบ เพราะมันก็คือซุปเนื้อดีๆนี่เอง
สถานีรถไฟ Prague Hlavni Nadrazi
ซุ้มอาหารหน้าสถานีรถไฟ Prague Hlavni Nadrazi
ซุปกูลาซ (Goulash) 79 CZK (105 บาท) รวมขนมปังฟรี
ฝรั่งเค้ากินขนมปังจิ้มกับเจ้าซุปกูลาซ ส่วนเราก็ตักเนื้อกับซุปกินเบาๆเพราะก่อนหน้านี้มีซื้อสปาเก็ตตี้ในร้านในสถานีรถไฟกินไปแล้วรอบนึง เนื้อนุ่มอร่อยมาก ซุปก็หอมเครื่องเทศ กูลาซ (Goulash) ก็คือซุปหรือสตูเนื้อ ปรุงรสด้วยปาปริกาและเครื่องเทศต่างๆ จริงๆแล้วมีต้นกำเนิดมาจากประเทศฮังการี พอบอกใครๆไว้ว่าเดี๋ยวจะไปเที่ยวฮังการี หนึ่งสิ่งที่ต้องทำเลยก็คือกินซุปกูลาซที่นั่น แต่เป็นอาหารสุดฮิตที่เห็นได้ทั่วไปในยุโรปกลาง ซึ่งที่มาของอาหารชนิดนี้นั้นมาจากคนเลี้ยงแกะในฮังการี ที่พยายามรักษาเนื้อสัตว์ด้วยการตากแดดเก็บไว้ในถุง (ที่ทำจากกระเพาะแพะไปอี๊ก) เวลาจะเอาออกมากินก็เติมน้ำเข้าไป สมัยนี้ก็กลางร่างมาเป็นซุปเนื้อวัวให้เห็นในปัจจุบัน ส่วนของเครื่องเทศนั้นมาใส่เอาทีหลังในศตวรรษที่ 16 หลังจากมีการค้นพบเครื่องเทศในฝั่งตะวันออกเรานั่นเอง กูลาซเนื้อแกะเราก็เห็นว่ามีขายตอนไปเที่ยวไอซ์แลนด์ แต่พอเห็นราคาแล้วก็กินไม่ลงเลยเพราะตั้ง 1,000 บาท แพงมากเด้อ สำหรับใครที่อยากกินอาหารอร่อยๆและราคาไม่แพง เราแนะนำให้มาที่นี่นะคะ อุดหนุนซุ้มอาหารเล็กๆแบบนี้แล้วไปนั่งกินให้สบายใจเฉิบที่สวนข้างๆกัน 🙂
พิกัด/แผนที่ สถานีรถไฟ Prague Hlavni Nadrazi: สถานีรถไฟ Prague Hlavni Nadrazi Google Map
โซนเมืองใหม่ปราก
ชอบตึกนี้ สวย พี่รีบถ่ายรูปเก็บไว้เลย
กินเสร็จเราก็ไปเดินต่อกันที่โซนเมืองใหม่ของปรากกันบ้าง โซนนี้ก็จะยังมีตึกเก่าๆสวยๆให้เห็น แต่พื้นที่นั้นกว้างใหญ่กว่ามากจากการขยายเมือง แต่ที่เห็นเยอะกว่าแน่นอนเลยก็คือเหล่าร้านค้าแบรนด์ดังต่างๆ ใครเป็นสายช้อปก็น่าจะชอบถนนสายนี้กัน
ระบายสีอิฐและร่วมบริจาคเงินให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
ทัวร์ฟรีในปราก (Free walking tour)
Free walking tour เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆได้ลองทำดูหากได้มาเที่ยวในเมืองต่างๆในประเทศยุโรป ยิ่งวันแรกที่มาถึงเลยยิ่งดี เพราะไกด์ท้องถิ่นเค้าจะพาเดินไปรอบๆเมืองและเล่าเรื่องราวของเมือง บุุคคลและสถานที่ที่สำคัญต่างๆไปด้วยระหว่างทางทำให้เราเข้าใจเรื่องราวของเมืองนั้นๆมากขึ้น อินมากขึ้น ข้อมูลบางอย่างอาจจะหาไม่ได้ง่ายๆในอินเทอร์เน็ต แต่ทุกย่างจะเกิดขึ้นเร็วมาก หลังไกด์อธิบายเสร็จก็ต้องเดินเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ อาจจะไม่ได้มีเวลาให้ถ่ายรูปเท่าไหร่ แต่จะก็ได้ความรู้ไปแบบเต็มๆ
รูปปั้นของตัวละครจากนักเขียนชื่อดังของปรากอย่างฟรันทซ์ คัฟคา (Franz Kafka)
Estates Theatre
โคมไฟตามทางเดินที่มีรูปร่างแปลกประหลาดแต่หน้าตาธรรมดานี้เป็นรูปทรงที่คิดค้นขึ้นมาเองโดยคนปรากเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของเขาเอง
ทัวร์ค่อนข้างนาน เลยมีช่วงพักด้วย ไกด์แนะนำให้นั่งพักสั่งเครื่องดื่มของอีกร้านที่ดูแฟนซีมาก เราเลยแอบมาหาร้านเล็กๆไม่ไกลกันนั่งเล่นแทน เลยเพิ่งรู้ว่าเบียร์ที่ปรากถูกมาก! เพราะว่าเขาต้องการเรียกลูกค้าให้เข้าร้านนั่นเอง เครื่องดื่มอย่างอื่นจะแพง
