เที่ยวเยอรมันด้วยตัวเอง Tag

ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) คือแหล่งท่องเที่ยวประเทศเยอรมันที่เราอยากไปเที่ยวมากที่สุด เพราะเคยได้ยินมาว่าปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein castle) เป็นปราสาทต้นแบบของปราสาทดิสนีย์! ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองฟุสเซน (Fussen) ซึ่งเมืองใหญ่ที่ใกล้ที่สุดก็คือมิวนิค (Munich) ตัวปราสาทอยู่ไม่ไกลจากชายแดนของประเทศเยอรมันที่ติดอยู่กับเมืองอินส์บรูค (Innsbruck) ประเทศออสเตรียมากนัก เราเลยวางแผนว่าหลังจากที่ไปเที่ยวปราสาทนอยชวานสไตน์แล้ว จะไปหาเพื่อนชาวออสเตรียที่อยู่ในอินส์บรูค (Innsbruck) ต่อซะเลย   ปราสาทนอยชวานสไตน์ รีวิว   พวกเราบินตรงมาจากเมืองบาร์เซโลนา (Barcelona) ประเทศสเปนตอนกลางคืนและมาถึงที่เมืองมิวนิค (Munich) ช่วงเช้าในราคา 45 ยูโร (1,450 บาท) ต่อคน ด้วยการจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ผ่าน Skyscanner เปรียบเทียบราคาในช่วงเวลาที่ต้องการเดินทางและเลือกเที่ยวบินราคาถูก โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นสายการบิน Wizz Air หรือไม่ก็ Ryan Air สำหรับการเดินทางในยุโรป จากนั้นพวกเราก็ซื้อตั๋วรถไฟที่เครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติหน้าสถานี ซึ่งสถานีรถไฟนั้นเชื่อมต่อกับสนามบินมิวนิค (Munich International Airport) โดยตรงเลย...

เที่ยวเมืองโคโลญ (Cologne) คงไม่สมบูรณ์ถ้าไม่ได้พูดถึงมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ซึ่งเป็นจุดหมายของเราในการกลับมาเที่ยวเยอรมันในครั้งนี้ แต่ความตั้งใจจริงๆของเราคือการมาเยี่ยมเพื่อนสนิทของแฟนชาวเยอรมันที่อาศัยอยู่ที่นี่ต่างหาก (เราเลยประหยัดค่าที่พักไปได้ตั้ง 3 คืนด้วย เย่!) พวกเราเดินทางมาที่เมืองโคโลญด้วยเครื่องบินจากเมืองคราคลุฟ (Krakow) ประเทศโปแลนด์ (Poland) หลังจากแวะไปที่พิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์ (Auschwitz concentration camp museum) ในราคาประมาณ 50 ยูโร (1,700 บาท) ต่อคนผ่านการค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกผ่าน Skyscanner ลานทรายสำหรับเด็กที่หน้าอพาร์ทเมนต์ของเพื่อนชาวเยอรมัน สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในเมืองโคโลญ (Cologne) Chocomel เป็นเครื่องดื่มช็อกโกแลตที่เราชอบมากตั้งแต่ตอนไปเที่ยวเนเธอร์แลนด์แล้ว เพิ่งรู้ว่ามีขายที่เยอรมันด้วย! พวกเราเหนื่อยกันมากกว่าจะพากันแบกกระเป๋าเป้หนักๆและหาทางเดินจากสถานีรถไฟไปที่ที่พักของเพื่อนได้ถูก พอไปถึงแฟนของเพื่อนที่เพิ่งกลับมาจากงานประจำก็ต้อนรับพวกเราด้วยรอยยิ้ม เธอกำลังเตรียมอบพิซซ่าที่ทำด้วยตัวเองที่บ้านสำหรับมื้อเย็นของพวกเราอยู่พอดีเลย เพียงแค่ต้องรอเพื่อนของแฟนเราที่ต้องเดินทางมาจากอีกเมืองด้วยรถไฟเท่านั้น เพราะพวกเขากำลังจะไปเที่ยวอิตาลีด้วยกันเร็วๆนี้ เราเองก็อยากกินพิซซ่าที่อิตาลีกับเขาบ้าง! เที่ยวเมืองโคโลญ (Cologne): มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) โบสถ์ใหญ่มาก ถ่ายรูปยังไงก็เก็บไม่หมด เมืองโคโลญเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศเยอรมันรองมาจากเมืองเบอร์ลิน ฮัมบูร์ก...

