26 Nov เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ตอนที่ 3: เดินเล่นรอบๆในตัวเมืองไลพ์ซิก เมืองที่ถูกโหวตให้เป็นที่สุดของเมืองในยุโรปปี 2019 !
เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ด้วยตัวเอง: สวนสาธารณะในไลพ์ซิก (Leipzig), Johanna Park
ไลพ์ซิก (Leipzig) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐแซกโซนี (Saxony) ประเทศเยอรมันค่ะ เพิ่งเป็นเมืองที่ได้รับรางวัลเป็นที่สุดของเมืองในยุโรปจาก Urbanism Awards 2019 มาหมาดๆเลย โดยชนะเมืองนองต์ ประเทศฝรั่งเศส และเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ซะอีก ! จากตอนแรกที่เราเคยเล่าประสบการณ์พายเรือแคนูในคลองเมืองไลพ์ซิก เอาไว้ ก็จะเห็นได้ว่าไลพ์ซิกเป็นเมืองที่มีธรรมชาติโอบล้อมทำให้เป็นเมืองที่น่าอยู่มากเลย แถมยังมีสวนสัตว์ไลพ์ซิก (Zoo Leipzig) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนสัตว์ที่ดีที่สุดในยุโรปด้วย อีกสิ่งที่น่าสนใจของเมืองนี้คือเรื่องราวประวัติศาสตร์ค่ะ เพราะที่นี่เคยเป็นเมืองที่นโปเลียนเคยมาตั้งฐานทัพเพื่อส่งกองกำลังเข้าไปยึดยุโรปในสมัยที่สเปนต้องการจะยึดครองหลายประเทศในยุโรปอย่างเด็ดขาด ทำให้ที่นี่เป็นที่ๆเคยตกอยู่ในสมรภูมิรบอย่างหนักหน่วงมาก่อน แต่ด้วยความร่วมมือกันของกองทัพกษัตริย์และผู้ปกครองยุโรปก็สามารถเอาชัยชนะจากนโปเลียนได้ในที่สุดที่เมืองนี้เป็นที่แรก ทำให้ประเทศในยุโรปได้กลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง แต่นั่นก็เป็นเรื่องของเมื่อ 200 ปีที่แล้ว..
สวนสาธารณะในไลพ์ซิก (Leipzig), Johanna Park
ต่อมาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2.. ไลพ์ซิกยังเป็นเมืองที่มีบทบาทอย่างมากในการประท้วงเพื่อเรียกร้องอิสรภาพในการเดินทางตอนที่กำแพงเบอร์ลินยังแบ่งกั้นระหว่างเยอรมันตะวันตกและตะวันออกทำให้คนไลพ์ซิกที่อยู่ในฝั่งตะวันออกไม่มีอิสรภาพตรงนี้และเลือกที่จะเสี่ยงตายเพื่อให้ได้มันมา ก่อนหน้าที่กำแพงเบอร์ลินจะถูกทำลายลงไม่นานในปี 1989 มีคนมาร่วมประท้วงบนท้องถนนในเมืองไลพ์ซิกทุกๆวันจันทร์ จำนวนมากสุดถึง 320,000 คน ! แฟนเราที่เกิดที่เมืองนี้เล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจว่าไลพ์ซิกเป็นเมืองของนักสู้ เมืองที่ไม่ยอมแพ้หรือยอมจำนนกับอะไรง่ายๆ พวกเค้าสู้เพื่ออิสรภาพที่เค้าต้องการ และวันนึงมันก็สำเร็จ ไม่มีรัฐบาลเผด็จการทหารที่พวกเค้าไม่ต้องการอีกต่อไป !