เบียร์ขนาด 0.3 ลิตร ราคา 35 CZK (47 Baht), 0.5 ลิตร 45 CZK (60 ฺBaht)
แล้วก็จะได้เดินไปในที่ที่เราเองอาจจะไม่ได้ไปเพราะไม่รู้หรือเดินไปเองไม่ถึงก็ได้ เราเองลองมาทัวร์ฟรีในปรากครั้งแรก ไกด์พูดเร็วมาก เค้าบอกว่าเรื่องเล่ามันเยอะจนต้องพูดเร็วแบบนี้ไม่งั้นนาน เราฟังแทบจะไม่ทัน แต่นั่นก็ทำให้เราพยายามตั้งใจสิ่งที่ไกด์พูดทุกคำเพื่อทำความเข้าใจ แล้วเค้าก็ไม่ได้เล่าแต่เรื่องสวยๆงามๆเท่านั้น เค้ายังเล่าถึงประวัติศาสตร์ด้านมืด เรื่องราวแย่ๆที่เคยเกิดขึ้น และคนปรากได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์เหล่านั้นบ้าง ซึ่งมันคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราได้ยินจากปากของคนปรากเอง พอจบทัวร์ถูกใจทัวร์มากน้อยแค่ไหนก็ให้ทิปได้เลยตามใจชอบ
อพาร์ทเม้นท์ของนักเขียนชื่อดังของปรากอย่างฟรันทซ์ คัฟคา (Franz Kafka)
ตึกในย่านชาวยิว (Jewish Quarter) สวยมาก
Maisel Synagogue
The Old-New Synagogue
The Old-New Synagogue ที่นี่มีตำนานเล่าว่าร่างของโกเลม (Golem) ถูกทิ้งไว้ที่ห้องใต้หลังคา และในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมีทหารนาซีพยายามเข้าไปที่ห้องนี้แต่กลับเสียชีวิตแทน ซึ่งนาซีพยายามทำลาย Synagogue ของชาวยิวมามากมายในหลายประเทศแต่ Synagogue แห่งนี้ก็รอดมาได้เพราะฮิตเลอร์ต้องการทำเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงการสูญสิ้นชาติพันธุ์ของชาวยิว (ความคิดของเขาช่างโหดร้ายเหลือเกิน) ปัจจุบันที่นี่กลายเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับชาวยิวและปราก
สุสานเก่าของชาวยิวในปราก (Old Jewish Cemetery, Prague) เป็นสุสานที่ทับถมกันเป็นชั้นๆเนื่องจากพื้นที่ที่มีจำกัดและการซื้อพื้นที่สำหรับชาวยิวในสมัยก่อนเป็นเรื่องยาก ซึ่งพื้นที่เล็กๆแบบนี้บรรจุร่างไว้มากถึง 100,000 ราย
ตอนท้ายของทัวร์ฟรีในปราก เรามาหยุดกันที่มหาวิทยาลัยในปราก (Charles University) บนกำแพงของตึกมีรูปปั้นของนักศึกษาที่ชื่อว่า Jan Palach ที่ไกด์เล่าว่าเขาเขียนจดหมายให้ทางรัฐบาลยกเลิกการ censorship เพื่ออิสระของคนในเช็ก จากนั้นเผาตัวเองทั้งเป็นหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราก (National Museum) เพื่อประท้วงรัฐบาลที่ปกครองโดยโชเวียตอย่างไม่เป็นธรรมหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ซึ่งต่อมาก็มีอีกหลายรายกระทำเช่นนี้เพื่อประท้วงเช่นกัน รวมถึงในประเทศฮังการีที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองโดยโซเวียตในสมัยนั้นเช่นกัน เนื่องจากผู้คนในประเทศเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งเพราะถูกปกครองโดยมีพรรคการเมืองเดียวขึ้นเป็นรัฐบาล สำหรับปรากยาวนานถึง 41 ปีจนสิ้นสุดลงในปี 1989 (Velvet Revolution) ปีเดียวกันที่กำแพงเบอร์ลินถูกทำลายลง และประเทศเยอรมันตะวันตกและประเทศเยอรมันตะวันออกได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้งนั่นเอง
