เที่ยวเบอร์ลิน (Berlin) ตอนที่ 5: แวะไว้อาลัยให้กับชาวยิวกว่า 3 ล้านคนที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อนุสรณ์สถานฮอโลคอสต์ พร้อมแวะนั่งเล่นในเทียร์การ์เด้นท์ (Tiergarten) สวนร่มรื่นใจกลางกรุงเบอร์ลินที่มีสุนัขจิ้งจอกอาศัยอยู่ด้วย

เที่ยวเบอร์ลิน (Berlin) ตอนที่ 5: แวะไว้อาลัยให้กับชาวยิวกว่า 3 ล้านคนที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อนุสรณ์สถานฮอโลคอสต์ พร้อมแวะนั่งเล่นในเทียร์การ์เด้นท์ (Tiergarten) สวนร่มรื่นใจกลางกรุงเบอร์ลินที่มีสุนัขจิ้งจอกอาศัยอยู่ด้วย

ถึงจะเป็นเที่ยวเบอร์ลินตอนที่ 5 แล้ว แต่เชื่อไหมว่าทั้งหมดตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้สามารถทำได้ทั้งหมดใน 1 วันในเบอร์ลิน ตั้งแต่เดินเล่นในตลาดนัดอินดี้วันเสาร์ (Flohmarkt im Mauerpark), นั่งชิวในลานเบียร์เก่าแก่ (Prater garden) ย่านเพรนซเลาเออร์ แบร์ค (Prenzlauer Berg), ก้าวข้ามระหว่างฝั่งอดีตเยอรมันตะวันออกและเยอรมันตะวันตกที่เช็คพอยท์ ชาร์ลี (Checkpoint Charlie), ถ่ายรูปคู่กับประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate) แลนด์มาร์คของเบอร์ลิน, เดินเล่นรอบๆอาคารรัฐสภาเยอรมันบุนเดสทาค (Bundestag) และปิดท้ายวันด้วยการแวะไปไว้อาลัยให้กับชาวยิวกว่าล้านคนที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อนุสรณ์สถานฮอโลคอสต์พร้อมนั่งเล่นในเทียร์การ์เด้นท์ (Tiergarten) และส่องหาสุนัขจิ้งจอกที่อาศัยอยู่ในสวนขนาดใหญ่แห่งนี้ก่อนกลับที่พัก ซึ่งเราจะมาพูดถึงกันในบล็อกนี้นั่นเอง

เที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเอง: แวะไว้อาลัยให้กับชาวยิวกว่าล้านคนที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อนุสรณ์สถานฮอโลคอสต์ (Holocaust Memorial)

อนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (Memorial to the Murdered Jews of Europe)

อนุสรณ์สถานฮอโลคอสต์ (Holocaust Memorial) หรือ อนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (Memorial to the Murdered Jews of Europe) ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คนรุ่นหลังได้รำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวจำนวนมากถึง 3 ล้านคนที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยฝีมือของนาซีเยอรมัน นำโดยอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ จากการเกณฑ์คนยิวทั่วทั้งยุโรปเพื่อให้ไปอยู่ที่ค่ายลับ (concetration camp) ทำงานก่อสร้างภายในค่ายเพื่อเพิ่มขนาดของค่ายอย่างหนักในทุกๆวันในสภาวะแวดล้อมอันโหดร้าย ไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าหรืออาหารที่เพียงพอ จนหลายคนต้องอดตายภายในค่ายหรือเสียชีวิตจากโรคติดต่อในที่สุด

ใครพยายามหลบหนีจะถูกแขวนคอหรือยิงเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนชาวยิวคนอื่นๆในค่ายเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง แต่ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเสียชีวิตจากการโดนรมแก๊สพิษเป็นกลุ่มใหญ่ เป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสำหรับชาวยิวที่เคยเกิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์ของโลกที่ไม่ควรถูกลืม เพียงเพราะพวกเค้าแตกต่าง ซึ่งรายชื่อของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ล้านคนนั้นได้ถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ชั้นใต้ดินโดยได้รับข้อมูลมาจากอนุสรณ์สถานฮอโลคอสท์ยาดวาเชม เมืองเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล (The World Holocaust Remembrance Center, Yad Vashem)

สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน ปี 2003 และสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ปี 2004 โดยสถาปนิกชาวอเมริกันชื่อ Peter Eisenman งานออกแบบของเค้าชนะการแข่งขันและได้รับเลือกให้เป็นต้นแบบในการสร้างอนุสรณ์สถานแห่งนี้ ปีเตอร์ออกแบบมาให้ประกอบไปด้วยแผ่นคอนกรีตหนาจำนวนทั้งหมด 2,711 ชิ้นที่มีขนาดสูงต่ำแตกต่างกันออกไป ตั้งอยู่บนทางลาดไม่เสมอกันบนพื้นที่กว้าง 19,000 ตารางเมตร เค้าตั้งใจออกแบบให้คล้ายกับเป็นภาพลวงตาที่มีความไม่แน่นอน แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดจากการเรียงลำดับชัดเจนคล้ายกับคำสั่งที่เป็นขั้นเป็นตอน โดยใช้พื้นที่ว่าง เวลา และพื้นที่ไม่เรียบเสมอเป็นปกติสื่อถึงความรู้สึกที่ต้องทนทุกข์ของชาวยิวทั้งหลายจากการถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรม หลายคนให้ความเห็นว่าลักษณะของกล่องคอนกรีตเหล่านี้เหมือนหลุมฝังศพ (cemetery) เราเองก็รู้สึกแบบนั้นตอนที่ได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง ลองเดินไปมาอยู่ในเขาวงกตของแผ่นคอนกรีตแห่งนี้

กว่าเราจะไปถึงก็เย็นมากแล้ว พิพิธภัณฑ์เลยปิดซะละ พวกเราเลยอดเข้าไปดูข้างในเลย (อีกแล้ว) แต่สำหรับใครที่อยากเข้าไปชมภายในพิพิธภัณฑ์ด้วย เค้าเปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ค่ะ จดเวลาเอาไว้ให้ดี จะได้ไม่พลาดเหมือนกับพวกเรา ฮ่าๆ

  • ช่วงซัมเมอร์ (เดือนเมษายนถึงเดือนกันยายน) เปิดให้บริการเวลา 10.00 – 20.00 น. เข้าครั้งสุดท้ายได้ไม่เกิน 19.15 น.
  • ช่วงหน้าหนาว (เดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม) ปิดให้บริการเร็วกว่า 1 ชั่วโมง 10.00 – 19.00 น. เข้าครั้งสุดท้ายได้ไม่เกิน 18.15 น.

 

ราคาตั๋วค่าเข้าอนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว: ค่าตั๋วคนละ 3 ยูโร (100 บาท) ใครที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ราคาแค่ 2 ยูโร (70 บาท) เท่านั้น โดยสามารถจองล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์นี้เลยค่ะ จองตั๋วอนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว เบอร์ลิน ออนไลน์

เราเคยได้ยินเรื่องราวของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มาก็หลายครั้ง ผ่านรายการท่องเที่ยวโปรดของเราบ้าง อาจารย์ให้ดูภาพยนตร์ตอนสมัยเรียนบ้าง อ่านเจอตามอินเทอร์เน็ตมาบ้าง พอได้มีโอกาสมาเที่ยวที่ประเทศเยอรมันครั้งนี้ ลองค้นหาที่เที่ยวในเบอร์ลินก่อนมาว่ามีที่ไหนน่าไปบ้างก็มีชื่อของอนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (Memorial to the Murdered Jews of Europe) แห่งนี้ถูกรวมอยู่ในสถานที่ที่ควรไปเยี่ยมชมหากมาที่เบอร์ลินด้วย เราเลยไม่อยากพลาดที่จะพาตัวเองมาที่นี่ อนุสรณ์สถานฮอโลคอสต์แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากแลนด์มาร์คอื่นๆของเบอร์ลินอย่างประตูบรันเดินบวร์คหรืออาคารรัฐสภาเยอรมันบุนเดสทาคเลยค่ะ เดินแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึง เราเลยไม่อยากให้เพื่อนๆพลาดการมาเยี่ยมสถานที่แห่งนี้ด้วย หากได้มีโอกาสไปเที่ยวอิสราเอลในอนาคต เราก็อยากจะไปที่อนุสรณ์สถานฮอโลคอสท์ยาดวาเชม เมืองเยรูซาเล็มเหมือนกัน

