Author: threeteatree

ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) คือแหล่งท่องเที่ยวประเทศเยอรมันที่เราอยากไปเที่ยวมากที่สุด เพราะเคยได้ยินมาว่าปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) เป็นปราสาทต้นแบบของปราสาทดิสนีย์! ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองฟุสเซน (Fussen) ซึ่งเมืองใหญ่ที่ใกล้ที่สุดก็คือมิวนิค (Munich) ตัวปราสาทอยู่ไม่ไกลจากชายแดนของประเทศเยอรมันที่ติดอยู่กับเมืองอินส์บรูค (Innsbruck) ประเทศออสเตรียมากนัก เราเลยวางแผนว่าหลังจากที่ไปเที่ยวปราสาทนอยชวานสไตน์แล้ว จะไปหาเพื่อนชาวออสเตรียที่อยู่ในอินส์บรูค (Innsbruck) ต่อซะเลย   ปราสาทนอยชวานสไตน์ รีวิว   พวกเราบินตรงมาจากเมืองบาร์เซโลนา (Barcelona) ประเทศสเปนตอนกลางคืนและมาถึงที่เมืองมิวนิค (Munich) ช่วงเช้าในราคา 45 ยูโร (1,450 บาท) ต่อคน ด้วยการจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ผ่าน Skyscanner เปรียบเทียบราคาในช่วงเวลาที่ต้องการเดินทางและเลือกเที่ยวบินราคาถูก โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นสายการบิน Wizz Air หรือไม่ก็ Ryan Air สำหรับการเดินทางในยุโรป จากนั้นพวกเราก็ซื้อตั๋วรถไฟที่เครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติหน้าสถานี ซึ่งสถานีรถไฟนั้นเชื่อมต่อกับสนามบินมิวนิค (Munich International Airport) โดยตรงเลย...

Paco Meralgo ร้านอาหารแนะนำในบาร์เซโลนาที่เรารู้จักมาจากเพื่อนของแฟนอีกทีนึง เพราะเค้าชอบอาหารของทางร้านจนเขียนบล็อกถึงร้านนี้เอาไว้ด้วย แถมร้านยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเราพอดี เย็นวันนึงพวกเราเลยเดินตามหาร้านนี้กัน พอมาถึง ก็เดินตรงดิ่งเข้าไปในร้านเพื่อหาที่นั่ง แต่ที่ร้านยุ่งมาก ที่นั่งเต็มเอี๊ยด พนักงานก็เดินกันวุ่น เค้าก็เลยให้พวกเราไปรอหน้าร้านกันก่อนแล้วจะเรียกพอมีที่นั่งว่างแล้ว ซักพักก็เริ่มมีคนมารอคิวเพิ่ม บางคนก็ถือแก้วไวน์ ดื่มไปคุยไปกันที่หน้าร้าน พวกเราเลยเอาบ้าง สั่งไวน์มาจิบรอคิวหน้าร้านซะเลย แต่ไม่นานนักก็ถึงคิวของพวกเราพอดี Paco Meralgo เป็นร้านที่ไม่ได้ใหญ่มาก มีที่นั่งแบบเค้าเตอร์เล็กๆ อยู่เป็นส่วนใหญ่ อีกฝั่งที่เป็นโต๊ะใหญ่ก็ถูกจองไว้เป็นที่สังสรรค์ของกลุ่มพนักงานบริษัทไปแล้ว พวกเราได้ที่ว่างตรงโซนที่เป็นโต๊ะเค้าเตอร์เล็กๆ แม้พื้นที่จะน้อย และมีเสียงคุยของแขกในร้านเป็นระยะ แต่เรากลับไม่รู้สึกอึดอัดเลยซักนิด ด้านล่างโต๊ะก็มีที่ให้แขวนกระเป๋าด้วย พนักงานก็สุภาพ มาถึงก็จัดจานพร้อมยื่นเมนูให้ด้วยความรวดเร็ว เมนูมีแค่หน้าเดียวแต่พวกเราคิดกันอยู่นานเลยว่าจะกินอะไรดี เพราะมันน่ากินไปซะหมด! เมนูร้าน PACO MERALGO  Chunks of black pepper beef fillet เราเห็นในเมนูคำว่า "for meat lovers" ก็รีบหันไปดูเลยว่ามีเมนูอะไรบ้าง หลายวันมานี้อยากกินสเต๊กเนื้อมากก็เลยสั่งเป็น Chunks...

