Author: threeteatree

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปดูหนังที่โรงหนังทางเลือก House RCA เป็นครั้งแรก ปกติไม่ค่อยดูหนังในโรงเท่าไหร่นักเพราะราคาแพงและในโรงหนังก็หนาวซะเหลือเกิน ชอบย้อนหาดูหนังเก่าๆที่น่าสนใจซะมากกว่า หนังแนวโปรดของผู้หญิงเพ้อๆอย่างเราก็คือหนังรักโรแมนติกอย่าง One day, The Note Book, Love Rosie และ Me before you พอเราเห็นคนแชร์เกี่ยวกับหนังเรื่อง "Wildlife" หนังที่พูดถึงอีกแง่มุมนึงของความรักและครอบครัว ที่มีฉายที่ House RCA ด้วย พร้อมกับพระเอกสุดหล่อคนโปรดของเราอย่าง เจค จิลเลนฮาล (Jake Gyllenhaal) รับบทเล่นเป็นคุณพ่อเจอร์รี่ (Jerry Brinson) ในครั้งนี้ เลยเป็นโอกาสดีที่จะได้มาดูหนังที่โรงหนังอินดี้แห่งนี้ซักที เคยได้ยินแต่คนพูดถึง.. วิธีเดินทางไป House RCA คือลง MRT สถานีเพชรบุรีทางออกที่ 1 แล้วเดินย้อนไปจนถึงทางรถไฟจะมีรถมอเตอร์ไซด์จอดรออยู่ บอกไป House RCA ราคาจะอยู่ที่ 30 บาท...

ไม่น่าเชื่อเลยว่า ย่านทองหล่อที่เต็มไปด้วยร้านอาหารหรู บาร์ คลับ และตึกสูงใหญ่มากมาย จะมีมุมที่เป็นสวนเล็กๆที่น่ารักแบบนี้ให้เราได้แวะเข้าไปนั่งเล่นได้อย่างสบายใจ.. จนลืมไปเลยว่ากำลังนั่งอยู่ในใจกลางเมืองกรุงอย่างทองหล่อ บริเวณกลางสวนจะมีพื้นที่ให้ครอบครัวสามารถพาเด็กๆมาเล่นทราย เล่นของเล่นที่ทางสวนจัดเตรียมไว้ให้กันได้ฟรีๆ เราเห็นทั้งคนไทยและชาวต่างชาติพาลูกๆมาเล่นกันมากมาย มองดูเด็กๆวิ่งเล่นไปมาก็เพลินตา ทางด้านหน้าจะมีคาเฟ่ขายเครื่องดื่มไว้ให้บริการ รสชาติอร่อยใช้ได้เลยหล่ะ คาเฟ่ในสวนที่นี่ชิวอย่าบอกใคร นั่งดื่มไป ชมสวนไป ตากลมธรรมชาติไม่ต้องง้อแอร์ แถมรายได้ของทางร้านที่ได้จากเราไปก็จะเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่นได้ ที่นี่นั่งเล่นเพลินๆลืมเวลาไปได้เลย ไม่ต้องห่วง เพราะมีห้องน้ำสะอาดคอยให้บริการอยู่ทางด้านหลังของสวนด้วย "การแบ่งปันของคุณ.. เปลี่ยนแปลงสังคม"  ที่นี่รับบริจาคสิ่งของต่างๆไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของใช้ต่างๆ คอมพิวเตอร์ถึงแม้จะพังแล้ว ของเล่น และหนังสือ เพื่อนำไปบริจาคให้แก่เด็กๆในถิ่นทุรกันดาร และบางส่วนถูกนำมาขายในราคาถูกเพื่อหารายได้เข้า มูลนิธิกระจกเงา (The mirror foundation) มูลนิธิเพื่อสังคมที่สร้างสรรค์โครงการดีๆมากมายเพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างเช่น ศูนย์ข้อมูลคนหาย, โครงการอ่านสร้างชาติ, โครงการกองทุนเสื้อผ้าเพื่อการแบ่งปัน, โครงการคอมพิวเตอร์เพื่อน้อง และอื่นๆอีกหลายโครงการ.. ตู้เย็นที่ไม่ใช้แล้วสามารถนำมาบริจาคเพื่อทำเป็นตู้ใส่หนังสือสำหรับเด็กๆในชื่อ "ตู้หนังสือเย็นๆ" หนังสือมือสองที่นำมาบริจาคจะถูกส่งต่อให้กับโรงเรียนและชุมชนที่ขาดแคลน เพื่อนๆสามารถนำกระดาษ...