เที่ยวเมืองเดรสเดน (Dresden) ใน 1 วัน เดรสเดน (Dresden) เป็นเมืองในประเทศเยอรมันที่ถูกทำลายอย่างหนักจากระเบิดของกองทัพอากาศอเมริกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พอๆกับเมืองโคโลญจน์ (cologne) แต่ผู้คนในเมืองร่วมด้วยช่วยกันทำให้เมืองนี้ได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เดรสเดนที่เราเห็นในวันนี้จึงกลายเป็นเมืองที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย มีร้านขายของที่ระลึกที่ขายของตกแต่งสำหรับเทศกาลคริสต์มาสน่ารักๆกันตั้งแต่เดือนสิงหาคม มีตึกสวยรายล้อมอยู่หลายหลัง และมีโบสถ์ที่สวยงามและขนาดใหญ่มากตั้งตระหง่านอยู่ตรงใจกลางเมืองเปรียบเหมือนกับหัวใจของเมืองนี้ นั่นก็คือโบสถ์แม่พระเดรสเดิน (Dresden Frauenkirche, เดรสเดินเฟราเอินเคียร์เชอ) เป้าหมายที่เราตั้งใจมากันในวันนี้นั่นเอง ภาพตรงหน้าที่ได้เห็นในตอนนี้ลบภาพความจริงที่เคยเกิดขึ้นไปเลยว่า โบสถ์หลังนี้เคยถูกระเบิดพังจนแทบไม่เหลือชิ้นดีมาก่อน โบสถ์แม่พระเดรสเดน (Dresden Frauenkirche) ในปัจจุบัน August 2019 โบสถ์แม่พระเดรสเดน (Dresden Frauenkirche) ที่ถูกทำลายอย่างหนัก ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บนโปสต์การ์ดในร้านขายของที่ระลึกในเมืองเดรสเดน วันนี้เรามาเที่ยวเมืองเดรสเดน (Dresden) เป็นเวลา 1 วันกับครอบครัวของพี่สาวแฟนกัน โดยขับรถมาจากเมืองไลพ์ซิก (Leipzig) ซึ่งเดรสเดน (Dresden) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ในรัฐแซกโซนี รองมาจากเมืองไลพ์ซิก...

เที่ยวไลพ์ซิกด้วยตัวเอง: บ้านเล็กในสวนของคนไลพ์ซิก ที่พักอาศัยของคนไลพ์ซิกในประเทศเยอรมันส่วนใหญ่จะเป็นอพาร์ทเม้นท์ที่มีขนาดเล็กและใหญ่ต่างกันออกไป ซึ่งภายในอพาร์ทเม้นท์นั้นจะถูกแบ่งออกอย่างเป็นสัดส่วน มีทั้งห้องนอน ประมาณ 2-3 ห้อง ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว โต๊ะกินข้าว และมีส่วนของบาร์โคนี่ด้านนอกอยู่ด้วย ซึ่งเป็นบริเวณที่คนเยอรมันเค้าเอาไว้นั่งสังสรรค์กับเพื่อนๆหรือครอบครัวเวลาพวกเขามาเยี่ยมที่บ้าน ดื่มเบียร์กันตามประสาคนเยอรมันพร้อมทั้งปิ้งบาร์บีคิวอร่อยๆกินกันไปด้วย ด้วยการที่ลักษณะของที่พักอาศัยถูกเปลี่ยนจากบ้านมาเป็นอพาร์ทเม้นท์แทนเพราะมีประชากรในพื้นที่ในไลพ์ซิกเยอะมากขึ้น ก็เลยเกิดพื้นที่ของบ้านเล็กในสวนของคนไลพ์ซิกอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วเมือง ซึ่งเกิดจากการปล่อยให้เช่าพื้นที่เพื่อสร้างสวนของตัวเองขึ้นมาได้ในราคาถูกมากประมาณ 240 ยูโร (8,000 บาท) ต่อปีเท่านั้น หรือราคาถูกกว่านี้ก็มี ใครไปเที่ยวที่เมืองนี้อาจจะสังเกตเห็นสวนต่างๆในพื้นที่กว้างแบบนี้อยู่หลายแห่งตอนนั่งรถไฟหรือเวลาเดินผ่านตามตรอกซอกซอยต่างๆของโซนที่อยู่อาศัยของคนที่นี่ พื้นที่สวนแบบนี้ถูกทำขึ้นมาจากกลุ่มคนที่รวมตัวกันจัดตั้งองค์กรให้เช่าพื้นที่ทำสวนเพื่อทำให้ในเมืองยังคงมีพื้นที่สีเขียวแบบนี้อยู่ พร้อมตอบสนองความต้องการของคนไลพ์ซิกที่ยังอยากมีสวนเล็กๆเป็นของตัวเองไว้ปลูกดอกไม้ ต้นไม้ และพืชผักผลไม้ที่ตัวเองต้องการได้ แม้จะไม่มีบ้านเป็นหลังๆก็ยังสามารถมีพื้นที่สวนแบบนี้ไว้สร้างบ้านไม้หลังเล็กๆไว้เก็บอุปกรณ์ทำสวน มีพื้นที่สำหรับตั้งโต๊ะบาร์บีคิวไว้สังสรรค์กับเพื่อนและครอบครัวในช่วงซัมเมอร์ได้ด้วย เราว่าเป็นความคิดที่ดีมากๆ ทำให้ไลพ์ซิกเป็นเมืองไม่ได้มีแต่ตึกอพาร์ทเม้นท์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเมืองที่น่าอยู่ เพราะมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่แบบนี้อยู่ทั่วเมืองมากกว่า 50 แห่ง ! เที่ยวไลพ์ซิกด้วยตัวเอง: วัฒนธรรมการกินของคนเยอรมัน เราเคยเล่าเกี่ยวกับอาหารเช้าของคนยุโรปไว้ใน แชร์ประสบการณ์ใช้ชีวิต 1 อาทิตย์ในบ้านคนดัตช์ ซึ่งอาหารเช้าของทั้งคนดัตช์และคนเยอรมันเองก็ไม่ได้ต่างกันเลยค่ะ แต่ละบ้านจะมีเครื่องชงกาแฟอย่างดีติดบ้านไว้เพราะคนยุโรปเขาชอบดื่มกาแฟกันมาก วันๆนึงดื่มกันหลายแก้วเลยทั้งเช้า กลางวัน เย็น...

Schulanfang เป็นภาษาเยอรมัน แปลว่า Back to school ซึ่งเป็นชื่อเรียกของวันแรกที่เด็กๆจะต้องเข้าเรียนเกรด 1 หรือราวๆ ประถมศึกษาปีที่ 1 ในไทย เมื่อเด็กมีอายุประมาณ 6-7 ปี หากนึกถึงการเข้าโรงเรียนวันแรกแล้ว เราคงนึกภาพได้ยินเสียงของเด็กร้องไห้ หรือหน้าตาของเด็กๆที่ไม่มีความสุขในการไปโรงเรียนกันของเด็กๆเป็นแถวเลยใช่ไหมล่ะค่ะ แต่ที่ประเทศเยอรมันไม่ใช่ ! เพราะที่นี่มีธรรมเนียมหนึ่งที่น่าสนใจมากที่ทำให้เรื่องของการเข้าโรงเรียนวันแรกกลายเป็นเรื่องที่น่ายินดี ! Schultueten Baum (Schoolcone tree) ต้นไม้แขวนกรวย ให้เด็กๆไปสอยเอากรวยของตัวเองที่มีป้ายชื่อตัวเองแปะอยู่ โดยก่อนหน้าวันที่ต้องเริ่มเรียนจริงๆ ช่วงเช้าเด็กนักเรียนและพ่อแม่จะไปที่โรงเรียนด้วยกันเพื่อทำความรู้จักโรงเรียน คุณครู เพื่อนร่วมคลาส และปาร์ตี้ ! จะยังไม่มีการเรียนการสอนเกิดขึ้นเลยทันทีในวันแรก พ่อกับแม่จะเตรียมของขวัญให้เป็น Schultüte ซึ่งก็คือห่อของขวัญรูปกรวยที่มีสีสันสดใสหรือลวดลายต่างๆ หาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องเขียนหรือซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป มาใส่ขนมหวานๆ ลูกอม ช็อกโกแลตที่เด็กๆชอบเข้าไปจนเต็ม เพื่อเป็นของขวัญแสดงความยินดีในการเข้าเรียนวันแรกของพวกเค้าในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี เด็กเยอรมันจะต้องมีรูปคู่ถ่ายกับ Schultüte กันแทบทุกคนเพราะธรรมเนียมนี้มีมายาวนานตั้งแต่ปี 1810...