พวกเราพากันเดินไปเดินมาในเขาวงกตแห่งนี้และนั่งพักจากการเดินทั่วเบอร์ลินกันมาทั้งวันอีกนิดหน่อย ก็พากันกลับ ก่อนเดินกลับเราชวนแฟนที่เป็นคนเยอรมันยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้กับ 3 ล้านชีวิตของชาวยิวที่นี่ด้วยกันซักพัก.. สถานที่แห่งนี้อาจไม่ใช่ที่สำหรับการปีนป่ายวิ่งเล่นให้สนุกกัน หรือยิ้มแอ็คท่าถ่ายรูปเท่ๆสวยๆไว้ลงไอจีอย่างเดียว เราว่ามันคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ตอนไปเราเห็นนักท่องเที่ยวหลายคนก็เพียงแค่เดินไปมารอบๆ มีนั่งพักบนแผ่นคอนกรีตขนาดเล็กบ้าง มีเด็กๆวิ่งเล่นส่งเสียงดังบ้างตามประสา มีวัยรุ่นแอ็คท่าเท่ๆตอนนั่งบนแท่งคอนกรีตนี้เพื่อถ่ายรูปบ้าง แต่สำหรับเราที่นี่เป็นสถานที่ที่เรารู้สึกเคารพ เลยขอถ่ายภาพขณะเดินอยู่ในอนุสรณ์สถานแห่งนี้เป็นที่ระลึกไว้เพียงแค่นั้น..

พิกัดอนุสรณ์สถานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (Memorial to the Murdered Jews of Europe): Memorial to the Murdered Jews of Europe Google Map

รีวิวเที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเอง: ขากลับเดินผ่านเทียร์การ์เด้นท์ (Tiergarten) โชคดีบังเอิญเจอสุนัขจิ้งจอกในสวนกลางเมืองของเบอร์ลินด้วย

เทียร์การ์เด้นท์ (Tiergarten)

สุนัขจิ้งจอกในเทียร์การ์เด้นท์ (Tiergarten)

ในเบอร์ลินมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่มากตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลยชื่อว่าเทียร์การ์เด้นท์ (Tiergarten) เราพากันเดินเข้าไปในสวนแห่งนี้ กะว่าจะหาที่นั่งอ่านหนังสือที่พกมาด้วยเล่นกันซักหน่อย บรรยากาศที่นี่ดีมากเลยเพื่อนๆ มีคนเยอรมันพากันขี่จักรยานภายในสวน ใครอยากขี่จักรยานก็มีจักรยานให้เช่าผ่านแอปพลิเคชันจอดรอให้ใช้บริการอยู่ด้านหน้าของเทียร์การ์เด้นท์ด้วย พวกเค้าเรียกที่นี่กันว่าสวน แต่เรากลับรู้สึกว่าที่นี่เหมือนกับป่าขนาดย่อมเลยก็ว่าได้ หลังจากเดินเข้ามาในสวนนี้คือเหมือนหลุดมาอีกโลกเลย มองไปทางไหนก็เขียวสดชื่นไปซะหมด สูดออกซิเจนได้เต็มปอด พื้นที่สวนกว้างมาก มีคนมาวิ่งออกกำลังกายและพาน้องหมามาเดินเล่นกัน ส่วนเราเองก็หาที่นั่งอ่านหนังสือเล่นกันได้สมใจอยาก

พอพระอาทิตย์เริ่มตก อากาศก็เริ่มเย็นขึ้น เลยเริ่มพากันเดินออกจากสวน ระหว่างนั้นก็บังเอิญเจอเข้ากับสุนัขจิ้งจอกที่วิ่งออกมาที่ลานกลางสวนจากพุ่มไม้พร้อมกับคาบอะไรบางอย่างอยู่ ตอนแรกนึกว่าน้องหมาธรรมดา มองไปมองมามันส้มๆ เห้ย! นั่นมันสุนัขจิ้งจอกนี่หว่า! ตอนนางวิ่งกระโจนออกมา พี่ก็เอาแต่กลัวตอนแรกเพราะไม่เคยเจอสุนัขจิ้งจอกตัวเป็นๆมาก่อน แค่หมาธรรมดาก็กลัวแล้ว แต่แฟนเรียกสติบอกให้รีบยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ เร็วเข้า! อีนี่กลัวก็กลัว ตื่นเต้นด้วย แต่รูปก็อยากได้ ฮ่าๆ ก็เลยถ่ายได้อยู่หลายแชะก่อนเจ้าสุนัขจิ้งจอกจะวิ่งหลบเข้าพุ่มไม้ไป นักท่องเที่ยวคนอื่นเห็นก็หยุดดูและถ่ายรูปเหมือนกันกับเรา ที่มันกลางเมืองนะ! ไม่ไกลจากนี้เป็นรัฐสภาและพระราชวังเก่า สวนเค้าทำไมสมบูรณ์อะไรขนาดนี้ แฟนบอกว่าสมัยก่อนสวนแห่งนี้เคยเป็นพื้นที่สำหรับล่าสัตว์ของกษัตริย์เยอรมันมาก่อนด้วย