ไปลองมาแล้ว “Summer Bowl” ที่ Hawaiian Cafe 🌺 เกาะฮาวายกลางเมืองกรุง 🏝 เดินเข้าซอยทองหล่อ 13 (ตั้งใจถ่ายป้ายซอยจริ๊งๆ) ชิดซ้ายไปเรื่อยๆ จนผ่านร้าน After You จะเห็นป้ายร้านอยู่ด้านหน้า ส่วนร้านจะแอบอยู่ด้านในแบบในภาพ  คือพี่ชอบบบ อร่อยยย กินแล้วรู้สึกสดชื่นและ Healthy มากๆ Haleiwa Bowl : Regular 275 Baht เราสั่งเป็น “Haleiwa Bowl” ประกอบไปด้วย Acai, Strawberries, Blueberries, Banana, Coconut Yokurt, Granola --> สามารถเลือก Topping ผลไม้ตามใจฉันเพิ่มได้อีกหนึ่งอย่าง.. เราเลือกใส่มะม่วงไป คือหวานหอมมม และสามารถเลือก Granola ที่อยากลองทาน เราเลือก Summer Bowl : Butterfly Pea and...

สวัสดีค่ะทุกคน เราได้มีโอกาสไปสัมนาฟรีในหัวข้อ "สัมภาษณ์อย่างไรให้ได้งาน" จากสถาบันสอนภาษาอังกฤษ Inspire English ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างคุณครูสอนภาษาอังกฤษที่สถาบันและฝ่าย HR เก่าของบริษัทชื่อดังอย่าง Toyota แล้วอยากสรุปความรู้ที่ได้รับมาไว้ในนี้ เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับการสัมภาษณ์งานของทุกคนกันค่ะ เริ่มจากกิจกรรมถาม-ตอบกับเพื่อนๆที่มาสัมนาด้วยกัน (Ice breaking) Where are you from ? - I am from Bangkok, Thailand. What do you do now ? (ถามถึงอาชีพที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน) - I am an auditor. What kind of job are you looking for ? (กำลังมองหางานแบบไหนอยู่) - I...

เรานั่งรถไฟจากกายาไปโกลกาตา บนรถไฟได้ยินเสียงเด็กๆกลุ่มนึงนั่งร้องเพลงกันอยู่ทางด้านหลัง เรามีคุกกี้อยู่เลยถามเด็กๆว่ากินไหม เด็กๆส่ายหน้า (ไม่กินขนมของคนแปลกหน้า ฮ่าๆ) แต่ซักพัก.. พวกเค้าก็หันมาชวนคุยว่ามาจากไหน ประเทศอะไร นับถือศาสนาอะไร ขอเข้ามานั่งกับเรา ให้เราสอนภาษาไทยให้ จดใส่สมุด ให้วาดรูปให้ เราเลยวาดรูปเกี่ยวกับกรุงเทพให้เค้าดูว่าเป็นยังไง มีตึกและห้างสรรพสินค้ามากมาย รถติด มีรถไฟฟ้าใต้ดิน บนดิน วาดต้มยำกุ้งให้ดู ว่านี่คืออาหารบ้านเรานะและอร่อยมาก พวกเขาเป็นเด็กๆที่เรียนยูโดและเพิ่งกลับมาจากการแข่งขันกัน แถมชนะซะด้วย ถึงแม้จะบอกว่าทีมของเมืองหลวงจากนิวเดลีขี้โกงมากๆ เราคุยเล่นกันซักพัก.. ง่วงเลยต้องขอตัวไปงีบหลับ ตื่นมาพวกเค้าก็ชวนคุยเล่นอีก พวกเค้าไม่อายที่จะพูดภาษาอังกฤษเลย แถมมีนิสัยอยากเรียนรู้ ถามนู่นถามนี่อยากรู้เรื่องต่างๆ ถึงแล้วโกลกาตา ได้เวลาต้องโบกมือลาอีกครั้ง.. ที่นี่มีสุสานของแม่ชีเทเรซาตั้งอยู่ เราเคยแต่ได้ยินชื่อของท่านแต่โชคดีวันนี้ได้มีโอกาสมาเยี่ยมที่สุสานที่ตั้งอยู่ใน Missionaries