เที่ยวไลพ์ซิกด้วยตัวเอง: เที่ยวสวนสัตว์ไลพ์ซิก (Zoo Leipzig) ตอนแรกที่เราโดนชวนไปเที่ยวสวนสัตว์ไลพ์ซิก (Zoo Leipzig) ตอนที่อยู่เยอรมันก็เฉยๆมาก หากย้อนไปซัก 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนที่ยังคงเป็นเด็กอยู่ก็อาจจะตื่นเต้นกว่านี้ แต่แฟนบอกว่าที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนสัตว์ที่ดีที่สุดเป็นอันดับต้นๆของยุโรปเชียวนะ ! ได้ฟังแบบนี้แล้วก็ค่อยน่าสนใจขึ้นมาหน่อย อยากรู้เหมือนกันว่าสวนสัตว์ที่เค้าว่าดีเป็นแบบไหนกัน มาลองคิดดูดีๆ เราเคยไปแต่สวนสัตว์ในไทยเท่านั้น น้อยครั้งแบบนับได้เลย อย่างที่เป็นที่รู้จักกันดีอย่างสวนสัตว์ดุสิต ซาฟารีเวิลด์ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว และสวนสัตว์นครราชสีมาที่ไปมาก็เมื่อนมนานมาแล้ว แถมเป็นกิจกรรมที่ดีสำหรับเด็กๆด้วย เพราะวันนี้เราจะไปเที่ยวกับพี่สาวของแฟนและลูกๆของเธอกัน พอได้ไปสัมผัสด้วยตัวเองดูแล้ว ก็สมแล้วล่ะที่สวนสัตว์แห่งนี้จะขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสวนสัตว์ที่ดีที่สุดในยุโรป เรามองว่าที่นี่เป็นมากกว่าสวนสัตว์ เป็นเหมือนสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่สำหรับเด็ก และเป็นสถานที่ที่เหมาะมากสำหรับการใช้เวลาด้วยกันภายในครอบครัว ยิ่งพาเด็กๆมาเที่ยวด้วยแล้ว พวกเค้าจะต้องชอบสวนสัตว์แห่งนี้อย่างแน่นอน :) ประตูทางเข้าสวนสัตว์ไลพ์ซิก (Zoo Leipzig) เคาน์เตอร์ซื้อตั๋วจะอยู่บริเวณซ้ายมือเมื่อเดินผ่านประตูทางเข้าสวนสัตว์ไลพ์ซิก (Zoo Leipzig) มา ราคาค่าตั๋วเข้าสวนสัตว์ไลพ์ซิก (Zoo Leipzig): ช่วงหน้าร้อน 21 มีนาคม - 31 ตุลาคม:...