ตอนนั่งรถไฟจากบ้านของพี่ชายเข้ามาในใจกลางเมืองเบอร์ลิน แฟนก็เห็นสุนัขจิ้งจอกอยู่ข้างทางเหมือนกันแต่พอเรามองไปกลับไม่ทันซะแล้ว อยากเห็นสุนัขจิ้งจอกตัวจริงที่ใช้ชีวิตอยู่ในธรรมชาติบ้าง นี่ไงได้เห็นแล้ว แบบใกล้ตัวสุดเลยด้วย ฮ่าๆ ส่วนที่บ้านของพี่ชายของแฟนที่เราพักอยู่นั้น ที่บ้านของพี่ชายแฟนมีแมวอยู่ 2 ตัวอ้วนๆ แต่ก่อนเค้าให้อาหารแมวนอกบ้าน แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาให้อาหารในบ้านแทนละเพราะแต่ก่อนตกดึกสุนัขจิ้งจอกชอบออกมาแอบกินอาหารแมวที่เหลือไว้

เค้าเล่าให้ฟังอีกว่าตอนดึกๆก็มีหมูป่าหลายตัวชอบเดินไปมาตามท้องถนนและทางเดินใกล้ๆเพื่อหาของกินเพราะแถวบ้านมีต้นไม้เยอะมากเหมือนเป็นป่าขนาดย่อมอีกเช่นกัน ช่วงหน้าร้อนถ้าพายุเข้าต้องระวังเพราะไม่นานมานี้ตอนเกิดพายุ ต้นไม้ก็หักโค่นลงมาที่กลางห้องเก็บของในสวนพังเละเทะ ต้องมานั่งซ่อมกัน แถมจะตัดต้นไม้อื่นๆก็ไม่ได้อีกเพราะรัฐบาลเยอรมันไม่อนุญาต แม้จะเป็นต้นไม้ที่อยู่ในบ้านของตัวเองก็ตาม ที่ไทยก็ตัดต้นไม้กันเป็นว่าเล่น ที่เยอรมันจะตัดทีก็ไม่ได้ กฏหมายเค้าเคร่งเกินไปอีก ความพอดีอยู่ตรงไหนน้อ เหตุผลก็ฟังขึ้นอยู่ พนักงานของรัฐก็เดินทางมาดูถึงสถานที่จริงแต่ก็ยังไม่อนุญาตอยู่ดี

กลับมากันที่เรื่องหมู่ป่าดีกว่า.. มีอยู่คืนนึงขณะที่นั่งเล่นกันอยู่ที่สวนนอกบ้าน พี่ชายนางก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงของหมูป่าวิ่งไปมาอยู่ข้างนอกรั้วบ้าน เค้าอยากให้เราเห็นก็เลยเรียกให้เราออกไปดู ส่องไฟออกไปนอกรั้วรอแป๊บเดียวเท่านั้นก็ได้เห็นก้นหมูป่าอยู่แป๊บๆก่อนที่นางจะวิ่งต่อ พี่อนุมัติ เออ มีหมูป่าวิ่งไปมาตอนกลางคืนอย่างที่เค้าว่าจริงๆด้วย เค้าเล่าให้ฟังว่ามีอยู่คืนนึงที่ลืมปิดประตูบ้านไว้ ตกดึกกำลังจะเข้านอน พวกเค้ากลับเห็นหมูป่าวิ่งไปมาอยู่ในบ้านเพราะหาทางออกไม่เจอ จนพังรั้วหนีออกไปในที่สุด รวมถึงรั้วของเพื่อนบ้านด้วย เสียหายกันเป็นแถว เค้าเล่าให้ฟังอีกว่าถ้าหมูป่าพวกนี้มีลูกเล็กๆนะต้องระวังอย่าเข้าใกล้เด็ดขาดเพราะนางหวงลูกกันมาก อ่าวเล่ามาซะขนาดนี้ วันที่สองที่พากันเข้ามาเที่ยวเบอร์ลินแล้วกลับกันดึก ต้องเดินจากสถานีรถรางกลับบ้านผ่านทางเดินมืดๆ พี่ก็ทั้งเครียดทั้งกลัวเลยทีนี้ คืนวันแรกก็ดึกเหมือนกันยังเดินชิวๆได้แบบไม่คิดอะไรเลย เห้อ