of charity mother house มีพิพิธภัณฑ์เล็กๆเล่าเรื่องราวอยู่ด้านใน เราไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาดีๆ วันพฤหัสที่เราไปดันเป็นวันที่เค้าปิดพอดี แต่แม่ชีที่นั่นก็ใจดีเปิดให้เราได้เข้าไปดู.. ท่านเป็นนักพรตหญิงในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ช่วยเหลือและต่อสู้เพื่อคนยากไร้ ท่านมีเชื่อสายอัลเบเนียโดยกำเนิดแต่เดินทางมาที่อินเดียและใช้ชีวิตบั้นปลายที่นี่เพราะเมื่อตอนที่ยังอายุน้อยได้ยินว่ามีคนยากไร้อยู่เยอะและอยากจะช่วยเหลือ จึงได้บวชเป็นแม่ชีและไม่ได้เห็นหน้าแม่และน้องสาวอีกเลยนับจากนั้น ท่านยังเป็นครูสอนวิชาภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์และเป็นครูใหญ่ในภายหลังในโรงเรียนทางตอนเหนือของอินเดีย พานักเรียนและครูผ่านเหตุการณ์เลวร้ายจากความรุนแรงและสงครามในอินเดียไปได้ด้วยดี...

ระหว่างพาราณสีถึงโกลกาตาค่อนข้างไกลเราเลยต้องหยุดพักเมืองนึงระหว่างทางก่อน วันนึงในโรงแรมที่อัครา บังเอิญเจอหนังสือท่องเที่ยวเลยหยิบมาดู มีเมืองนึงชื่อ "กายา" ที่น่าสนใจเพราะมีสถานที่ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้อยู่ที่นั่น เป็นเมืองที่อยู่ระหว่างทางพอดี เราเลยอยากแวะที่เมืองนี้ เมืองที่ไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะไปกลับเป็นเมืองที่เราชอบมากที่สุดในทริปนี้.. ทางเดียวกัน ไปด้วยกัน เดินผ่านบ้านหลากหลายสีสันที่เค้ากำลังช่วยกันทาสีบ้านด้วยตัวเอง เราเดินทางด้วยแชร์ตุ๊กๆคันเล็กๆที่ด้านหลังถูกนำกล่องไม้มาวางไว้เป็นที่นั่งทำให้โดยสารได้พร้อมกันทั้งหมดเกือบ 10 คนและเดินทางไกลในราคาแค่คนละ 40 บาทแค่ต้องเบียดๆกันหน่อย ฮ่าๆ มาถึงตลาดก็เห็นมีพระเดินอยู่ตามท้องถนน เราเดินไปเรื่อยๆ ก็มีคนอินเดียชวนเราคุยเป็นภาษาไทยบอกว่าไปเรียนที่วัดไทยมา พระอาจารย์สอนฟรี เราหยุดที่ร้านขายหนังสือแห่งหนึ่ง ข้างในมีสติ๊กเกอร์เขียนว่า “Free Tibet” ขายอยู่ เพราะทิเบตเป็นเมืองขึ้นของจีนอยู่ในขณะนี้ เราคิดว่าเพิ่งเป็นมาไม่นาน แต่จริงๆเป็นมานานเกือบ 70 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างที่เราอยู่ที่อินเดียเห็นพี่ฌอน บูรณะหิรัญ นักสร้างแรงบันดาลใจไอดอลของเราลงรูปใน IG ว่าเข้าพบดาไลลามะที่อินเดีย เราเลยเพิ่งรู้ว่าท่านอยู่ที่อินเดียไม่ใช่ทิเบต วัดทิเบตในกายา ดาไลลามะองค์ที่ 14 ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบตท่านนี้ต้องเดินทางออกนอกทิเบตมาอยู่ที่อินเดียเพราะถูกทางการจีนขอให้ออกจากประเทศ ผู้คนตายมากกว่า 1 ล้านคน และ วัดถูกทำลายมากถึง 40,000...