บาดาโลนา (Badalona) เป็นอีกเมืองที่อยู่ห่างจากบาร์เซโลนา (Barcelona) เพียงแค่ 11 กิโลเมตรเท่านั้น เมืองนี้มีดีที่เป็นเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พวกเรามีเวลาในสเปนทั้งหมดประมาณ 4 วันด้วยกัน เราใช้เวลา 2 วันเต็มๆ ดื่มด่ำไปกับผลงานสถาปัตยกรรมของเกาดี (Gaudi) ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาเยือนอย่างซากราดาฟามิเลีย (Sagrada Familia) ปาร์ค กูเอล (Park Guell) และคาซามิลา (Casa Mila) อีก 1 วันเราใช้เวลาไปกับการนั่งเขียนบล็อกในคาเฟ่แถวที่พัก และอีก 1 วันเราตั้งใจไว้ว่าจะไปเดินเล่นชายทะเลที่นี่แบบชิวๆ มาเที่ยวประเทศสเปนที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทั้งที จะไม่พาตัวเองไปสูดอากาศริมทะเลซะหน่อยก็คงจะรู้สึกว่าเหมือนพลาดอะไรดีๆ ไป พวกเราเลือกที่จะหลีกหนีโซนนักท่องเที่ยวที่ชายหาดชื่อดังในบาร์เซโลนา มาเดินเล่นแถวชายทะเลที่ใกล้กับที่พักในบาดาโลนาแทน เดินไปจนถึงชายหาดก็บังเอิญเจอเข้ากับร้านขายอาหารริมทะเลน่านั่งอยู่ร้านนึง พวกเราเลยนั่งเล่นที่นี่กัน ร้านนี้มีชื่อว่า WAYRA เป็นแค่ร้านเล็กๆ แต่น่ารักมาก แถมตั้งอยู่ริมทะเลในมุมที่เราสามารถกินไป นั่งมองวิถีชีวิตของชาวสเปนริมชายหาดแถวนี้ไปได้ด้วย และที่สำคัญที่สุดเลยก็คืออาหารของที่ร้านอร่อยมาก! เราสั่ง...

คาซา มิลา (Casa Mila) หรือลา เปเดอรา (La Pedrera) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เราค้นหาข้อมูลที่เที่ยวบาร์เซโลนาแล้วอยากไป เป็นเพียงแค่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง แต่ปัจจุบันกลายเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของบาร์เซโลนาเนื่องจากเป็นอีกหนึ่งผลงานของเกาดี (Gaudi) โดยยังคงความแปลกในแบบฉบับของเค้า แต่ด้านในกลับซ่อนความสวยงามที่ได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติอีกเช่นเคย ในวันเดียวกัน ช่วงบ่ายเราไปเที่ยวปาร์ค กูเอล (Park Guell) สวนสาธารณะเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเขา เมื่อมองมาด้านล่าง สามารถเห็นวิวของเมืองบาร์เซโลนาคู่กับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้ ส่วนช่วงเช้าเราแวะมาเที่ยวที่คาซา มิลา (Casa Mila) ในย่าน Passeig de Gràcia หนึ่งในย่านที่เรียกได้ว่าชิคที่สุดในบาร์เซโลน่าตั้งแต่ช่วงปี 1900 เป็นย่านเศรษฐกิจ เต็มไปด้วยเหล่าร้านอาหาร คาเฟ่ โรงหนัง และร้านค้ามากมาย ตึกใหม่ๆ หลายแห่งพากันแย่งขึ้นเต็มไปหมดในยุคนั้น คาซา มิลา (Casa Mila) สร้างมาตั้งแต่ปี 1906 -...