รีวิวเที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ด้วยตัวเอง: ชวนพายเรือแคนูผ่านแม่น้ำ 4 สายในไลพ์ซิก Pleiße, Elsterflutbett, White Elster และ Karl-Heine-Kanal หลังจากอยู่ที่เบอร์ลินมาเป็นเวลา 1 อาทิตย์ ก็ได้เวลาเดินทางไปยังเมืองต่อไป "ไลพ์ซิก (Leipzig)" ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ทางใต้ของเบอร์ลิน ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้วค่ะ เราเดินทางด้วย Flixbus เจ้าเก่าเหมือนเดิม (สามารถอ่านวิธีซื้อตั๋วรถบัสได้ที่บล็อกรีวิว Flixbus ) ชื่อเมืองอาจจะไม่ค่อยคุ้นกันเท่าไหร่แต่ถ้าใครชอบดูฟุตบอลก็น่าจะพอคุ้นๆหูกันบ้างเพราะเค้ามีทีมฟุตบอลเป็นของตัวเองแล้วค่อนข้างประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักระดับนึงเลยทีเดียว ที่นี่มีหนึ่งกิจกรรมกลางแจ้งสุดฮิตที่เราอยากจะแนะนำทุกคนให้ลองทำกันหากมาเที่ยวที่ไลพ์ซิก (Leipzig) นั่นก็คือการพายเรือแคนู หลายคนได้ฟังแล้วก็อาจจะอยากหันหน้าหนีแบบเราเองตอนแรกเพราะเราไม่เคยพายเรือแคนูจริงจังมาก่อนเลย อีกใจก็คิดว่าน่าจะสนุกดี อีกใจก็มีความขี้เกียจเข้าครอบงำ จำได้ว่าเคยพายแค่แป๊บเดียวตอนไปเที่ยวงาน Baimai Craft Camp “10th Anniversary” ก็รู้สึกเหนื่อยแล้วแถมกลัวด้วยเพราะเราว่ายน้ำไม่เป็น แต่แฟนก็คะยั้นคะยอให้ไปพายเรือด้วยกันให้ได้ บอกว่าเพื่อนชวนไปพายเรือด้วยกันนานแล้วไม่ได้พายซักที ยังไงก็มีกัน 2...

เที่ยวเบอร์ลินกับ Takemeaway.life เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายแล้วกับ 2 วันในการเดินตะลอนอยู่ในเบอร์ลิน เมืองที่อินดี้ที่สุดในประเทศเยอรมัน เมืองนี้ที่หลายๆคนอาจจะคิดว่าไม่ค่อยมีอะไรกลับมีสถานที่ที่น่าสนใจมากมายรอให้เราพาตัวเองไปให้ถึง ตอนสุดท้ายแล้วเราก็จะเต็มอิ่มกันหน่อยทั้งแวะดูนาฬิกาโลก (World Clock Berlin) สุดเจ๋ง เครื่องเดียวบอกเวลาได้แทบจะทั่วทั้งมุมโลก แถมมีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองกันเลย แนะนำอาหารราคาถูกที่หากินได้ในเยอรมันแทบจะทุกที่ที่เรียกว่าโดเนอร์ (Doner) พร้อมชี้พิกัดร้าน และเล่าเรื่องชีวิตใน 1 อาทิตย์กับครอบครัวชาวเยอรมันค่ะ รีวิวเที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเอง: แวะดูนาฬิกาโลกเบอร์ลิน (World Clock Berlin) กลางเมืองสุดเจ๋ง นาฬิกาโลกเบอร์ลิน (World Clock Berlin) นาฬิกาโลกเบอร์ลิน (World Clock Berlin) แห่งนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "Urania World Clock" เป็นนาฬิกาแบบแท่นหมุน (Turret clock) ออกแบบโดย Erich John สร้างมาตั้งแต่กันยายน ปี 1969 ไม่น่าเชื่อว่าเจ้านาฬิกาโลกนี้มีน้ำหนักมากถึง...