สวนสาธารณะในไลพ์ซิก (Leipzig), Johanna Park
เราเริ่มต้นวันด้วยการนั่งรถรางจากบ้านที่พักมาลงที่สวนสาธารณะกลางเมืองกันซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือติดกับศาลากลางเมืองไลพ์ซิก (Leipzig City Hall) เลย เดินเล่นในสวนช่วงซัมเมอร์กันซักนิด ก็จะเห็นผู้คนมากมายเค้ามาใช้เวลาว่างในสวนไปกับการกางเปลไว้นอน ขี่จักรยาน อ่านหนังสือ คุยเม้าท์กับเพื่อน เข็นลูกน้อยพามาสูดอากาศบริสุทธิ์ในสวน นอนเล่นบนลานหญ้า ทุกคนมีสวนขนาดใหญ่มากเปรียบเสมือนป่ากลางเมือง Johanna Park เป็นที่ให้คนไลพ์ซิกได้มาพักร่างและพักใจ เราเองก็อยากมานั่งเล่นชิวแบบนี้บ้างแต่ว่าวันนี้เรามีภารกิจที่ต้องทำค่ะ เพราะมาถึงบ้านเกิดของแฟนทั้งที นางก็เลยอยากทำหน้าที่พลเมืองที่ดีซะหน่อยเพราะเป็นช่วงเลือกตั้งล่วงหน้าพอดี เราเลยถือโอกาสมาเดินเล่นในเมืองและส่งนางกาบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าเพื่อหย่อนที่ city hall ที่อยู่ใกล้ๆกันนี้ด้วยซะเลย
สวนสาธารณะในไลพ์ซิก (Leipzig), Johanna Park
พิกัด/แผนที่ Johanna Park Leipzig: Johanna Park Leipzig Google Map
พวกเราเดินลัดเลาะผ่านสวนมาเรื่อยๆจนมาถึงทางออกอีกฝั่งก็เจอเข้ากับมหาวิทยาลัยไลพ์ซิก (Leipzig University) พอดี ซึ่งเป็นมหาลัยเก่าแก่อันดับที่ 2 ของประเทศเยอรมัน ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1409 แฟนเราเคยเรียนวิศวะที่นี่ นางก็เลยพาเดินเข้าไปในมหาลัยของตัวเองเพื่อส่องดูข้างในซะหน่อย นางก็ไปแอบดูรายชื่อของอาจาร์ยที่ติดอยู่ที่บอร์ดด้านในว่าตัวเองเคยเรียนกับอาจารย์คนไหนบ้าง คนไหนใจดี คนไหนโหด จำได้ดี ฮ่าๆ ด้วยความที่มหาลัยค่อนข้างเก่าแก่ก็จะเห็นได้จากภาพว่าเป็นตึกเก่าที่สวยงาม เช่นกันกับตึกอื่นๆที่อยู่บริเวณเดียวกัน หากลองสังเกตที่หน้าตึกดีๆ จะเห็นได้ว่าบางตึกจะมีปีค.ศ.ถูกกำกับไว้ด้วยว่าตึกนั้นๆสร้างเสร็จตั้งแต่ปีไหนบ้าง ไว้ตอนเดินเล่นในไลพ์ซิก ลองสังเกตกันดูค่ะ
เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ด้วยตัวเอง: มหาวิทยาลัยไลพ์ซิก (Leipzig University)
อย่างตึกนี้ สร้างเสร็จมาตั้งแต่ปี 1888
สังเกตเห็นอะไรบนชั้นดาดฟ้าไหม อาร์ตจริงๆ
มหาวิทยาลัยไลพ์ซิก (Leipzig University)
มหาวิทยาลัยไลพ์ซิก (Leipzig University)
บริเวณมหาลัยก็จะเป็นที่อยู่ของสถานทูตบางแห่งด้วย
ห้องสมุดสาธารณะ ไลพ์ซิก (Leipzig Public Library)
พิกัด/แผนที่ มหาวิทยาลัยไลพ์ซิก (Leipzig University): Leipzig University Google Map
หลังจากเดินผ่านมหาวิทยาลัยไลพ์ซิกแล้ว เราก็จะมาป๊ะเข้ากับอีกหนึ่งสถานที่ที่สำคัญอย่างมากของเมืองไลพ์ซิก นั่นก็คือศาลปกครองกลางแห่งเยอรมัน (Federal Administrative Court of Germany) ที่เป็นศาลปกครองชั้นสูงสุดของประเทศเยอรมันด้วย ศาลแห่งนี้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อข้อพิพาทเกี่ยวกับอำนาจรัฐโดยเฉพาะเลยค่ะ เป็นการทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าการทำงานและประพฤติตัวของราชการเป็นไปตามกฎหมายปกครอง ซึ่งตอนที่ประเทศเยอรมันถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ศาลแห่งนี้ถูกปิดตัวลงในปี 1952 ด้วยคำสั่งของพรรคคอมมิวนิสต์ที่ปกครองไลพ์ซิกในสมัยนั้นเพื่อไม่ให้มีพื้นที่ให้กับประชาชนโต้แย้งคำสั่งการปกครองใดๆของทางรัฐฝั่งเยอรมันตะวันออกได้ แต่โชคดีที่ในปี 1989 หลังจากที่กำแพงเบอร์ลินได้ถูกทำลายลง ศาลปกครองแห่งนี้ได้ถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง.. อย่างที่ควรจะเป็น
เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ด้วยตัวเอง: ศาลปกครองกลางแห่งเยอรมัน (Federal Administrative Court of Germany)
ศาลปกครองกลางแห่งเยอรมัน (Federal Administrative Court of Germany)
ศาลปกครองกลางแห่งเยอรมัน (Federal Administrative Court of Germany)
“UNFUCK the world” = มาทำโลกให้มันดีขึ้นกว่านี้กันเถอะ !