ปาร์ค กูเอล (Park Guell) เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เราตั้งใจจะไปเมื่อเดินทางมาถึงเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ส่วนสถานที่แรกที่เราไปมาแล้วก็คือซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) โบสถ์ขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่ไม่เหมือนโบสถ์ที่ไหนในโลก ฝีมือของเกาดี (Gaudi) สถาปนิกชื่อดัง หากลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในบาร์เซโลนา เหล่าอาคารสถาปัตกรรมต่างๆ ที่ถูกออกแบบโดยสถาปนิกคนนี้จะขึ้นโชว์มาเป็นแถวๆ หนึ่งในนั้นก็คือปาร์ค กูเอล (Park Guell) สวนเก่าแก่บนเขาคาร์เมล (Carmel) กลางเมืองบาร์เซโลนาแห่งนี้นั่นเอง มุมนี้คือมุมฮิตที่ถูกใช้เป็นรูปโฆษณาที่น่าจะเห็นกันอยู่บ่อยๆ ต้องเดินเข้ามาในสวนซักพักเลย กว่าจะถึงทางเข้าจริงๆ ที่มีพนักงานยืนรอเช็คตั๋วอยู่ จากนั้นให้เดินเข้าไปทางซ้ายมือที่เป็นบริเวณของเก้าอี้เซรามิกยาวบนพื้นที่ขนาดกว้าง พร้อมกับนักท่องเที่ยวที่กำลังนั่งเล่นอยู่ที่นี่เยอะมาก จากมุมนี้เราสามารถเห็นวิวของเมืองบาร์เซโลนาได้อย่างกว้างขวางแถมยังเห็นวิวทะเลอยู่ไกลๆ ด้วย ตอนเราไปเค้ากำลังปิดปรับปรุงบางส่วนอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยงามของที่นี่ลดน้อยลงไปเลย เพราะเสน่ห์ของที่นี่คือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่มีอยู่ในทุกซอกทุกมุมจริงๆ มุมนี้มีคิวคนยืนรอถ่ายรูปคู่เยอะมาก โดยเฉพาะสาวๆ เราเลยแอบขยับมาอีกหน่อย จะได้ถ่ายได้เลย ไม่ต้องรอนานเพียงเพราะแค่อยากได้รูป ฮ่าๆ ปาร์ค กูเอล (Park Guell) เป็นสวนที่มีความเก่าแก่มาก สร้างมาตั้งแต่ปี...

ซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia) เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในเมืองบาร์เซโลนา (Barcelona) ประเทศสเปน (Spain) ในปัจจุบัน ใช้เวลาสร้างนานกว่าชั่วอายุคน ปัจจุบันผ่านมากว่า 137 ปีก็ยังไม่แล้วเสร็จ แม้ศิลปินผู้ออกแบบอย่าง 'เกาดี' จะจากโลกนี้ไปแล้วกว่า 93 ปี เขาได้ใช้ชีวิตบั้นปลายทุ่มเทให้กับผลงานชิ้นนี้เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น "My good friends are dead; I have no family and no clients, no fortune nor anything. Now I can dedicate myself entirely to the Church" เกาดี (Gaudi) มีชื่อเต็มๆว่า แอนโทนี...

เที่ยวเมืองโคโลญ (Cologne) คงไม่สมบูรณ์ถ้าไม่ได้พูดถึงมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ซึ่งเป็นจุดหมายของเราในการกลับมาเที่ยวเยอรมันในครั้งนี้ แต่ความตั้งใจจริงๆของเราคือการมาเยี่ยมเพื่อนสนิทของแฟนชาวเยอรมันที่อาศัยอยู่ที่นี่ต่างหาก (เราเลยประหยัดค่าที่พักไปได้ตั้ง 3 คืนด้วย เย่!) พวกเราเดินทางมาที่เมืองโคโลญด้วยเครื่องบินจากเมืองคราคลุฟ (Krakow) ประเทศโปแลนด์ (Poland) หลังจากแวะไปที่พิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ (Auschwitz concentration camp museum) ในราคาประมาณ 50 ยูโร (1,700 บาท) ต่อคนผ่านการค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกผ่าน Skyscanner ลานทรายสำหรับเด็กที่หน้าอพาร์ทเมนต์ของเพื่อนชาวเยอรมัน สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในเมืองโคโลญ (Cologne) Chocomel เป็นเครื่องดื่มช็อกโกแลตที่เราชอบมากตั้งแต่ตอนไปเที่ยวเนเธอร์แลนด์แล้ว เพิ่งรู้ว่ามีขายที่เยอรมันด้วย! พวกเราเหนื่อยกันมากกว่าจะพากันแบกกระเป๋าเป้หนักๆและหาทางเดินจากสถานีรถไฟไปที่ที่พักของเพื่อนได้ถูก พอไปถึงแฟนของเพื่อนที่เพิ่งกลับมาจากงานประจำก็ต้อนรับพวกเราด้วยรอยยิ้ม เธอกำลังเตรียมอบพิซซ่าที่ทำด้วยตัวเองที่บ้านสำหรับมื้อเย็นของพวกเราอยู่พอดีเลย เพียงแค่ต้องรอเพื่อนของแฟนเราที่ต้องเดินทางมาจากอีกเมืองด้วยรถไฟเท่านั้น เพราะพวกเขากำลังจะไปเที่ยวอิตาลีด้วยกันเร็วๆนี้ เราเองก็อยากกินพิซซ่าที่อิตาลีกับเขาบ้าง! เที่ยวเมืองโคโลญ (Cologne): มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) โบสถ์ใหญ่มาก ถ่ายรูปยังไงก็เก็บไม่หมด เมืองโคโลญเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศเยอรมันรองมาจากเมืองเบอร์ลิน ฮัมบูร์ก...

เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ในครั้งนี้เกิดจากการที่เราอยากไปคริสเทเนีย (Christiania) ชุมชนอิสระที่ตั้งอยู่ในเมืองนี้ เลยเป็นเหมือนผลพลอยได้จากความตั้งใจแรกนี้ซะมากกว่า แต่จากการที่ได้มาโคเปนเฮเกนในครั้งนี้ก็ทำให้เราหายสงสัยเลยว่า.. ทำไมประเทศเดนมาร์กถึงได้ขึ้นชื่อว่ามีประชากรที่มีความสุขมากที่สุดในโลก สถานีกลางโคเปนเฮเกน (Copenhagen Central Station) เที่ยวโคเปนเฮเกน (Copenhagen): รีวิวบินภายในยุโรปกับสายบินประหยัดอย่าง Ryanair และ Wizzair ตั๋วเครื่องบินบินภายในยุโรปราคาถูกมากอย่างไม่น่าเชื่อ! เพราะมีสายการบินราคาประหยัดคอยให้บริการอย่าง Ryanair และ Wizzair พวกเราเช็คราคาและจองตั๋วเครื่องบินผ่าน Skyscanner บินจากปราก (Prage) มาลงที่โคเปนเฮเกน (Copenhagen) กับ Wizzair ในราคาคนละประมาณ 1,100 บาทเท่านั้น! ที่ได้ราคานี้มาก็เพราะว่าไม่ได้ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม ซึ่งจะถือขึ้นเครื่องได้แค่ใบเดียว น้ำหนักต้องไม่เกิน 10 กิโลกรัม และต้องมีขนาดไม่เกิน 40 x 30 x 20 เซนติเมตร พนักงานของสายการบินจะคอยยืนมองกระเป๋าผู้โดยสารตอนกำลังตรวจตั๋วขึ้นเครื่องกันเลย เวลาเช็คอินเราเลยต้องลุ้นตัวโก่งเลยว่าจะรอดไหมกระเป๋าของคนไหนดูใบใหญ่ๆก็จะโดนเรียก...