เราเคยคิดมาตลอดว่าถ้าได้มาเที่ยวที่ประเทศเยอรมัน สิ่งที่เราอยากจะมาเห็นมากที่สุดก็คือกำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall) เท่าที่เห็นที่บริเวณเช็คพอยท์ ชาร์ลี (Checkpoint Charlie) ก็เป็นเพียงแค่บางชิ้นส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่เท่านั้นเพราะตั้งแต่ปี 1989 หลังจากที่รัฐบาลเยอรมันตะวันออกประกาศว่าอนุญาตให้คนเยอรมันฝั่งตัวเองข้ามฝั่งไปยังเยอรมันตะวันตกได้ ผู้คนต่างพากันดีใจพร้อมทั้งช่วยทุบทำลายกำแพงเบอร์ลินที่เคยมีความยาวมากถึง 140 กิโลเมตรทิ้งเพื่อไม่ให้เป็นที่กั้นขวางคนเยอรมันทั้งสองฝั่งอีกต่อไป รัฐบาลเองก็ส่งคนและเครื่องมือมาช่วยกันทำลายด้วยแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะบางส่วนของกำแพงเบอร์ลินกว่า 1.3 กิโลเมตรยังคงถูกสงวนไว้เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งให้คนรุ่นหลังได้มาเห็นว่าครั้งนึงเคยมีกำแพงเบอร์ลินมาก่อน กำแพงเหล่านี้ถูกเพ้นท์ภาพที่กำแพงด้านในของฝั่งตะวันออกจนกลายเป็นแหล่งรวบรวมสตรีทอาร์ตจากศิลปินอิสระมากมายจากทั่วโลกมากกว่า 100 คนตั้งแต่ปี 1990 หลังกำแพงถูกทำลายลงจนกลายเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวอยากมาถ่ายรูปคู่กับสตรีทอาร์ตคูลๆเหล่านี้ ที่นี่มีชื่อว่า "อีสต์ไซด์แกลลอรี (The East Side Gallery)" รีวิวเที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเอง: วันที่สองของการเที่ยวเบอร์ลิน เริ่มต้นกันด้วยชมสตรีทอาร์ตบนกำแพงเบอร์ลินที่ยังไม่ถูกทำลาย เพื่อนๆคิดว่าธงชาติอันนี้หน้าตาคุ้นๆไหม? พอจะเดาออกกันไหมว่าเป็นธงชาติของประเทศอะไรกับประเทศอะไร? Lead me on my dreams Among different time and space To share hope with nations and...

ถึงจะเป็นเที่ยวเบอร์ลินตอนที่ 5 แล้ว แต่เชื่อไหมว่าทั้งหมดตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้สามารถทำได้ทั้งหมดใน 1 วันในเบอร์ลิน ตั้งแต่เดินเล่นในตลาดนัดอินดี้วันเสาร์ (Flohmarkt im Mauerpark), นั่งชิวในลานเบียร์เก่าแก่ (Prater garden) ย่านเพรนซเลาเออร์ แบร์ค (Prenzlauer Berg), ก้าวข้ามระหว่างฝั่งอดีตเยอรมันตะวันออกและเยอรมันตะวันตกที่เช็คพอยท์ ชาร์ลี (Checkpoint Charlie), ถ่ายรูปคู่กับประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate) แลนด์มาร์คของเบอร์ลิน, เดินเล่นรอบๆอาคารรัฐสภาเยอรมันบุนเดสทาค (Bundestag) และปิดท้ายวันด้วยการแวะไปไว้อาลัยให้กับชาวยิวกว่าล้านคนที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อนุสรณ์สถานฮอโลคอสต์พร้อมนั่งเล่นในเทียร์การ์เด้นท์ (Tiergarten) และส่องหาสุนัขจิ้งจอกที่อาศัยอยู่ในสวนขนาดใหญ่แห่งนี้ก่อนกลับที่พัก ซึ่งเราจะมาพูดถึงกันในบล็อกนี้นั่นเอง เที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเอง: แวะไว้อาลัยให้กับชาวยิวกว่าล้านคนที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อนุสรณ์สถานฮอโลคอสต์ (Holocaust Memorial) อนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (Memorial to the Murdered Jews of Europe) อนุสรณ์สถานฮอโลคอสต์...