จากเมืองอัคราเรานั่งรถไฟข้ามวันไปที่เมืองพาราณสีกันต่อ ที่นี่มีแม่น้ำคงคาที่ผู้คนให้ความเคารพ หากเดินไปตามท่าน้ำต่างๆจะเห็นผู้คนเดินทางหลั่งไหลเข้ามาชำระร่างกายกันที่นี่ เชื่อว่าน้ำจะสามารถชำระล้างบาปได้ในความคิดของชาวฮินดู แม้เราจะเห็นว่าน้ำนั้นสกปรกและมีขยะลอยอยู่ก็ตาม ที่ Dashashwamedh Ghat ตกเย็นจะมีการแสดงสรรเสิญเทพเจ้า ผู้คนมากมายจ่ายค่าตั๋วราคา 50 บาทและนั่งรอบนเรือที่จอดอยู่ที่ท่า พวกเราก็เป็นหนึ่งในนั้น การแสดงถูกจัดขึ้นด้วยดอกไม้ ควัน และตะเกียงจุดไฟ มีชีวิตชีวามากขึ้นด้วยการร่วมมือของผู้คนที่มาชมช่วยกันร้องเพลงและปรบมือไปด้วยกัน รถไฟนอนของอินเดีย พี่หลับได้สบาย หลังจากการแสดงจบ มีชายคนนึงเดินเข้ามาหาเราบอกว่าจะพาไปดูสถานที่เผาศพของที่นี่ เคยได้ยินมาก่อนว่าจะมีการเผาศพใกล้แม่น้ำแห่งนี้ด้วย ด้วยความอยากรู้อยากเห็นทำให้เราเดินตามเค้าไป จนมาหยุดอยู่กับคุณลุงท่านนึง เค้าอธิบายให้เราฟังเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ ตึกที่เราเห็นด้านข้างนี้เป็นสถานที่ดูแลคนที่มีอายุมากแล้ว พวกเค้าจะช่วยกันดูแลหาอาหารมาให้ หากเมื่อใดที่เสียชีวิตเค้าจะนำร่างมาเผาที่ที่แห่งนี้ เค้าบอกว่าเค้าภูมิใจในงานที่ทำเพราะได้ช่วยเหลือผู้คน รอบๆเต็มไปด้วยไม้ที่ถูกตัดเตรียมไว้ใช้มากมายตั้งอยู่เรียงราย ไฟจากพระศิวะที่ใช้ในการเผาศพจะถูกหล่อเลี้ยงให้ลุกโชนตลอดเวลาเพื่อใช้สำหรับการเผาศพที่เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง ศพจะถูกแช่ในน้ำเพื่อชำระล้างบาปเป็นครั้งสุดท้าย และถูกนำขึ้นมาคลุมด้วยผ้าและดอกไม้ไว้ ลูกชายคนโตจะต้องโกนศรีษะ นุ่งขาวห่มขาว และมาชำระร่างกายที่แม่น้ำแห่งนี้เช่นกัน คนในครอบครัวจะไม่มีใครร้องไห้ เพราะเชื่อว่าจะทำให้วิญญาณจากไปอย่างสงบสุข เพราะที่นี่มีความศักดิ์สิทธิ์มากสำหรับชาวฮินดู เป็นที่ที่พวกเค้าอยากให้ร่างมาอยู่เป็นครั้งสุดท้าย เราค่อยๆเดินตามเข้าไปดูสถานที่จริงด้วยความกล้าๆกลัวๆ ภาพที่เห็นตรงหน้าเป็นที่เผาศพที่วางเรียงกัน 2 ข้าง เป็นเพียงแต่ฐาน ฟืน...