คริสเทเนีย (Christiania) เป็นชื่อของชุมชนแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงโคเพนเฮเกน (Copenhagen) เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ก (Denmark) ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลกในปี 2019 ที่เพิ่งผ่านมานี้ เราได้ยินชื่อของที่นี่ครั้งแรกจากรายการโปรดอย่างรายการพื้นที่ชีวิต (Life Explorer) ในตอน คริสเทเนีย วิถีเสรีชน ที่ได้เล่าเรื่องราวของสถานที่ ผู้คน และวิถีชีวิตของพวกเขาในชุมชนอิสระแห่งนี้ไว้ได้อย่างน่าสนใจ ที่ๆให้ความสำคัญอย่างมากต่อ "อิสรภาพ" ในการใช้ชีวิต ทางเข้าคริสเทเนียจากบริเวณด้านหลัง ใกล้กับทะเลสาบ คำพูดนึงของคุณเอเมอร์ริค ชาวคริสเทเนียคนนึงที่เราได้ฟังจากวิดีโอตอนนั้นที่เราชอบมาก นั่นก็คือ "ผมไม่เห็นด้วยกับการยึดถือครอบครอง อากาศ น้ำ และผืนแผ่นดิน นั่นเป็นแนวคิดที่ผิดพลาดอย่างสิ้นเชิง การที่ใครก็ตามถือสิทธิ์เป็นเจ้าของแผ่นดินผืนนี้ ผืนนั้น เป็นเรื่องที่แย่มาก และผมเห็นว่าระบบที่ธุรกิจการค้า การตลาดกำลังเป็นพระเจ้าดังที่เป็นอยู่ในสังคมตะวันตก เป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างยิ่ง และสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ทำลายเราทั้งหมดในที่สุด เพราะเรากำลังวัดทุกอย่างด้วยเงิน ถ้าเราวัดสิ่งต่างๆด้วยเงิน เราก็จะปิดโอกาสของหัวใจ เราควรจะวัดความสำเร็จของกิจกรรมต่างๆโดยดูว่าสิ่งนั้นมันดีกับชุมชน สังคม หรือช่วยทำให้โลกใบนี้อยู่รอดปลอดภัยมากขึ้นไหม ปัจจุบันเงินส่วนใหญ่มาจากการขุดเจาะผืนดิน สูบเอาน้ำมัน เอาน้ำ...

ถึงจะผ่านช่วงวันปีใหม่กันมาเป็นอาทิตย์แล้วก็ตาม อย่างไร Takemeaway.life ก็ขอสวัสดีปีใหม่ 2563 ถึงผู้อ่านทุกคนด้วยนะคะ ขอให้เป็นปีที่ดีขึ้นกว่าเดิมสำหรับทุกคนเลย ส่วนเราเองก็จะขยันให้มากขึ้นในปีนี้เพื่อส่งต่อเรื่องราวดีๆผ่านบล็อกของเราให้กับผู้อ่านต่อไปค่ะ เพียงแค่กดไลค์กดแชร์บล็อกของ Takemeaway.life เพียงเท่านี้ก็เป็นกำลังใจได้อย่างมากต่อผู้เขียนให้มีแรงเขียนบล็อกอีกเยอะๆแล้วล่ะค่ะ :) บล็อกแรกในปี 2563 นี้ เราจะมาประเดิมด้วยไอเท็มที่ควรมีติดบ้าน 5 อย่างที่ฮิตสุดในพ.ศ.นี้ ปี 2563 ของอะไรที่ควรมีติดบ้านไว้ถึงจะดี หรือหากใครยังไม่ได้ซื้อของขวัญปีใหม่ให้กับเพื่อนๆหรือคนที่บ้าน เราลองมาดูรายชื่อของสิ่งของต่อไปนี้เพื่อเป็นไอเดียไปพร้อมๆกันเลยค่ะ 1. เครื่องชงชาหรือกาแฟสด (Coffee plunger, French Press) ไอเท็มแรกเป็นไอเท็มที่เราใช้อยู่ที่บ้านเป็นประจำเลยนั่นก็คือเครื่องชงชาหรือกาแฟสดที่เรียกว่า Coffee plunger หรือ French Press ค่ะ เจ้าเครื่องชงนี้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์เล็กๆแต่เป็นของที่จิ๋วแต่แจ๋วมาก ประกอบไปด้วยแก้วพร้อมที่จับเพื่อความสะดวกและกันความร้อน และลูกสูบขนาดเล็กไว้ใช้กดลงมาเพื่อแยกส่วนที่เป็นกากของใบชาหรือผงกาแฟแยกออกจากน้ำ เพื่อเทออกไปชงใส่นม ครีม น้ำตาลอะไรต่อก็ได้ตามใจชอบ พอมีเจ้าไอเท็มนี้แล้ว ใครที่ชอบดื่มชาแบบเราก็ฟินเลยเพราะชงชาดื่มเองที่บ้านได้แบบไม่อั้น ไม่ต้องคอยออกไปซื้อชาข้างนอกอยู่บ่อยๆ หรือเสียตังค์เยอะให้กับเครื่องดื่มราคาแพงตามคาเฟ่หรือร้านค้าต่างๆ แค่ชงชาหรือกาแฟและนั่งทำงานอยู่ที่บ้านก็ได้...