นึกถึงตอนที่เจอกระต่ายป่าตอนไปเดินเล่นรอบๆทะเลสาบใกล้ที่พักของเพื่อนดัตช์ในเมืองอัลค์มาร์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก็ว่าน่าตื่นเต้นแล้ว มาเจอหมู่ป่ากับสุนัขจิ้งจอกเข้าไปอีกยิ่งเป็นการย้ำเตือนว่า ธรรมชาติบ้านเค้าอุดมสมบูรณ์มากจริงๆ แม้จะเป็นบนพื้นที่ของเมืองใหญ่เองก็ตาม

เดินออกมาจากสวนก็จะเจอกับพระราชวังเก่าที่ถูกเปลี่ยนมาเป็นที่ทำงานของประธานาธิบดีของเยอรมันแทนในปัจจุบัน

ใครไปเที่ยวเบอร์ลิน อย่าลืมเดินเล่นผ่านสวนเทียร์การ์เด้นท์แห่งนี้กันด้วยนะคะ โดยเฉพาะคนกรุงเทพแบบเรา หนีฝุ่นและควัน PM 2.5 มาสูตรออกซิเจนกันให้เต็มปอดกันในสวนนี้ ที่นี่ก็เมืองหลวงเหมือนกันแต่เค้ากลับดูแลได้อย่างดีและรักษาสวนขนาดใหญ่นี้มารุ่นต่อรุ่น อยากให้ในไทยมีสวนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้เยอะแบบนี้บ้าง จะได้ผลิตออกซิเจนให้พวกเราได้หายใจอากาศสดชื่นกันได้เยอะๆ อ้อ! แล้วก็อย่าลืม.. มองหาน้องหมาสีส้มในสวนกันด้วยล่ะ เจอไหมยังไงมาเล่าให้ฟังกันที่เพจ Takemeaway FB Page ได้นะคะ 🙂

ประตูบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate)

เสาชัยชนะในเบอร์ลิน (Victory Column)

เทียร์การ์เด้นท์ถูกตัดผ่านด้วยถนนใหญ่ทำให้สวนถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ตอนข้ามถนนจะมองเห็นประตูบรันเดินบวร์คอยู่ไกลๆด้านซ้ายมือ ส่วนขวามือจะสามารถมองเห็นเสาชัยชนะในเบอร์ลิน (Victory Column) ซึ่งเป็นอนุเสาวรีย์ที่ถูกสร้างถึงแก่ชัยชนะของกษัตริย์ปรัสเซียต่อเดนิชในปี 1864 โดยเปิดให้สามารถขึ้นไปดูวิวของเบอร์ลินจากด้านบนได้ด้วย ค่าตั๋ว 3 ยูโร (120 บาท)

Reference: 10 facts about the Memorial to the Murdered Jews of Europe

อ่านเที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเองตอนก่อนหน้าได้ที่นี่:

อ่านเที่ยวเบอร์ลินด้วยตัวเองตอนต่อไปได้ที่นี่: เที่ยวเบอร์ลิน (Berlin) ตอนที่ 6: ชวนกิน Currywurst ที่ร้านอร่อยเจ้าดัง Konnopke’s Imbiss และพาย้อนเวลาถ่ายรูปขาวดำแบบอัตโนมัติด้วยตู้ Photoautomat


เช็คราคาตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ-เบอร์ลินได้ที่นี่: http://bit.ly/flights-Bangkok-Berlin

แนะนำวิธีค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกและคุ้มที่สุดสำหรับการเดินทางทั้งในไทยและต่างประเทศ เอาใจแบ็คแพ็คเกอร์สายประหยัดเหมือนกัน

เรื่อง: ตรีสุคนธ์ จีระมะกร (ตรี)
  • รับจ้างเขียน content สนใจส่งข้อความมาทางเว็บไซต์ได้เลยค่ะ
  • รับจองตั๋วเครื่องบินทั้งในไทยและต่างประเทศราคาถูก สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมและทักแชทมาได้ที่ Helloholidays.xyz FB Page