วันต่อมาเราเดินทางไปยังเมืองอัคราด้วยรถไฟ ตกเย็นผู้หญิงอินเดีย 2 คนที่นั่งตรงข้ามเราช่วยกันทำอาหารเย็นบนรถไฟ ปอกแตงกว่า มะเขือเทศ หอมใหญ่ โรยถั่ว ปรุงด้วยมะนาวและเกลือเทใส่จานกระดาษแบ่งให้สามีและลูกๆกินกัน แล้วก็แบ่งให้เรากินด้วย หลังจากนั้นก็จัดโรตีใส่จาน พร้อมกับซอสคล้ายน้ำพริกบ้านเราไว้จิ้มกินกับโรตี เค้าก็แบ่งให้เรากินอีก ให้เยอะมากจนกินไม่หมด เรารู้สึกเกรงใจมากที่กินโรตีอีก 2 แผ่นไม่ไหว แต่เค้าบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวจะเอาให้ลิงตามสถานีรถไฟกิน แถมยังปอกฝรั่งแบ่งให้เรากินอีก สรุปเย็นวันนั้นอิ่มหนำสำราญกันมากในขณะที่ก่อนขึ้นรถไฟกลัวว่าจะหิวไม่มีอะไรกิน เราอยากให้อะไรเค้าซักอย่างเป็นการตอบแทนแต่ไม่มีอะไรติดตัวเลยยกเว้นแต่ลูกอมแตงโมที่ติดตัวจากไทยไปเหลืออยู่ เราแบ่งให้เด็กๆกิน ปรากฏว่าเด็กๆชอบ แม่ๆเลยลองกินด้วย พวกเค้าก็เริ่มกล้าคุยกับเรามากขึ้น เราเลยชวนเล่นเกมที่เอามือซ้อนกันแล้วทายว่านิ้วไหนหายไป เราสลับทายกันไปมาอย่างสนุกสนาน เล่นกันตลอดทางจนเมื่อรถไฟถึงจุดหมายของเรา ก็ถึงเวลาต้องบอกลา พวกเราขอบคุณทุกคนอีกครั้ง พวกเค้าน่ารักและใจดีกับเรามาก เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่จะไม่ลืมของทริปนี้ ทัชมาฮาล อนุสรณ์แห่งความรัก หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ตั้งอยู่ที่เมืองนี้ เป้าหมายหลักของเราที่มาอินเดียในครั้งนี้ พวกเราตื่นกันแต่เช้าอากาศจะได้ไม่ร้อนและคนไม่เยอะจนเกินไป ค่อยๆเดินเข้าไปก็จะเห็นอาคารคล้ายมัสยิดขนาดใหญ่ที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวตั้งตระหง่านอยู่ เดินเข้าไปใกล้เข้า ก็จะเห็นความยิ่งใหญ่ของที่นี่มากขึ้นเรื่อยๆ ลวดลายดอกไม้ที่มีสีสันบนตัวอาคารนั้นไม่ได้เกิดจากเพ้นสีแต่อย่างใด แต่เกิดจากการแกะสลักหินสีต่างๆทั้ง แดง เขียว เหลือง...