สติ๊กเกอร์และสตรีทอาร์ตยังคงมีให้เห็นมากมายในไลพ์ซิกไม่ต่างจากเบอร์ลินเลย
ภาพบรรยากาศรอบๆ ศาลปกครองกลางแห่งเยอรมัน (Federal Administrative Court of Germany)
หลังจากที่เราหยุดแวะกันที่ศาลปกครองกันซักพัก เราก็เดินลัดเลาะกันต่อเพื่อไปยัง Leipzig city hall ตามที่ตั้งใจไว้ เข้าไปสอบถามเรื่องส่งบัตรเลือกตั้งก่อนหน้าข้างใน city hall เค้าบอกว่าต้องไปทำเรื่องที่อีกส่วนที่อยู่ด้านหลังของตึกอีกที จดหมายของการเลือกตั้งล่วงหน้าจะถูกส่งมาที่บ้าน หลังจากที่ทำการกาเพื่อเลือกพรรคการเมืองที่ชื่นชอบเรียบร้อยแล้ว ก็แค่พกจดหมายนั้นมาและหย่อนใส่ตู้ใน city hall เท่านั้นเอง แฟนก็พกจดหมายเลือกตั้งของแม่ที่กาและปิดปากซองเรียบร้อยมาหย่อนไว้ด้วยเช่นกัน ง่ายและสะดวกแค่นี้เลย การเลือกตั้งล่วงหน้าในเยอรมัน ไม่ได้มีแค่วันเดียวเท่านั้น คนก็มีเวลามาเลือกตั้งล่วงหน้ามากขึ้น ซึ่งช่วงที่เราอยู่ในไลพ์ซิก เปิดทีวีดูก็จะเห็นเหล่าตัวแทนนักการเมืองจากพรรคต่างๆออกรายการทีวีต่างๆเพื่อพูดถึงนโยบายของพรรคการเมืองตัวเอง ซึ่งสังเกตได้เลยว่าคนเยอรมันเค้าค่อนข้างให้ความสนใจอย่างมาก ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการเมืองกันอย่างจริงจัง เพราะทั้งแฟน พี่สาวแฟน และแฟนของพี่สาวต่างนั่งดูทีวีฟังนักการเมืองพูดกันใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่เขาให้ความสนใจกับการเมืองในประเทศของตัวเอง เพราะในบางประเทศผู้คนค่อนข้างเหนื่อยหน่ายกับการเมืองของประเทศตัวเองจนอาจจะหลงลืมใส่ใจมันไป
ด้านข้างของศาลากลางเมืองไลพ์ซิก (Leipzig City Hall)
ด้านหน้าของศาลากลางเมืองไลพ์ซิก (Leipzig City Hall)
ด้านในของศาลากลางเมืองไลพ์ซิก (Leipzig City Hall)
หลังจากทำภารกิจเลือกตั้งล่วงหน้าในเยอรมันกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ไปเดินเล่นในเมืองกันต่อได้ เริ่มหิวแล้วด้วย ได้เวลาไปหาอะไรกินกันค่ะ ในร้านอาหารในเมืองมันแพง เราเลยจะไม่ย่างก้าวเข้าไปแน่นอน แต่จะพาไปกินสตรีทฟู้ดเยอรมันราคาถูกกันค่ะ หลังจากได้ลองกิน currywurst ที่เบอร์ลินแล้ว มาลองกินอาหารเยอรมันพื้นเมืองอีกอย่างกันบ้าง เรียกว่า บราตเวอร์สต์ (bratwurst) ค่ะ bratwurst ก็คือไส้กรอกเยอรมันที่ทำจากเนื้อหรือหมูย่างหรือทอด ถูกเสิร์ฟให้กินคู่กับขนมปัง หน้าตาคล้ายขนมปังไส้กรอกนั่นเอง ส่วนคนเยอรมันเค้าชอบกินไส้กรอกเยอรมันกับมัสตาร์ดกันมาก แต่เราชอบราดซอสมะเขือเทศซะมากกว่า
ถนนช้อปปิ้งในไลพ์ซิก
เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ด้วยตัวเอง: ลองกิน bratwurst
ร้านขายบราเวอร์ต์ (bratwurst) ใน Leipzig, Echte Thüringer Rostbratwurst
Thuringer Rostbratwurst 3 ยูโร (100 บาท)
Rauchwurst/knacker 2.5 ยูโร (83 บาท)
แค่อันเดียวก็อิ่มแปล้แล้วล่ะค่ะ ไส้กรอกอร่อยมาก แต่ว่าขนมปังเฉยๆนะ ซึ่งเราชอบ Thuringer Rostbratwurst มากกว่า Rauchwurst/knacker เพราะเนื้อไส้กรอกนุ่มและหอมสมุนไพรมากกว่า โดยร้านเป็นแค่ซุ้มเล็กๆที่ตั้งอยู่ย่านหลักที่เป็นถนนช้อปปิ้งของคนไลพ์ซิกที่เต็มไปด้วยร้านของแบรนด์ดังต่างๆมากมาย ส่วนเราเดินผ่านโซนดูดเงินเหล่านี้ไปนั่งเล่นกิน bratwurst แบบสบายใจเฉิบอยู่ที่สวนเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลจากซุ้มร้าน Echte Thüringer Rostbratwurst แทน แถมแบ่งขนมปังให้นกกินด้วยอีกต่างหาก ฮ่าๆ แต่ไส้กรอกพี่ไม้แบ่งใครนะ !
