13 Oct 9 วันในศรีลังกา ตอนที่ 6: เงียบสงบที่บาดุลลา
This is my mother land รถไฟกำลังมุ่งหน้าไปสู่ปลายทาง บาดุลลา (Badulla) เมืองที่ถูกมองข้ามจากนักท่องเที่ยวไปเสียสนิท พอคนบนรถไฟไม่ค่อยมี พวกเราเลยป่วนกันได้เต็มที่ ฉันเดินไปตรงรอยต่อของแต่ละโบกี้ที่สามารถโหนราวยืนดูข้างนอกได้ กล้ากลัวๆ แต่ให้ใบหน้าได้ปะทะลมระหว่างที่รถไฟกำลังเคลื่อนไปนี่เป็นอะไรที่ดีจริงๆ อีกฝั่งก็มีชายคนหนึ่งพาคุณลุงท่านหนึ่งมาจับราวแล้วมองออกนอกรถไฟรับลมอยู่เหมือนกันจนคุณลุงหัวเราะออกมาเสียงดัง ดูสนุกและตื่นเต้นมาก ฉันยืนดูจนอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ คุณลุงกับชายคนนั้นหันกลับมาพอดี เขายิ้มให้แล้วก็ชวนพวกเราคุย.. ถามว่าพวกเรามาจากไหน ที่บ้านเมืองคุณมีแบบนี้ไหม แล้วชอบอะไรในศรีลังกาบ้าง? เป็นคำถามที่เขาอยากรู้ว่าคนต่างชาติอย่างเราคิดอย่างไรกับประเทศเขาบ้าง ฉันตอบกลับไปว่ารถไฟสายนี้สวยมาก คนที่นี่ใจดี ธรรมชาติที่นี่ก็อุดมสมบูรณ์สุดๆ ที่ไทยเราไม่ได้มีรถไฟขับผ่านไร่ชาและป่าเขาที่สวยงามขนาดนี้ เขาตั้งใจฟังสิ่งที่เรากำลังบอกและตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มและแววตาแห่งความภาคภูมิใจว่า “This is my mother land” ที่นี่เป็นแผ่นดินบ้านเกิดของเขา! ปลายทาง.. บาดุลลา (Badulla) ในที่สุดเราก็มาถึงที่บาดุลลา (Badulla) อย่างที่พอจะเดากันได้ว่าที่นี่แทบไม่มีนักท่องเที่ยวให้เห็นเลย เราไม่ได้จองที่พักไว้ก่อนล่วงหน้าสำหรับคืนนี้ มีแค่ดู Agoda ไว้คร่าวๆ กะว่าพอออกจากสถานีรถไฟแล้วค่อยเดินตามหาที่พักแถวนั้นกัน พอเดินออกมาก็มีคนขับตุ๊กๆ คนหนึ่งรีบตรงดิ่งเข้ามาคุยกับเรา บอกว่ามีที่พักแนะนำ พาขับไปส่งให้ได้ แต่เราไม่ได้อยากเสียเงินค่าตุ๊กๆ อยากเดินหาเองมากกว่า เลยบอกกับเขาไปว่าเราดูที่พักเอาไว้แล้ว พอโชว์ให้ดู...