“ประเทศของคุณมีประชากรทั้งหมดกี่คน?” หญิงสาวอินเดียคนนึงที่นั่งเบียดด้วยกันบนแชร์ตุ๊กๆถาม “70 ล้านคนได้” เราตอบ เค้าถึงกับหัวเราะออกมา แน่ละ ประเทศเราเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับอินเดียที่มีประชากรมากถึง 1.34 พันล้านคน มีคนเคยกล่าวเอาไว้ว่าถ้าคุณได้ไปอินเดียสักครั้ง ไม่ตกหลุมรักประเทศนี้ก็จะเกลียดไปเลย เราอยากไปตามหาคำตอบนี้ของตัวเอง ค้นหาตั๋วที่ถูกที่สุดจากกรุงเทพไปอินเดีย ได้เป็นเส้นทางเริ่มต้นจากเมืองชัยปุระสิ้นสุดที่เมืองโกลกาตา เดินทางโดยรถไฟเป็นหลักผ่านเมืองสำคัญต่างๆ คือ ชัยปุระ (Jaipur) อัครา (Agra) พาราณสี (Varanasi) คยา (Gaya) และ โกลกาตา (Kolkata) ที่เมืองชัยปุระ ขณะที่เจ้าของโรงแรมกำลังถ่ายรูปเรากับป้ายชื่อโรงแรม ก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างขยับอยู่ข้างๆ หันไปดูปรากฏว่าเป็นลิงนั่งอยู่บนกำแพง ซักพักก็มีอีก 3-4 ตัววิ่งตามกันเข้ามา เจ้าของโรงแรมบอกว่าอะไรที่เราเห็นในสวนสัตว์ จะเห็นได้ตามท้องถนนของที่นี่ ซึ่งก็เป็นอย่างที่เค้าว่าจริงๆ เพราะตอนที่เราเดินไปขึ้นรถบัสสาธารณะเพื่อไป Amber fort วังเก่าของเมืองนี้ ก็เจอทั้งอูฐ ลา วัว ช้าง...

กระท่อมริมทะเลที่กอลล์   หนีความหนาวบนเขามาชิวๆ ที่ชายหาดทางใต้ของประเทศศรีลังกาอย่างกอลล์ (Galle) กันบ้าง เราจองที่พักเป็นกระท่อมเล็กๆ ริมทะเลของชาวบ้านที่นี่ชื่อว่า Rosa Shashi Cabanas Hut in Galle ราคาแค่ประมาณ 300 บาทต่อคืน นั่งตุ๊กๆ มาจากสถานีรถบัสแค่ 40 บาทก็ถึงแล้ว กระท่อมถูกสร้างขึ้นที่หลังบ้านของเจ้าของที่พักเอง มีทั้งหมด 2 หลังถ้วน คือหลังที่เราจอง ส่วนอีกหลังเขากำลังปรับปรุงอยู่ ฮ่าๆ มีวิวเป็นชายหาดส่วนตัวหน้าที่พัก ที่นี่เงียบสงบมาก แทบไม่มีคนเลย แม้ใกล้ๆ กันจะมีโรงแรมหรูขนาดใหญ่ตั้งอยู่ก็ตาม ส่วนบ้านข้างๆ มีเรือประมงจอดอยู่ด้วย ตอนเย็นๆ ก็เห็นเขาออกมาจับปลา วิวจากห้องพักที่กอลล์   Beach Trash Collector   คลื่นทะเลที่นี่ค่อนข้างสูง มีธงสีแดงปักอยู่เพื่อเป็นการเตือนว่าไม่ควรออกไปว่ายน้ำเล่นไกลๆ เราออกไปยืนเล่นที่ริมหาดสู้กับคลื่นสักพัก แรกๆ ก็สนุกดี หลังๆ คลื่นเริ่มจะพาไปไกล ต้องถอยไปเล่นหลังโขดหินแทน บนชายหาดมีสารพัดเปลือกหอยที่ถูกพัดเข้าฝั่ง มีปูดำแอบอยู่ตามโขดหินเยอะมาก...