พิกัด/แผนที่ร้าน Echte Thüringer Rostbratwurst: Echte Thüringer Rostbratwurst Google Map
เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ด้วยตัวเอง: โบสถ์นักบุญโธมัส ไลพ์ซิก (St. Thomas Church Leipzig)
โบสถ์นักบุญโธมัส ไลพ์ซิก (St. Thomas Church Leipzig)
จากสวนที่เรานั่งเล่นกันซักพัก ไม่ไกลออกไปเลยจากถนนช้อปปิ้ง เป็นที่อยู่ของโบสถ์ในไลพ์ซิกที่มีชื่อว่าโบสถ์นักบุญโธมัส ไลพ์ซิก (St. Thomas Church Leipzig) ซึ่งเปิดให้เข้าชมข้างในได้เลยฟรีๆ ข้างนอกมีลานน้ำพุที่กลายเป็นที่เล่นสนุกสนานของเด็กๆ และมีร้านอาหารหรูหราตั้งอยู่ล้อมรอบ พอเดินเข้ามาข้างในโบสถ์เป็นอีกบรรยากาศนึงเลยคือค่อนข้างเงียบสงบ ที่นี่เป็นโบสถ์เก่าแก่ของเมืองไลพ์ซิกเพราะสร้างมาตั้งแต่ปี 1212 แล้วค่ะ และยังเป็นหลุมฝังศพของคีตกวีและนักออร์แกนชื่อดังของเยอรมันที่เคยทำงานที่โบสถ์แห่งนี้ด้วย เค้ามีชื่อว่า โยฮัน เซบัสทีอัน บัค (Johann Sebastian Bach) ผู้แต่งเพลงที่มีชื่อเสียงอย่างเพลงแพชชัน (Passion) แม้แต่นักแต่งเพลงชื่อดังอย่างโมทซาร์ท (Mozart) และเบทโฮเฟิน (Beethoven) ก็ให้ความเคารพนับถือบัคให้เป็นเหมือนอาจารย์ของพวกเค้าเลยทีเดียว
พิกัด/แผนที่ โบสถ์นักบุญโธมัส ไลพ์ซิก (St. Thomas Church Leipzig): St. Thomas Church Google Map
เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ด้วยตัวเอง: ศาลากลางเมืองเก่าของไลพ์ซิก (old city hall Leipzig)
ศาลากลางเมืองเก่าของไลพ์ซิก (old city hall Leipzig)
และนี่ก็คือศาลากลางเมืองเก่าของไลพ์ซิกค่ะ (old city hall Leipzig) เป็นตึกขนาดใหญ่ที่มีศิลปะแบบเรอเนซองส์ไม่กี่แห่งที่ยังหลงเหลืออยู่ในประเทศเยอรมัน ตึกที่เราแวะไปเลือกตั้งล่วงหน้าเป็น city hall ใหม่ของ Leipzig นั่นเอง ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเมืองไลพ์ซิกและเหล่าร้านขายของฝากแทน (Museum of City History Leipzig, Old Town Hall) เราไม่ได้เป็นแฟนของพิพิธภัณฑ์ก็เลยได้ทำการเพิกเฉยไป ฮ่าๆ แต่ที่น่าสนใจก็คือสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (Metro) ที่อยู่ติดกันนั้นเป็นหนึ่งใน 10 สถานีของรถไฟฟ้าใต้ดินของไลพ์ซิก ซึ่งถือว่าเป็นสาย Metro ที่สั้นมากเลยใช่ไหมล่ะคะ เพราะคนที่นี่ส่วนใหญ่ก็จะเดินทางด้วยรถรางกันซะมากกว่า
เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ด้วยตัวเอง: Madle Passage