รูปปั้นของนักศึกษาที่ชื่อว่า Jan Palach บนกำแพงของตึกมหาวิทยาลัยในปราก (Charles University)
และนี่ก็คืออีกแง่มุมนึงของปรากที่เราได้รู้จากปากของไกด์ท้องถิ่น ถ้าหากไม่ได้มา Free walking tour ในครั้งนี้ก็อาจจะได้เห็นแต่มุมสวยๆงามๆของปรากเพียงด้านเดียว และพลาดเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่เล่าเองโดยคนเช็กไป ทำให้เราได้เห็นอีกด้าน ด้านที่ปรากต้องต่อสู้มากแค่ไหนเพื่ออิสรภาพที่เขามีได้ในทุกวันนี้ ปรากก็ยังเป็นเมืองที่ไม่ได้เพอร์เฟ็คไปซะทุกอย่าง ยังมีคนไร้บ้านมาขอเงินให้เห็นตามสถานที่ท่องเที่ยวอยู่เยอะแยะไม่ต่างจากประเทศเยอรมันที่เราเห็นเลย
จุดนัดพบ Free walking tour ที่โซนเมืองเก่าของปราก (Old Town Square)
เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆที่มาเที่ยวปรากได้มาลอง Free walking tour ที่ปรากดู ชอบใจทัวร์แค่ไหน ก็ให้ทิปไปเท่านั้น! หากใครสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ Free walking tour ที่เราใช้บริการได้เลยที่นี่ค่ะ: neweuropetours.eu
ร้านขายของเล่น Hamleys น่าจะเป็นสวรรค์ของเด็กๆเลยล่ะ เพราะมีหลายชั้นมาก เหมือนเป็นห้างทั้งห้างที่ขายของเล่นอย่างเดียว
ผู้ใหญ่อย่างเราก็ไปเล่นสไลด์เดอร์เสียวๆกับเค้าด้วย
พิกัด/แผนที่ร้าน Hamleys: Hamleys Google Map
เรื่อง: ตรีสุคนธ์ จีระมะกร (ตรี)
ฟรีแลนซ์นักแปล (อังกฤษ <=> ไทย) และนักเขียนคอนเทนต์
อ่านรีวิวเที่ยวปรากด้วยตัวเองตอนก่อนหน้านี้ได้ที่นี่: รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) ตอนที่ 2: สะพานชาลส์ (Charles Bridge) และ ปราสาทปราก (Prague Castle)
อ่านรีวิวเที่ยวปรากด้วยตัวเองตอนต่อไปได้ที่นี่: รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) ตอนที่ 4: กำแพงเลนนอน (Lennon Wall) และบรรยากาศตอนเย็นและกลางคืนของปราก
เช็คราคาตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ-ปรากได้ที่นี่: http://bit.ly/Bangkok-Prague
รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) ตอนที่ 2: สะพานชาลส์ (Charles Bridge) และ ปราสาทปราก (Prague Castle) - Take Me Away
Posted at 13:04h, 29 December[…] อ่านรีวิวเที่ยวปรากด้วยตัวเองตอนต่อไปได้ที่นี่: รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก (Czec… […]
รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) ตอนที่ 4: กำแพงเลนนอน (Lennon Wall) และบรรยากาศตอนเย็นและกลา
Posted at 12:56h, 04 January[…] อ่านรีวิวเที่ยวปรากด้วยตัวเองตอนก่อนหน้านี้ได้ที่นี่: รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก (Czec… […]
เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ประเทศเดนมาร์ก (Denmark) ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีประชากรที่มีความสุขมา
Posted at 16:27h, 27 January[…] free walking tour ครั้งแรกที่ปรากแล้วก็ติดใจ พวกเราเลยมา free walking tour […]