Madle Passage
ร้าน Auerbach’s Keller ในห้าง Madler Passage
ใกล้กันกับบริเวณของ old city hall เป็นที่อยู่ของห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ของไลพ์ซิกที่มีชื่อว่า Madler Passage ที่สร้างอยู่ ณ ใจกลางเมืองไลพ์ซิกเป็นเวลากว่า 500 ปีที่แล้ว ปกติเราจะเห็นเหล่าร้านค้าต่างๆในลักษณะเรียงกันบนถนนช้อปปิ้งกันซะเป็นส่วนใหญ่ทั้งตอนที่เราไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัมและเที่ยวอัลค์มาร์ ส่วนในเบอร์ลินก็เห็นว่ามีห้างขนาดใหญ่ที่ย่านอเล็กซานเดอร์พลาทซ์แต่ก็เป็นตึกแบบสมัยใหม่ไม่ต่างจากกรุงเทพ ส่วนห้างนี้แตกต่างตรงที่อาคารมีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยที่ไลพ์ซิกรุ่งเรืองจากการค้าในสมัยก่อน ภายในตรงทางเดินเองก็มีความสวยงาม มีการประดับประดาด้วยต้นไม้ตามทางเดิน ส่วนร้านข้างในก็ดูหรูมากจนไม่อยากคิดถึงราคาของภายในร้านเลย คนเดินห้างไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่ แต่ที่นี่มีร้าน Auerbach’s Keller ที่มีชื่อเสียงจากการเป็นบาร์ไวน์โปรดของนักเขียนชื่อดังของประเทศเยอรมันที่ชื่อว่า Goethe สมัยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยไลพ์ซิก ภาพวาดเก่าแก่ในร้านตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เกี่ยวกับปีศาจมีส่วนเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือเรื่อง Faust ของเค้า ทำให้สังเกตได้ว่าจะมีคนไปยืนถ่ายรูปที่รูปปั้นซีนหนึ่งในหนังสือที่ปีศาจกำลังพา Faust ไปท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่หน้าร้านเป็นที่ระลึกกันใหญ่
ร้านคาเฟ่ Riquet, Kaffeehaus Riquet Café
เดินไปตามตรอกซอกซอยในไลพ์ซิกก็ไปเจอเข้ากับอาคารๆนึงที่เห็นแล้วก็เอ้ย สวยจัง แต่เอ๊ะ ! ทำไมดูเอเชียๆ มองไปข้างบนมีศาลาจีนตั้งอยู่บนหลังคาของตึกอีกต่างหาก พอเดินเข้าไปใกล้เข้าก็เห็นป้ายบริษัท Riquet & Co. A.G. 1745 และ Tee-Japan-Chinawaren-import อาคารนี้เคยเป็นที่อยู่ของบริษัทสินค้านำเข้าจากเอเชียอย่างประเทศญี่ปุ่นและจีนนั่นเอง เป็นอีกตึกที่ย้ำเตือนอีกว่าสมัยศตวรรษที่ 17 นี่ เมืองไลพ์ซิกเค้ารุ่งเรืองด้านการค้าจริงๆ ปัจจุบันตึกนี้ถูกเปลี่ยนไปเป็นคาเฟ่ Kaffeehaus Riquet Cafe แทน โดยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 – 19.00 น.
พิกัดร้านคาเฟ่ Riquet ไลพ์ซิก: Kaffeehaus Riquet Café Google Map
เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ด้วยตัวเอง: โบสถ์เซนต์นิโคลัส, ไลพ์ซิก (St. Nicholas Church, Leipzig)
โบสถ์เซนต์นิโคลัส, ไลพ์ซิก (St. Nicholas Church, Leipzig)
โบสถ์นี้แฟนเราตั้งใจพามาดูมาก เพราะโบสถ์เซนต์นิโคลัสเป็นโบสถ์ที่มีความสำคัญอย่างมากกับเมืองไลพ์ซิกและคนไลพ์ซิกเอง เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไลพ์ซิกและคนเยอรมันฝั่งตะวันออกในช่วงที่ประเทศเยอรมันถูกแบ่งออกเป็น 2 ฟากฝั่ง ผู้คนพากันมาอธิษฐานเพื่อสันติภาพที่โบสถ์แห่งนี้เพราะไม่อยากถูกปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์อีกต่อไป เป็นเวลากว่า 9 ปีก่อนกำแพงเบอร์ลินถูกทำลายลงตั้งแต่ปี 1980 ในที่สุดคำอธิษฐานของพวกเค้าก็เป็นจริงขึ้นมา.. แถมขึ้นชื่อได้ว่าเป็นโบสถ์ที่มีความสวยงามมาก หากใครมาเที่ยวที่ไลพ์ซิกก็ไม่ควรพลาดมาเยี่ยมชมโบสถ์แห่งนี้ด้วย ด้านนอกกำลังถูกปรับปรุงซ่อมแซมอยู่ เราเลยได้เห็นแต่ด้านในเท่านั้น ตรงบริเวณทางเข้ามองขึ้นไปด้านบนจะมีภาพวาดสีสันสวยงามประดับประดาอยู่หลายภาพ เราชอบตรงที่ภายในตัวโบสถ์เป็นสีชมพูพาสเทลและเสาก็ทำให้เหมือนกับต้นไม้ใหญ่คอยค้ำจุนตัวอาคารอยู่ ทำให้อาคารดูมีชีวิตขึ้นมา โชคดีที่ตอนเราไปมีไกด์พานักท่องเที่ยวเดินชมโบสถ์อยู่พอดี เราเลยได้มีโอกาสได้ยินเสียงดนตรีเพราะๆจากออร์แกนที่ตั้งอยู่ทางด้านหลังของโบสถ์ด้วย นักท่องเที่ยวต่างพากันยืนฟังกันอย่างตั้งใจแบบที่เห็นอย่างในภาพ
พิกัด/แผนที่ โบสถ์เซนต์นิโคลัส, ไลพ์ซิก (St. Nicholas Church, Leipzig): St. Nicholas Church, Leipzig Google Map
วิธีซื้อตั๋วรถรางในไลพ์ซิก (Leipzig) ประเทศเยอรมัน (Germany)
ตู้สำหรับซื้อตั๋วรถรางในไลพ์ซิก (Leipzig) ประเทศเยอรมัน (Germany)
ตั๋วรถรางแบบเหมา 1 อาทิตย์ในไลพ์ซิก (Leipzig) ประเทศเยอรมัน (Germany)
ใกล้ๆกับป้ายรอรถรางบางแห่งในไลพ์ซิกจะมีตู้สำหรับซื้อตั๋วรถรางตั้งอยู่ใกล้ๆแบบในภาพด้านบนค่ะ เราก็เพียงเลือกเมนูภาษาอังกฤษแล้วก็เลือกซื้อตั๋วแบบที่ต้องการได้เลย เราอยู่ที่ไลพ์ซิกอาทิตย์กว่าก็เลยซื้อตั๋วเหมาแบบ 1 อาทิตย์ไปเลยเพราะคำนวณดูแล้วถูกกว่ามาก แถมตั๋วแบบเดียวกันนี้ สามารถใช้ได้กับรถเมล์ รถไฟ และรถไฟฟ้าใต้ดินในไลพ์ซิกอีกด้วย คุ้มมากๆ เพราะบางครั้งการเดินทางในไลพ์ซิกอาจจะต้องมีการต่อสายคือนั่งทั้งรถรางและรถบัสเพื่อไปถึงจุดหมายที่เราต้องการ หรือบางครั้งนั่งรถไฟเร็วกว่าเพราะเดินไปถึงใกล้กว่าสถานีรถราง เป็นต้น ตู้สำหรับซื้อตั๋วรถรางนี้รับทั้งเงินสดและบัตรเครดิต ส่วนใหญ่คนเยอรมันเค้าจะจ่ายเงินด้วยบัตรเพราะสะดวกกว่ามากเพราะไม่ต้องพกเงินสด สำหรับราคาตั๋วรถรางแบบเหมา 1 อาทิตย์ในไลพ์ซิก ราคา 27.30 ยูโร (916 บาท) ต่อคนค่ะ
ป้ายรอรถรางในไลพ์ซิก (Leipzig) ประเทศเยอรมัน (Germany)
ป้ายบอกสถานีในรถรางในไลพ์ซิก (Leipzig) ประเทศเยอรมัน (Germany)
แต่หากคุณซื้อตั๋วแบบรายวัน/ชั่วโมง เวลาขึ้นไปบนรถรางก็ต้องทำการ activate ตั๋วว่าถูกใช้งานแล้วทุกครั้ง มองหาเจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมที่อยู่แถวๆประตูทางเข้า หรือสังเกตคนอื่นดูก็ได้ค่ะ จะต้องสอดตั๋วเข้าไปในช่องเล็กๆบนเครื่องนี้เพื่อทำการลงวันที่ที่เราใช้ เพราะไม่มีตั๋วรถเมล์เหมือนบ้านเราคอยตรวจตั๋วนั่นเอง ส่วนตั๋วรถรางแบบรายอาทิตย์ที่เราซื้อไม่ต้องทำการ activate แล้ว แค่พกตั๋วไว้กับตั๋วแค่นั้นก็พอค่ะ การนั่งรถรางในไลพ์ซิกต้องคอยสังเกตหน้าจอที่บอกสถานีให้ดีๆ ถ้าเห็นว่าสถานีต่อไปเป็นสถานีของเรา ต้องรีบกดออดล่วงหน้า เพราะเค้าจะไม่จอดหากไม่มีคนรอขึ้นรถที่สถานีนั้นๆ หรือไม่มีคนบนรถกดออดก่อนบอกให้รู้ล่วงหน้า แต่ถ้ามีคนลงสถานีเดียวกับเราพอดีก็โชคดีไป ลงรถไปด้วยแบบไม่ต้องเป็นกังวล
รถไฟในไลพ์ซิกก็สะดวกสบายมาก มีที่ชาร์จแบทให้ด้วย แต่รถไฟในเยอรมันไม่มี wifi ฟรีบนรถไฟให้บริการเหมือนในเนเธอร์แลนด์เลย
เวลาเลือกที่นั่งเราพยายามนั่งใกล้ๆกับป้ายบอกสถานีต่อไปเพราะไม่อยากเลยป้าย
อ่านเที่ยวไลพ์ซิกด้วยตัวเองตอนก่อนหน้าได้ที่นี่: เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ตอนที่ 2: พาเที่ยวสวนสัตว์ไลพ์ซิก (Zoo Leipzig) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสวนสัตว์ที่ดีที่สุดในยุโรป !
อ่านเที่ยวไลพ์ซิกด้วยตัวเองตอนต่อไปได้ที่นี่: เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ตอนที่ 4: Schulanfang วิธีทำให้เด็กอยากไปโรงเรียนของคนเยอรมันตั้งแต่การเข้าเรียนวันแรก !
เช็คราคาตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ-ไลพ์ซิกได้ที่นี่: http://bit.ly/Cheapflights-Bangkok-Leipzig
เรื่อง ตรีสุคนธ์ จีระมะกร (ตรี)
- รับจ้างเขียน content สนใจส่งข้อความมาทางเว็บไซต์ได้เลยค่ะ
- รับจองตั๋วเครื่องบินทั้งในไทยและต่างประเทศราคาถูก สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมและทักแชทมาได้ที่ Helloholidays.xyz FB Page
เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ตอนที่ 2: พาเที่ยวสวนสัตว์ไลพ์ซิก (Zoo Leipzig) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสวนสัตว์
Posted at 12:42h, 26 November[…] […]
เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ตอนที่ 4: Schulanfang วิธีทำให้เด็กอยากไปโรงเรียนของคนเยอรมันตั้งแต่การเข้าเรีย
Posted at 08:19h, 04 December[…] […]
เที่ยวไลพ์ซิก (Leipzig) ตอนที่ 5: บ้านเล็กในสวนของคนไลพ์ซิก ตลาดขายของเก่า Agra และ farmer market กลางเมือง - Take
Posted at 12:25h, 10 December[…] Old city hall ที่เราเดินผ่านตอนเดินเล่นรอบๆในตัวเมืองไลพ์ซิก ในทุกวันอังคารถึงวันศุกร์จะมี farmer […]
รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณะรัฐเช็ค (Czech Republic) ช่วงหน้าร้อน เดินเล่นทั่วเมืองได้แบบไม่มีเบื่อ ! -
Posted at 09:42h, 28 December[…] เรานั่งรถไฟจากเมืองไลพ์ซิก (Leipzig) ประเทศเยอรมัน (Germany) มาทางตะวันออกเพื่อไปยังเมืองปราก (Prague) ประเทศสาธารณะรัฐเช็ค (Czech Republic) เป็นเวลาทั้งหมด 6 ชั่วโมง โดยต้องแวะเปลี่ยนขบวนรถไฟที่เมืองเดรสเดน (Dresden) ด้วย หากใครที่ต้องการเดินทางจากเมืองในประเทศเยอรมันไปที่ปรากเหมือนกัน สามารถจองตั๋วรถไฟออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์จองตั๋วรถไฟของเยอรมันที่นี่เลยค่ะ http://www.bahn.com ยิ่งจองก่อนล่วงหน้านานเท่าไหร่ก็ยิ่งถูกกว่า ! รถไฟที่เรานั่งเป็นของสาธารณะรัฐเช็ค สะดวกสบายมาก ที่นั่งแบ่งออกเป็นห้องๆ จินตนาการไปว่าเหมือนรถไฟฮอกวอร์ตเลย ไพรเวทสุด แถมมี wifi บนรถไฟให้บริการอีกต่างหาก ขนาดรถไฟของเยอรมันเองเขายังไม่มีเลย […]
รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณะรัฐเช็ก (Czech Republic) ตอนที่ 1: นั่งรถไฟจากเยอรมันไปปรากและแนะนำคาเฟ่ขน
Posted at 13:42h, 28 December[…] เรานั่งรถไฟจากเมืองไลพ์ซิก (Leipzig) ประเทศเยอรมัน (Germany) มาทางตะวันออกเพื่อไปยังเมืองปราก (Prague) ประเทศสาธารณะรัฐเช็ค (Czech Republic) เป็นเวลาทั้งหมด 6 ชั่วโมง โดยต้องแวะเปลี่ยนขบวนรถไฟที่เมืองเดรสเดน (Dresden) ด้วย หากใครที่ต้องการเดินทางจากเมืองในประเทศเยอรมันไปที่ปรากเหมือนกัน สามารถจองตั๋วรถไฟออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์จองตั๋วรถไฟของเยอรมันที่นี่เลยค่ะ http://www.bahn.com ยิ่งจองก่อนล่วงหน้านานเท่าไหร่ก็ยิ่งถูกกว่า ! รถไฟที่เรานั่งเป็นของสาธารณะรัฐเช็ค สะดวกสบายมาก ที่นั่งแบ่งออกเป็นห้องๆ จินตนาการไปว่าเหมือนรถไฟฮอกวอร์ตเลย ไพรเวทสุด แถมมี wifi บนรถไฟให้บริการอีกต่างหาก ขนาดรถไฟของเยอรมันเองเขายังไม่มีเลย […]
รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณะรัฐเช็ก (Czech Republic) ตอนที่ 1: นั่งรถไฟจากเยอรมันไปปรากและแนะนำคาเฟ่ขน
Posted at 14:01h, 28 December[…] เรานั่งรถไฟจากเมืองไลพ์ซิก (Leipzig) ประเทศเยอรมัน (Germany) มาทางตะวันออกเพื่อไปยังเมืองปราก (Prague) ประเทศสาธารณะรัฐเช็ก (Czech Republic) เป็นเวลาทั้งหมด 6 ชั่วโมง โดยต้องแวะเปลี่ยนขบวนรถไฟที่เมืองเดรสเดน (Dresden) ด้วย หากใครที่ต้องการเดินทางจากเมืองในประเทศเยอรมันไปที่ปรากเหมือนกัน สามารถจองตั๋วรถไฟออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์จองตั๋วรถไฟของเยอรมันที่นี่เลยค่ะ http://www.bahn.com ยิ่งจองก่อนล่วงหน้านานเท่าไหร่ก็ยิ่งถูกกว่า ! รถไฟที่เรานั่งเป็นของสาธารณะรัฐเช็ก สะดวกสบายมาก ที่นั่งแบ่งออกเป็นห้องๆ จินตนาการไปว่าเหมือนรถไฟฮอกวอร์ตเลย ไพรเวทสุด แถมมี wifi บนรถไฟให้บริการอีกต่างหาก ขนาดรถไฟของเยอรมันเองเขายังไม่มีเลย […]
รีวิวเที่ยวปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) ตอนที่ 1: นั่งรถไฟจากเยอรมันไปปรากและแนะนำคาเฟ่ขนม
Posted at 08:46h, 29 December[…] เรานั่งรถไฟจากเมืองไลพ์ซิก (Leipzig) ประเทศเยอรมัน (Germany) มาทางตะวันออกเพื่อไปยังเมืองปราก (Prague) ประเทศสาธารณะรัฐเช็ก (Czech Republic) เป็นเวลาทั้งหมด 6 ชั่วโมง โดยต้องแวะเปลี่ยนขบวนรถไฟที่เมืองเดรสเดน (Dresden) ด้วย หากใครที่ต้องการเดินทางจากเมืองในประเทศเยอรมันไปที่ปรากเหมือนกัน สามารถจองตั๋วรถไฟออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์จองตั๋วรถไฟของเยอรมันที่นี่เลยค่ะ http://www.bahn.com ยิ่งจองก่อนล่วงหน้านานเท่าไหร่ก็ยิ่งถูกกว่า ! รถไฟที่เรานั่งเป็นของสาธารณะรัฐเช็ก สะดวกสบายมาก ที่นั่งแบ่งออกเป็นห้องๆ จินตนาการไปว่าเหมือนรถไฟฮอกวอร์ตเลย ไพรเวทสุด แถมมี wifi บนรถไฟให้บริการอีกต่างหาก ขนาดรถไฟของเยอรมันเองเขายังไม่มีเลย […]